กุยช่ายขาวแพงหนัก หลังเจอวิกฤติภัยแล้ง ราคาสูงกิโลละ 100 บาท

              เกษตรกรปลูกกุยช่ายขาว-กุยช่ายเขียว ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ยอมลดพื้นที่ปลูกกุยช่ายลง ถึงแม้ว่าตลาดจะมียอดการสั่งซื้อสูง หลังประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ

              วันที่ 22 ส.ค. 62 บ้านนาเพียง หมู่ที่ 4  ตำบลสำราญ  อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น  นับเป็นพื้นที่หลักสำคัญ  ในการปลูกกุยช่ายขาว และกุยช่ายเขียว แปลงใหญ่ จากสถานการณ์ภัยแล้งและภาวะฝนทิ้งช่วง ตลอดจนเจ้าหน้าที่เขื่อน ลดการระบายน้ำช่วยเหลือ ทำให้เกษตรกรได้รับผลกระทบอย่างหนัก 

              นางสำรวย อายุ 59 ปี ชาวบ้านนาเพียง หมู่ที่ 4 กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดมากว่า 50 ปี พึ่งเคยเจอวิกฤตภัยแล้งหนักในปีนี้ นอกจากชาวบ้านจะขาดแคลนน้ำสำหรับการอุปโภค-บริโภค ถึงขั้นต้องซื้อน้ำบรรจุถัง แทนน้ำประปาที่มีกลิ่นเหม็นโคลนตมแล้ว

              ชาวบ้านหมู่บ้านแห่งนี้ ที่ยึดอาชีพปลูกกุยช่ายขาว-กุยช่ายเขียวลักษณะนาแปลงใหญ่ เนื้อที่มากกว่า 700 ไร่ ส่งตลาดกำลังประสบปัญหาขาดแคลนน้ำไปฉีดรด ต้นกุยช่าย จากปกติช่วงมีน้ำจะรดวันละ 2-3 รอบ แต่ในช่วงนี้ต้องรดน้ำวันละครั้ง ทำให้ต้นกุยช่ายไม่สมบูรณ์ใบลีบแห้ง ไม่เพียงพอความต้องการของตลาดที่สั่งซื้อเข้ามา จึงทำให้กุยช่ายขาวราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 100 -110 บาท

              ขณะเดียวกันเกษตรกรหลายรายได้ยกเลิกการปลูกกุยช่ายไปในปีนี้ โดยหันไปปลูกพืชอายุสั้นใช้น้ำน้อยประเภทถั่วฝักยาวแทนเพื่อสร้างรายได้เสริม จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้นและผ่านพ้นวิกฤตภัยแล้งจึงจะหันมาทำการปลูกกุยช่ายในรอบใหม่


ขอขอบคุณ

ข้อมูล : https://www.sanook.com/news/7872966/

เช็ก 5 สัญญาณเตือนคุณออกกำลังกายมากไปหรือเปล่า?

             สวัสดีเพื่อนๆชาว Pepper ทุกคน กลับมาพบกันเป็นประจำทุกวันเช่นเคยกับเรื่องราวสาระดีๆ สำหรับบทความนี้เป็นบทความด้านสุขภาพ สำหรับคนที่รักการออกกำลังกายที่เราจะมาเตือนว่าการออกกำลังกายมากเกินไปจนโอเวอร์โหลดร่างกายของตัวเองนั้นไม่ส่งผลดีต่อสุขภาพเลย เเละหากใครที่หมกมุ่นกับการออกกำลังกายมากเกินไปก็จะมีสัญญาณเเย่ทางกายเเสดงออกเตือนให้คุณได้ทราบ หากคุณหัดสังเกตก็จะพบกับความผิดปกติที่เกิดขึ้น ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น เรามาดูกันเลย

1. ขาดความสดชื่นกระปรี้กระเปร่า

             การออกกำลังกายมากเกินไปย่อมทำให้ร่างกายไม่สามารถฟื้นฟูได้ทัน ทำให้คุณรู้สึกอ่อนเพลียเมื่อยล้าจากการที่ร่างกายขาดพลังงาน ภูมิคุ้มกันอ่อนเเอลง เเละกล้ามเนื้อที่เหนื่อยล้า ส่งผลต่อความสดชื่นกระปรี้กระเปร่า เเละชีวิตชีวาที่ขาดหายไปในเเต่ละวัน

2. เจ็บป่วยได้ง่ายขึ้น

             คนที่ออกกำลังกายหนักเกินไปจนโหลดตัวเองจะทำให้อ่อนเเอลงทั้งสภาพร่างกายเเละจิตใจ เนื่องจากร่างกายที่อ่อนล้าไร้เรี่ยวเเรง มีอาการเจ็บปวดกล้ามเนื้อทุกการเคลื่อนไหว ซึ่งจะส่งผลให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายอ่อนเเองลง ประกอบกับการนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ซึ่งจะทำให้คุณเจ็บป่วยได้ง่ายขึ้นนั่นเอง

3. สภาพจิตใจย่ำเเย่ ไม่สดใส

             ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะร่างกายเเละจิตใจคนเรามีความสัมพันธ์กัน หากร่างกายย่ำเเย่ มีอาการเจ็บปวดกล้ามเนื้อ เเถมรู้สึกเหมือนว่าจะป่วยไข้อยู่ตลอดเวลา จะมีจิตใจที่สดใสได้อย่างไร อีกทั้งบางคนหมกมุ่นกับการออกกำลังกายมากไปจนมีความกังวลเกินไปว่าวันนี้จะออกกำลังกายไม่ได้ตามเป้า จึงทำให้กายเป็นคนวิตกกังวลไปเลย

4. นอนไม่หลับ

             อาการนอนไม่หลับเกิดจากหลายเหตุปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นเพราะร่างกายมีการตื่นตัวตลอดเวลา รวมถึงอาการเจ็บปวดกล้ามเนื้อจนทำให้นอนไม่หลับ ซึ่งอาการนอนไม่หลับนี้ส่งผลเสียต่อร่างกายเเละจิตใจอย่างไรทุกคนก็คงทราบกันดีอยู่เเล้ว

5. อารมณ์ไม่นิ่ง ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้

             สภาพอารมณ์ที่เเปรปรวนนี้ก็จะเป็นผลมาจากการที่ร่างกายอ่อนเเอ ภูมิคุ้มกันต่ำลง เเละจากการได้รับการพักผ่อนไม่เพียงพอที่จะส่งผลให้สมดุลฮอร์โมนต่างๆในร่างกายเพี้ยนไป จึงทำให้คนที่ออกกำลังกายมากเกินไปมีอารมณ์ไม่มั่นคง หงุดหงิดงุ่นง่าน ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้มากขึ้น

             เเละนี่ก็คือ 5 สัญญาณเตือนสำหรับหนุ่มๆนักออกกำลังกายเเละนักกีฬาทุกคนที่จะบอกให้ทราบว่าตอนนี้คุณกำลังหมกมุ่นอยู่กับการออกกำลังกายมากเกินไปจนลืมห่วงที่จะดูเเลสุขภาพรึป่าว หากใช่เเล้วก็ควรจะเพลาๆลงบ้าง ดูเเละใส่ใจร่างกายให้มากขึ้น ให้ร่างกายของคุณได้มีโอกาสได้พักฟื้นอย่างเหมาะสม เเละอย่าลืมว่าการออกกำลังกายจะประสบความสำเร็จได้ต้องทำเเบบค่อยเป็นค่อยไป

 

ขอขอบคุณ

ข้อมูล : https://www.sanook.com/men/58537/

Google เตรียมยกเลิกบริการ YouTube Messaging ในวันที่ 18 กันยายน นี้

S! Hitech (Rewrite)
สนับสนุนเนื้อหา

              หลังจากอยู่ในโปรแกรม YouTube มาพักใหญ่ในที่สุดก็ต้องบอกลากันแล้วสำหรับบริการ YouTube Messening ซึ่งอยู่เป็น Tab ในหน้า Application บนมือถือ ก็มีอันต้องปิดตัวเองลงในวันที่ 18 กันยายน นี้ 

              โดยเมื่อเข้า Tab ดังกล่าวจะมีข้อความเรื่องของการหยุดให้บริการ และมีปุ่ม Learn More หรือ รายละเอียดเพิ่มเติม ซึ่งการปิดบริการดังกล่าวเพราะ YouTube มองเห็นว่ามันเป็นเพียงแค่ไว้สำหรับแชร์วิดีโอ และพูดคุยระหว่างผู้ใช้เอง 

              หลังจากปิดแล้ว YouTube แนะนำให้ไปใช้งานบน Social Network อื่นๆ น่าจะดีกว่า  

Facebook เปิดตัวฟังก์ชั่นใหม่อนุญาตให้ผู้ใช้บล็อคการถูกเก็บข้อมูล

.
VOA
สนับสนุนเนื้อหา

            เฟสบุ๊ก (Facebook) เปิดตัวเครื่องมือใหม่ที่อนุญาตให้ผู้ใช้เฟสบุ๊กสามารถปิดกั้นการถูกรวบรวมข้อมูลของตนผ่านแอพพ์หรือเว็บไซต์ต่างๆ ได้ ซึ่งหมายความว่า ผู้ที่ใช้ฟังก์ชั่นนี้อาจเห็นโฆษณาต่างๆ น้อยลงขณะที่เข้าเฟสบุ๊ก

            เฟสบุ๊กกล่าวในวันอังคารว่า เครื่องมือใหม่นี้เดิมใช้ชื่อว่า “clear history,” ซึ่งถูกเปลี่ยนชื่อเป็น “off-Facebook activity” ซึ่งผู้ใช้สามารถเห็นกิจกรรมต่างๆ ที่อยู่นอกเฟสบุ๊กผ่านการกดไลค์ แต่ผู้ใช้ก็สามารถเลือกปิดฟังก์ชั่นดังกล่าวได้เพื่อไม่ให้ถูกติดตามโดยโฆษณาต่างๆ หรือถูกดึงข้อมูลของตนไปใช้โดยที่ไม่ได้รับอนุญาต

            เครื่องมือใหม่นี้เริ่มมีใช้ในวันอังคารในสามประเทศเป็นอันดับแรก คือ เกาหลีใต้ สเปน และไอร์แลนด์ ก่อนที่จะขยายไปยังตลาดอื่นๆ ต่อไป "ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า"

            เวลานี้เฟสบุ๊กกำลังถูกจับตามองใกล้ชิดเกี่ยวกับการเก็บข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้และนโยบายความเป็นส่วนตัว และเพิ่งถูกปรับเงิน 5,000 ล้านดอลลาร์จากคณะกรรมการด้านการค้าของรัฐบาลสหรัฐฯ สืบเนื่องจากการกระทำผิดเรื่องการเก็บรวบรวมข้อมูลของผู้ใช้

            ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าการเพิ่มฟังก์ชั่นใหม่นี้เป็นความพยายามของเฟสบุ๊กเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกปรับเงินอีกในอนาคต แต่ก็ยังเปิดโอกาสให้เฟสบุ๊กสามารถติดตามข้อมูลผู้ใช้ได้ต่อไป เพราะเฟสบุ๊กยังคงต้องพึ่งพาโฆษณาแบบเจาะกลุ่มเป้าหมายซึ่งถือเป็นรายได้หลักของสื่อสังคมออนไลน์ยอดนิยมนี้

 

ขอขอบคุณ

ข้อมูล : https://www.sanook.com/hitech/1483033/

หนุ่มช้ำใจถูกหลอกจ่ายเงินสด-ซื้อรถมือสอง มาเช็กสภาพถึงโป๊ะแตก

              หนุ่มใต้โร่นำรถไปแจ้งความตำรวจ หลังโดนหลอกซื้อรถมือสองย้อมแมว เห็นราคาไม่แพงจึงจ่ายเงินสด ไปเช็กสภาพถึงรู้ว่าเป็นรถดัดแปลง ซ้ำยังมีประวัติตีราคาเป็นซากรถด้วย

              (22 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับร้องเรียนจาก นายเจนณรงค์ อายุ 26 ปี ชาว อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ระบุว่า ถูกหลอกขายรถยนต์ที่มีการดัดแปลงตัดต่อตัวรถ ก่อนจะนำมาเสนอขายในราคาสูงถึง 840,000 บาท เมื่อเห็นราคาตนจึงตกลงซื้อขายเป็นเงินสด และทำสัญญาไว้อย่างชัดเจนว่า หากรถติดปัญหายินดีคืนตามจำนวน

              แต่เมื่อนำรถยนต์มาตรวจเช็กสภาพกับเจ้าหน้าที่ขนส่ง ปรากฏพบว่ามีจุดเคยดัดแปลงสภาพตัดต่อมาในช่วงของตัวหลังคา โดยที่เจ้าของไม่ได้แจ้งเอาไว้ก่อนหน้า ตนจึงได้เช็กย้อนประวัติรถจากบริษัทประกันภัยรถยนต์อีกครั้งเพื่อความมั่นใจ ก่อนจะพบว่าเป็นรถกระบะมิตซูบิชิ ปาเจโร่ สีขาว และพบว่าเคยถูกตีเป็นซากรถไปแล้ว แต่ขณะนั้นจดทะเบียนอยู่อีกเลข

              หลังจากการค้นพบครั้งนี้ ทำให้ตนรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากถูกหลอกขายรถมา จึงติดต่อไปหาเจ้าของรถที่ทำการซื้อขายกัน แต่ปรากฏว่าได้รับคำตอบว่า "เพราะก่อนซื้อไม่ตรวจเช็กให้ดีเอง" จึงได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี

              นอกจากนี้ยังได้สอบถามถึงสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุของรถคันดังกล่าว เพราะสงสัยว่าเพราะเหตุลักษณะใดถึงขั้นหนักมีการตีราคาเป็นซากรถ แต่ทางบริษัทประกันไม่ยินยอมเปิดเผยข้อมูลในส่วนดังกล่าว ทำให้ตนเองรู้สึกหวาดกลัวในการใช้รถคันนี้ เกรงว่าจะใช้รถเก่าที่ประสบอุบัติเหตุ หรืออาจจะประสบอุบัติเหตุก่อนเพราะการดัดแปลงรถ

              ทั้งนี้ นายเจนณรงค์ ยังฝากเตือนกับประชาชนที่จะซื้อรถมือสองจะต้องทำการตรวจเช็กประวัติรถให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ เพราะอาจจะถูกอย่างตนได้


ขอขอบคุณ

ข้อมูล : https://www.sanook.com/news/7873014/

หญิงเจอปัญหาเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย สุดท้ายพบดื่มชานมไข่มุกทุกวันทำพิษ

       หญิงเจอปัญหาเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย สุดท้ายเจอผลตรวจเลือกทำช็อก เป็นเพราะการดื่มชานมไข่มุกเกินขนาด เป็นต้นเหตุของโรคทั้งหมด

       ในยุคปัจจุบัน เมนูเครื่องดื่มยอดฮิตของคนไทยหลายคน คงหนีไม่พ้น ชานมไข่มุก ซึ่งปัจจุบันก็มีร้านขายเกิดขึ้นมากมาย เพื่อรองรับความต้องการของตลาด


       อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2562 เฟซบุ๊ก Somroong Sam Chotin มีการเปิดเผยเรื่องราวของคนไข้รายหนึ่ง ซึ่งมีปัญหาเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย แต่พอตรวจผลเลือดนั้นกลับพบว่า มีมีน้ำตาลในเลือด และไตรกลีเซอร์ไรด์พุ่งสูงแบบก้าวกระโดด

       เมื่อสืบหาถึงสาเหตุ ทำให้ทราบว่า เธอกินชานมไข่มุกวันละแก้ว จนผลการตรวจออกมาแย่แบบนี้ และอาการดังกล่าวคืออาการของเบาหวานที่มีน้ำตาลสูงมาก


 

 

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

เฟซบุ๊ก Somroong Sam Chotin

อายุมากกว่า 35 วิ่งหนักเสี่ยง “หัวใจขาดเลือด” อาจเสียชีวิตได้

S! Health (Rewrite)สนับสนุนเนื้อหา

               - หากมีอาการใจสั่น เจ็บหน้าอก หรือหน้ามืด ขณะออกกำลังกายควรหยุดพักทันที

               - หากมีอาการเจ็บแน่นหน้าอกเหมือนถูกกดทับไว้ โดยอาการไม่หายไปไม่ว่าจะเปลี่ยนท่าทางอย่างไร หรือแน่นหน้าอกทางด้านซ้ายร้าวไปถึงกรามหรือไหล่ซ้าย ให้สงสัยไว้ก่อนว่าอาจจะเป็น “โรคหัวใจขาดเลือด”

               - การออกกำลังกายมากเกินขีดจำกัด จะส่งผลให้มีอาการใจสั่น เจ็บหน้าอก หรือหน้ามืด ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนว่าร่างกายไม่ไหว ควรหยุดพักทันที ไม่ควรฝืนร่างกายเพราะอาจเกิดอันตรายถึงชีวิตได้          การร่วมวิ่งหรือร่วมแข่งขัน ฮาล์ฟมาราธอน ฟูลมาราธอน หรือแม้กระทั่งไตรกีฬา นอกจากการฝึกฝนและเตรียมความแข็งแกร่งของร่างกายแล้ว การตรวจเช็คสุขภาพและความพร้อมของหัวใจก็มีความสำคัญเช่นกัน

              (หัว) ใจสู้หรือเปล่า

          การออกกำลังกาย โดยเฉพาะการวิ่งให้ประโยชน์กับร่างกายทั้งสิ้น ทั้งลดภาวะเสี่ยงต่อโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง ลดไขมันชนิดเลว (LDL) และเพิ่มไขมันดี (HDL) หากแต่ผู้ที่ต้องการเพิ่มระยะทางในการวิ่ง หรือวิ่งระยะไกล (Long Distance) ควรต้องเตรียมร่างกาย ด้วยการหมั่นสังเกตสิ่งผิดปกติของร่างกายขณะฝึกซ้อม อาทิ เจ็บหน้าอก หน้ามืด ใจสั่น โดยเฉพาะเมื่อมีอาการมากขึ้นขณะออกกำลังกาย รวมถึงหากรู้สึกเหนื่อยง่าย หรือขาบวม ควรพบแพทย์เพื่อปรึกษาและรับการวินิจฉัยอย่างถูกต้อง เริ่มจากการซักประวัติอย่างละเอียด บางกรณีอาจเกิดจากโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวานหรือโรคหัวใจ

          หากมีประวัติคนในครอบครัวก่อนวัยอันควร หรือ เสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ เนื่องจากโรคบางชนิดอาจมีปัจจัยเสี่ยงจากพันธุกรรม

          นอกจากนี้ด้วยดุลพินิจของแพทย์ อาจมีการส่งตรวจเพิ่มเติมนอกเหนือจากการซักประวัติและตรวจร่างกาย เช่น การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (Electrocardiogram -ECG) การวิ่งสายพาน (Exercise stress test) หรือ การวิ่งสายพานร่วมกับการทำ Echo (Stress echocardiogram)

               แน่นหน้าอกแบบไหนสงสัยเป็นโรคหัวใจขาดเลือด

          อาการเจ็บแน่นเหมือนถูกกดทับไว้ โดยอาการไม่หายไปไม่ว่าจะเปลี่ยนท่าทางอย่างไร ภาวะแน่นหน้าอกเกิดขึ้นทางด้านซ้ายร้าวไปถึงกรามหรือไหล่ซ้าย อย่างไรก็ตามในคนไข้หัวใจขาดเลือดบางรายอาจมีอาการแน่นหน้าอกที่ไม่ตรงตามตำรา เช่น จุกที่ลิ้นปี่ หรือมีเฉพาะอาการเหนื่อยง่ายผิดปกติ หรือ หายใจไม่ทั่วท้อง

          แต่ถ้าหากกดบริเวณนั้นแล้วเพิ่มความเจ็บมากขึ้น หรือขยับร่างกายแล้วอาการเจ็บปวดมีเพิ่มขึ้นหรือลดลง มักจะไม่ใช่อาการของโรคหัวใจขาดเลือด แต่อาจเกิดจากกล้ามเนื้อ หากมีอาการผิดปกติมีต่อเนื่องไม่แน่ใจหรือเป็นกังวลควรพบแพทย์เพื่อประเมินอาการ

               ไหวไหม …บอกมา

          ผู้วิ่งยังควรดูสภาพร่างกายของตนเองประกอบก่อนตัดสินใจลงวิ่งในสนามต่างๆ ว่ามีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน เคยมีอาการเจ็บแน่นหน้าอก ใจสั่น มีปัญหาข้อเข่า ข้อเท้า หรือน้ำหนักตัวมากเกินไปหรือไม่ หากมี ควรควบคุมโรคประจำตัวให้อยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัย หรือปรึกษาแพทย์ประจำตัว เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่เกิดอันตรายระหว่างการวิ่ง

          การฝึกฝนและความสม่ำเสมอเป็นเคล็ดลับสำคัญให้การวิ่งให้ได้ประโยชน์และเพิ่มประสิทธิภาพให้ร่างกาย โดยควรวิ่งให้ได้ 3-5 ครั้ง/สัปดาห์ ครั้งละอย่างน้อย 30 นาที ฝึกอย่างสม่ำเสมอ ค่อยๆ พัฒนาตัวเอง ไต่ระดับจากการวิ่งรอบสวนสาธารณะ ไปฮาล์ฟ มาราธอน จนลงสนามฟูลมาราธอนในที่สุด ซึ่งปกติผู้มีประสบการณ์อาจใช้เวลาเตรียมพร้อมเพียง 3 เดือน ในขณะที่ฮาล์ฟมาราธอนแรกต้องฝึกซ้อมกันถึง 6-9 เดือน ทั้งนี้การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ พักผ่อนให้เพียงพอ และไม่เครียดจะช่วยให้การฝึกซ้อมราบรื่นไปจนถึงลงสนามจริง

               หนักแค่ไหน ถึงตายในสนาม

          เมื่อออกกำลังกายมากเกินขีดจำกัด จนเลือดไปเลี้ยงร่างกายไม่ทัน น้ำในหลอดเลือดไม่เพียงพอ หัวใจต้องบีบตัวเร็ว เลือดไปเลี้ยงสมองลดลง ร่วมกับร่างกายเกิดความร้อนสูง หลอดเลือดทั่วร่างกายขยายตัว ส่งผลให้มีอาการใจสั่น เจ็บหน้าอก หรือหน้ามืด เป็นสัญญาณเตือนว่าร่างกายไม่ไหว ควรหยุดพักทันที ไม่ควรฝืนร่างกายจนอาจเกิดอันตรายถึงชีวิตได้

          ในผู้เสียชีวิตขณะออกกำลังกายที่อายุน้อยกว่า 35 ปี มักเกิดจากโรคทางพันธุกรรม ซึ่งเกินกว่า 30% เป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจหนากว่าปกติ (Hypertrophic Cardiomyopathy-HCM) ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่มีอาการและมักไม่รู้ตัว อาจมีประวัติใจสั่น หน้ามืดขณะออกกำลังกาย มีประวัติญาติสายตรงเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ คนไข้กลุ่มนี้ขณะออกกำลังกายเต็มที่ กล้ามเนื้อหัวใจที่หนาอาจบีบตัวเข้าหากันจนปิดทางออกของเลือด ส่งผลให้หัวใจปล่อยกระแสไฟฟ้าผิดปกติ และความดันต่ำลงจนเป็นเหตุให้เสียชีวิตขณะออกกำลังกาย


               สำหรับผู้ที่มีอายุมากกว่า 35 ปี ส่วนใหญ่เสียชีวิตขณะออกกำลังกายเนื่องจากหัวใจขาดเลือด

          สมรรถภาพของร่างกาย การฝึกซ้อม สุขภาพของแต่ละบุคคลแตกต่างกัน ความสามารถและความอดทนก็ไม่เท่ากัน ผู้ป่วยโรคหัวใจที่รักการวิ่งควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวเพื่อสร้างความมั่นใจและความปลอดภัย ส่วนคนปกติควรตรวจสุขภาพประจำปีเพื่อลดความเสี่ยงโรคร้ายแรงในอนาคต เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง รวมถึงดูแลร่างกายด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำและพักผ่อนให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันทรานส์และการสูบบุหรี่ ซึ่งเป็นตัวเร่งให้หลอดเลือดหัวใจตีบ

เตือน คนไทยเตรียมรับมือ พายุ 2 ลูก คาดทำฝนตกยาวถึงปลายปี - ยกเว้นอีสานแล้ง

          สมิทธ ธรรมสโรช เตือนประชาชนเตรียมตัวรับพายุ 2 ลูก ตั้งแต่กันยายน-ธันวาคม หลังสภาพอากาศแปรปรวนทั่วโลก ยกเว้นภาคอีสานยังคงแล้ง แนะเตรียมเก็บน้ำฝนให้มากที่สุด    

         เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2562 แนวหน้า รายงานว่า นายสมิทธ ธรรมสโรช อดีตประธานกรรมการอำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ได้ออกมาระบุว่า สภาพอากาศประเทศไทยในช่วงเดือนกันยายนเป็นต้นไป จนถึงเดือนธันวาคม จะมีฝนตกมากขึ้นจากอิทธิพลมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ และมีพายุเข้าไทยมากกว่า 2 ลูก โดยมีมรสุมเข้ามาทางภาคตะวันตกของไทย ทำให้ไทยเข้าหน้าฝนเต็มตัวในเดือนหน้า หลังจากนั้นจะมีฝนตกมาเรื่อย ๆ ซึ่งเดือนหน้าอาจมีพายุ 1 ลูก ส่งผลทำให้น้ำในเขื่อนเพิ่มขึ้นเกือบทุกเขื่อน


         นายสมิทธ ระบุอีกว่า ยกเว้นภาคอีสานจะได้ฝนน้อย ซึ่งอาจทำให้ประชาชนมีความลำบากเรื่องขาดแคลนน้ำ จึงขอให้ประชาชนในภาคอีสานเตรียมรองฝนให้ดี เมื่อมีฝนตกจะได้รองน้ำไว้กินใช้ได้ รวมทั้งวัด โรงเรียน เพราะเขื่อนภาคอีสานจากนี้ไปจะได้ฝนน้อยลง เช่น เขื่อนอุบลรัตน์ จะได้น้ำไม่มาก
          
         ทั้งนี้ ในปีนี้สภาพอากาศทั่วโลกวิปริตแปรปรวนมาก จึงส่งผลให้ฤดูมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มาช้าผิดปกติ ก่อให้เกิดภัยแล้งยาวนานไปทั่วทวีป ทั้งประเทศลาว กัมพูชา เวียดนาม จะเห็นแม่น้ำโขงแห้งขอด จากสภาวะโลกร้อนขึ้น จนขั้วโลกเหนือ ขั้วโลกใต้ น้ำแข็งละลาย

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก  

 

ขอขอบคุณ

ข้อมูล : https://hilight.kapook.com/view/192336เตือน คนไทยเตรียมรับมือ พายุ 2 ลูก คาดทำฝนตกยาวถึงปลายปี - ยกเว้นอีสานแล้ง

ปคบ. บุกจับ แม่ค้าครีมวิตามินลาว ยกมาทั้งครกผลิตเอง เห็นอุปกรณ์ทำแล้วสะพรึง

        เจ้าหน้าที่ ปคบ. บุกจับ แม่ค้าครีมวิตามินลาว ใช้ครกตำยาแผนปัจจุบันผสมวิตามิน ปั่นผลิตครีมเอง เห็นอุปกรณ์ทำแล้วสะพรึงขนลุกมาก

        วันที่ 19 สิงหาคม 2562 แฟนเพจ รู้ทันภัย เครื่องสำอาง อาหารและยา รายงานว่า ตามที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนหลายรายผ่านทางเพจ รู้ทันภัย เครื่องสำอาง อาหารและยา ว่ามีการโฆษณาขายครีมวิตามินลาว โดยอ้างว่านำเข้ามาจากประเทศลาว เชื่อว่าจะเป็นเครื่องสำอางที่ไม่ได้มาตรฐานนั้น
        ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ได้สืบสวนจนทราบแหล่งผลิตครีมวิตามินลาวรายใหญ่อยู่ในพื้นที่เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร จึงได้นำหมายค้นเข้าตรวจค้น ปรากฏว่าพบครีมวิตามินลาวจำนวนมาก และยังพบยาแผนปัจจุบัน วิตามิน และเนื้อครีมพร้อมอุปกรณ์ในการผลิตครีม

        สอบถามเจ้าของบ้านให้การรับสารภาพว่า ได้ลักลอบผลิตครีมวิตามินลาวภายในบ้านจริง โดยนำยาแผนปัจจุบันและวิตามินที่ตรวจพบมาผสมกับเนื้อครีมแล้วนำออกจำหน่าย ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. 2558 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. จึงได้ตรวจยึดของกลางทั้งหมดนำส่งร้อยเวร กก.4 บก.ปคบ. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

 

ขอขอบคุณ

ข้อมูล : https://hilight.kapook.com/view/192337

'4 เณร'ซิวแชมป์เกม 'ROV' ชาวเน็ตสงสัยผิดศีลหรือไม่?

          กลายเป็นเรื่องราวร้อนแรงอยู่ในโลกออนไลน์อยู่ในขณะนี้ หลังมีการเผยแพร่ภาพกิจกรรมสัปดาห์วิชาการ ครั้งที่ 14 และสัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ครั้งที่ 2 ประจำปี 2562 "KKU Nong Khai Fair 2019" โดย ม.ขอนแก่นวิทยาเขตหนองคาย ซึ่งในปีนี้ มีการแข่งขันวิชาการ ประเภท การแข่งขันกีฬาอิเล็คโทรนิกส์ ROV ระดับมัธยมศึกษาหรือเทียบเท่า

          โดยผลการแข่งขันปรากฏว่า รางวัลชนะเลิศ ตกเป็นของทีมที่ประกอบด้วย "สามเณร 4 รูป" แต่ในการแขงขันดังกล่าวกลับกลายเป็นกระแสดราม่าอยู่ในโลกออนไลน์ โดยชาวเน็ตต่างแสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์การแข่งขันดังกล่าว เนื่องจากมีผู้เข้าแข่งขันที่เป็นสามเณร จนเกิดการตั้งคำถามว่าอาจจะเป็นการแข่งขันที่ทำให้เหล่าเณรน้อยผิดศีลได้

          อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่เรื่องราวดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ทางด้าน รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความระบุ "ศีลที่เณรต้องถือ"

          1. เว้นจากการทำสัตว์ที่มีชีวิตให้ตกล่วงไป

          2. เว้นจากถือเอาพัสดุอันเจ้าของมิได้ให้

          3. เว้นจากกรรมอันเป็นข้าศึกแก่พรหมจรรย์

          4. เว้นจากการกล่าวเท็จ

          5. เว้นจากการดื่มน้ำเมา คือ สุราและเมรัย อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท

          6. เว้นจากบริโภคอาหารในเวลาวิกาล

          7. เว้นจากฟ้อนรำ ขับร้อง ประโคมดนตรี และดูการเล่นที่เป็นข้าศึก

          8. เว้นจากการทัดทรงตกแต่งด้วยดอกไม้ของหอม และเครื่องลูบไล้

          9. เว้นจากที่นั่งและที่นอนอันสูงและใหญ่

          10. เว้นจากการรับทองและเงิน

 

ขอขอบคุณ

ข้อมูล : https://www.msn.com/th-th/news/national/4-เณรซิวแชมป์เกม-rov-ชาวเน็ตสงสัยผิดศีลหรือไม่

ชาวเน็ตแซะระวังน้ำตาลขึ้น! แก้บนยุค 4.0 ถวายชาไข่มุก

         เมื่อวันที่ 19 ส.ค. สายหวานมาแนวใหม่ หลังขอพรศาลพระพิฆเนศได้สำเร็จดังหวัง แห่นำชาไข่มุกเครื่องดื่มยอดฮิต แบรนด์ดังในยุคนี้มาถวายโดยไม่ต้องนำน้ำแดงมาถวายเหมือนแต่ก่อนจนเป็นที่ฮือฮา โดย เพจเฟซบุ๊ก "พยูนบูด ตะลุยกิน" โพสต์ภาพการแก้บนยุค 4.0 ที่ศาลพระพิฆเนศ บริเวณหน้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์

         โดยระบุข้อความว่า แก้บนยุค4.0 ใครเค้าใช้น้ำแดงมูกัน!! #แก้วแรกไม่เป็นไร #แก้วต่อไปเบาหวานขึ้นตา #อุ๋งมาแก้บน9แก้วจ้าเลือกมาไม่ซ้ำชาเลยนะเท้อ หลังมีการแชร์โพสต์ออกไป มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมากทำนอง ให้ระวังเบาหวานจะถามหา, พระพิฆเนศน้ำตาลขึ้นพอดี, ท่านอาจจะเบื่อน้ำแดงแล้วก็ได้

         ขอบคุณเฟซบุ๊ก พยูนบูด ตะลุยกิน, https://www.msn.com/th-th/news/national/ชาวเน็ตแซะระวังน้ำตาลขึ้น-แก้บนยุค-40

iPhone ทรุดกว่าเดิม ! ยอดขายทั่วโลกร่วงมาอยู่อันดับ 4 แล้ว

          ยอดขาย iPhone ทั่วโลกทรุดหนักกว่าเดิม ตกมาอยู่อันดับที่ 4 แล้ว โดน OPPO แซงไปแบบฉิวเฉียด

          หลังจากที่ก่อนหน้านี้ iPhone ยอดขายทั่วโลกตกมาอยู่อันดับ 3 จนโดน Huawei แซงไปแล้ว (อ่านข่าวเก่า) ล่าสุดไตรมาสที่ 2 ของปี 2019 ยอดขาย iPhone ทั่วโลกก็ยังลดลงหนักกว่าเดิม ซึ่งตอนนี้ร่วงลงมาอยู่อันดับ 4 แล้ว โดยแบรนด์ที่แซง iPhone ไปในครั้งนี้ก็คือ OPPO นั่นเอง

          IHS ได้เปิดเผยยอดขายมือถือทั่วโลกไตรมาสล่าสุด (2/2019) ซึ่ง iPhone นั้นมียอดขายทั่วโลกอยู่ที่ 35.3 ล้านเครื่อง คิดเป็นส่วนแบ่งในตลาด 11% ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่มีส่วนแบ่ง 13% ส่วน OPPO นั้นจากไตรมาสก่อนหน้ามีส่วนแบ่ง 8% ล่าสุดทำยอดขายทั่วโลกได้ 36.2 ล้านเครื่อง คิดเป็นส่วนแบ่ง 11% แซง iPhone ไปได้แบบฉิวเฉียด ส่วน Samsung และ Huawei นั้นยังคงครองตำแหน่งอันดับที่ 1 และ 2 เหมือนเดิม ด้วยส่วนแบ่ง 23% และ 18% ตามลำดับ

          ตั้งแต่ปีที่แล้วหลังเปิดตัว iPhone 2018 ก็มียอดขายที่ไม่ค่อยดีนัก จนส่วนแบ่ง iPhone ในตลาดมือถือโลกตกลงเรื่อย ๆ ในทางกลับกันแบรนด์จีนอย่าง Huawei, OPPO, Xiaomi และ Vivo ต่างก็มียอดขายมากขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะคนยุคปัจจุบันนิยมซื้อมือถือแพงกันน้อยลง แต่ iPhone กลับไม่มีรุ่นราคาถูกให้เป็นตัวเลือกเลย และถ้าหากอนาคตยังเป็นแบบนี้ต่อไป Xiaomi ก็อาจขึ้นมาแซงหน้าเบียด iPhone ตกลงไปอยู่อันดับที่ 5 ก็ได้

ภาพและข้อมูลจาก technology,https://mobile.kapook.com/view6503.html

กรมควบคุมโรค เตือนดูแลเด็กเล็กอายุ 1-3 ปี ระวังป่วยโรคมือ เท้า ปาก

           นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ช่วงนี้เป็นฤดูฝน อากาศที่เย็นและชื้น เอื้อต่อการเจริญเติบโตของเชื้อโรคต่างๆ โดยเฉพาะโรคมือ เท้า ปาก ซึ่งมักเกิดในเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี เพราะยังมีภูมิคุ้มกันต่ำ โรคนี้สามารถติดต่อได้จากการรับเชื้อไวรัสเข้าทางปากโดยตรง

           โดยเชื้อไวรัสจะติดมากับมือหรือของเล่นที่เปื้อนน้ำมูก น้ำลาย น้ำจากแผลตุ่มพอง หรืออุจจาระของผู้ป่วย หรือติดต่อจากการไอ จาม รดกัน หากได้รับเชื้อจะมีอาการ เช่น มีไข้ต่ำๆ อ่อนเพลีย ต่อมา 1 – 2 วัน จะมีอาการเจ็บปาก ร่วมกับมีตุ่มพองเล็กๆ บริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้า ตุ่มแผลในปาก ที่เพดานอ่อน กระพุ้งแก้ม ลิ้น จากนั้นจะแตกออกเป็นแผลหลุมตื้นๆ หากอาการไม่ดีขึ้นหรือมีไข้ขึ้นสูง ซึมลง เดินเซ ชักเกร็ง หายใจหอบเหนื่อย อาเจียนมากเป็นสัญญาณว่าอาจติดเชื้อชนิดรุนแรง ต้องรีบไปพบแพทย์ทันทีเพราะอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้     

           กรมควบคุมโรค จึงขอแนะนำผู้ปกครองเฝ้าระวังบุตรหลานให้ห่างจากโรคมือ เท้า ปาก ด้วย 4 วิธี คือ

          1 ลดการสัมผัสเชื้อ ไม่ควรไปคลุกคลีกับผู้ป่วย

          2 หมั่นทำความสะอาดของใช้และของเล่นเด็กเป็นประจำ เพื่อลดเชื้อโรคที่อยู่ในสิ่งแวดล้อม ,

          3 หมั่นให้เด็กล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ ทั้งก่อนและหลัง รับประทานอาหารหรือเข้าห้องน้ำ เพื่อลดเชื้อสะสมบนมือและลดการแพร่สู่ผู้อื่น

          4 หากพบผู้ป่วย ควรให้หยุดเรียนและรักษาจนกว่าจะหาย ควรแยกของใช้ส่วนตัวเด็กป่วยออกจากเด็กปกติ เพื่อชะลอการแพร่กระจายของเชื้อโรค             

           สำหรับศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและโรงเรียน ควรมีการคัดกรองเด็กนักเรียนทุกเช้าก่อนเข้าห้องเรียน เพื่อตรวจดูนักเรียนที่มีอาการแสดงของโรค คือมีไข้ ผื่น ตุ่มน้ำใส หรือเม็ดแดงๆ ในปาก ฝ่ามือ ฝ่าเท้า หรือก้น 

           ทั้งนี้หากพบเด็กป่วยให้แยกออกมา แจ้งผู้ปกครองให้มารับกลับและพักรักษาจนกว่าจะหายเป็นปกติ ส่วนผู้ปกครองหากพบเด็กป่วยมีอาการแทรกซ้อน เช่น ไข้สูง ซึม อาเจียน หอบ ต้องรีบนำเด็กไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลทันที 

 

ขอขอบคุณ

ข้อมูล : https://news.mthai.com/general-news/752437.html