บิ๊กตู่ ยังกั๊ก พูดไม่เต็มปาก"นักการเมือง" ส่วนคอหวยเก็ง ทะเบียนรถ

• Share:

บิ๊กตู่ ยังแทงกั๊ก กับคำว่า นักการเมือง ย้ำกับประชาชนที่บึงกาฬ ให้นำเงินช่วยคนจน 500 บาทไปใช้ให้มีประโยชน์ ขณะที่คอหวยยังคอยชำเลืองเลขทะเบียนรถตู้ หวังนำไปเสี่ยงดวงต่อโชค  วันที่ 12 ธ.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เดินทางตรวจราชการในพื้นที่ จ.บึงกาฬ-หนองคาย และประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ หรือ ครม.สัญจรที่ จ.หนองคาย พร้อมเยี่ยมชมผลงานการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่ง นายกฯ ได้กล่าวกับประชาชนที่มารอต้อนรับ ย้ำว่า การให้เงิน 500 บาทผ่านบัตรประชารัฐ เพื่อลดค่าใช้จ่ายครัวเรือน แต่ขอให้นำเงินไปใช้อย่างมีประโยชน์ ซื้อสิ่งของที่จำเป็น ส่วนงบประมาณที่อนุมัติในการใช้จ่ายผ่านบัตรประชารัฐ ก็พิจารณาจากงบประมาณที่มีอยู่ เพราะไม่สามารถนำงบทั้งหมดมาช่วยประชาชนเพียงกลุ่มเดียวได้ เพราะรัฐบาลจะต้องดูแลสวัสดิการในด้านอื่นๆ ทั้ง ด้านสาธารณสุข การศึกษา เป็นต้น

นายกรัฐมนตรี ยังขอให้ทุกคนเคารพกติกา ขณะนี้เมื่อเริ่มมีการปลดล็อกทำกิจกรรมทางการเมือง ก็เริ่มมีการชุมนุมประท้วง ต่อต้าน วิจารณ์รัฐบาล ซึ่งไม่รู้ว่าจะทำไปเพื่ออะไร ที่ผ่านมาทุกคนต้องเรียนรู้ และนำประสบการณ์มาเป็นบทเรียนของประเทศ และประชาชนทุกคนจะต้องเลือกคนจะเข้ามาเป็นรัฐบาลที่ดี เข้าใจถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในอดีต ที่ไม่ทำให้รัฐเสียประโยชน์ เช่น เรื่องโครงการจำนำข้าว ที่มีข้าวเสียหาย เพราะการดำเนินการที่ไม่เป็นไปตามกลไกตลาด และนับจากนี้ขอให้คำนึงถึงสิ่งที่นักการเมืองพูดว่าทำได้จริงหรือไม่

นายกรัฐมนตรี ระบุว่า แม้ยังไม่สามารถตอบได้ว่าเป็นนักการเมืองเต็มตัวหรือไม่ แต่ด้วยการทำหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน ก็ถือว่าตนเองเป็นนักการเมือง และรู้สึกเป็นทุกข์เวลามีประชาชนมาให้การต้อนรับ เพราะประชาชนคาดหวัง ดังนั้นจึงยอมตายและยอมเป็นทุกข์กับหน้าที่ตรงนี้เพื่อทำให้ความคาดหวังของประชาชนเป็นจริง

"ผมมาวันนี้ ถ้าเป็นนักการเมืองเต็มตัว ตอนนี้จะบอกว่าไม่ใช่ก็ไม่ได้ เพราะผมบริหารประเทศ ถ้าเป็นนักการเมืองจะดีใจ เพราะมีคนมาต้อนรับเยอะ ลุงตู่ ลุงตู่ รู้ไหมว่าผมเป็นทุกข์ แต่ผมยอมเป็นทุกข์ ยอมตายจากตรงนี้ ถ้าผมกลับไป ผมก็จะนอนคิดว่าทำไมต้องมาหวังที่เรา ทำไมเขาต้องให้เราทำงาน เพราะเขามีความหวังไง เราต้องทำความหวังให้เป็นความจริง แต่เราจะไม่หลอกลวงโดยเฉพาะที่บอกว่าเดี๋ยวจะดีขึ้น จะทำเรื่องนั้นเรื่องนี้ เราต้องทำทีละขั้นตอน และประชาชนต้องศึกษาสิ่งที่รัฐบาลทำมา” พลเอกประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี ยังย้ำถึงแผนบริหารจัดการน้ำภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ที่มีมากกว่า 2 พันโครงการ อนุมัติงบประมาณกว่า 19,000 ล้านบาท ทำให้มีพื้นที่ทางการเกษตรที่จะได้รับการประโยชน์มากกว่า 470,000 ไร่ และกว่า 130,000 ครัวเรือนได้รับประโยชน์

นายกฯ กล่าวทิ้งท้ายว่า ทุกคนต้องร่วมกันเป็นจิตอาสา ทำความดี ช่วยเหลือประเทศ ทุกคนต้องมีจิตอาสา คือการทำความดีด้วยหัวใจอันยิ่งใหญ่ของคนไทยทุกคน เพราะไม่ว่าจะเป็นใครทุกคนคือคนไทย แต่ทั้งนี้ต้องทำให้คนไม่ดีทำความเสียหายไม่ได้อีกต่อไป และยืนยันไม่ได้เป็นศัตรูกับใคร และขอให้กำนันผู้ใหญ่บ้านทำหน้าที่ให้ดี

ทั้งนี้ ย้ำว่าถ้าบ้านเมืองไม่สงบ มีการประท้วง และเดินขบวนถือป้าย ทุกคนต้องคิดว่าจะเกิดปัญหาไรขึ้น ทั้งการค้าขาย การสัญจรไปมาไม่ได้ และอาจจะเกิดปัญหาในครอบครัว เพราะคนในครอบครัวไม่สามารถพูดคุยกันได้ ทั้งที่เรื่องการเมืองไม่ใช่เรื่องความขัดแย้ง แต่เป็นเรื่องความสร้างสรรค์ ซึ่งการทำการเมืองแบบสร้างสรรค์ที่ดีสุด ให้ไปรับฟังนโยบายพรรคไหนดีที่สุด

จากนั้นนายกฯ ได้เยี่ยมชมผลงานการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลของจังหวัดบึงกาฬ ทั้งโครงการถนนยางพาราและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากยางพารา เกษตรแปลงใหญ่ การปลูกข้าวครบวงจร ผลิตภัณฑ์ OTOP การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์หนองเลิง และโครงการคืนถังขยะ ก่อนเดินทางไปยัง จ.หนองคาย เยี่ยมชมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานจากระบบประปา รองรับความต้องการใช้น้ำในพื้นที่ รวมไปถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น และการท่องเที่ยว รวมถึงการจัดสรรที่ดินทำกิน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จุดสนใจอีกอย่างคือการที่นายกรัฐมนตรีเดินทางลงพื้นที่ จ.บึงกาฬ ครั้งนี้คือ รถยนต์พาหนะใช้เดินทาง พบว่า ภารกิจครั้งนี้มีการนำรถยนต์โตโยต้า เวลไฟร์ สีดำ ทะเบียน 5 กง 44 กรุงเทพมหานคร มาใช้สำหรับการเดินทางไปยังที่ต่างๆ ของผู้นำรัฐบาล. 



ขอบคุณที่มา  https://www.thairath.co.th/content/1443421