Apple คอนเฟิร์มว่ามีการปรับลดประสิทธิภาพการทำงานของ iPhone เก่าลง


เป็นที่พูดถึงตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อมีผู้ใช้รายหนึ่ง โพสต์เรื่อง iPhone 6S ช้าลงมากผิดปกติ ทั้งๆที่ใช้งานปกติและปรับการใช้งานแอปต่างเพื่อให้เครื่องทำงานเร็วขึ้น แต่ก็ยังช้าอยู่ดี แต่เมื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่ iPhone ใหม่ กลับทำงานรวดเร็วเหมือนใหม่   
กระบวนการคือ แบตเตอรี่เมื่อใช้งานนานๆและใช้เยอะจะค่อยๆเสื่อมสภาพลงและมีความจุลดลงเรื่อยๆ  เพื่อเป็นการรักษาระยะเวลาการใช้งานให้ใช้ได้ยาวนานขึ้น Apple จึงตัดสินใจไปลด clock speed ของ CPU ลงเพื่อประหยัดพลังงานและป้องกันเครื่องดับแบบไม่คาดฝัน  นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ iPhone รุ่นเก่าๆทำงานช้าลง วิธีแก้ง่ายมากๆคือแค่เปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่เท่านั้น ซึ่งการเปลี่ยนแบตนั้นต้องเปลี่ยนที่ศูนย์บริการ Apple เพราะแบตเตอรี่ไม่สามารถถอดแบตออกเปลี่ยนด้วยตัวเองได้
Apple ได้ยืนยันว่า  Apple ได้ออกแบบการปรับแต่งผ่านเฟิร์มแวร์ หากพบแบตเตอรี่มีปัญหาเสื่อมสภาพให้ลดการทำงานของ iPhone จริง เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องดับโดยไม่คาดฝัน และสามารถยืดอายุของชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ภายในเครื่องไม่ให้เสียหาย  ซึ่งใช้กับ iPhone 6, iPhone 6s, iPhone SE ในปี 2016  และปี 2017 ก็ยังใช้กับ iPhone 7 ที่รัน iOS 11.2 ด้วย แต่ปัญหาเครื่องอืด นี่หลายท่านจะนึกไม่ถึงสาเหตุอื่นและทนไม่ได้ ต้องยอมซื้อเครื่องใหม่
โดยหากเครื่อง iPhone ที่เราใช้งานนั้น แบตใช้นานจนเสื่อมสภาพจะมีแจ้งเตือนให้เปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ อย่างที่เคยนำเสนอมาแล้ว แต่ทว่า Apple ยังไม่เคยชี้แจงเลยว่า แบตเสื่อมทำให้ลดประสิทธิภาพการทำงานของเครื่อง iPhone ด้วย แบบไม่มีใครรู้มาก่อน ทำให้ผู้ใช้ iPhone หลายท่านเริ่มไม่พอใจและวิจารณ์ทันที เพราะแม้ Apple จะกำจัดปัญหาป้องกันไม่ให้เครื่องดับ แต่การลดประสิทธิภาพนี้ ผู้ใช้ก็อึดอัดในเรื่องเครื่องช้า จนกระทั่งซื้อเครื่องใหม่
แต่พอมาทราบว่า Apple มีการปรับแต่งแบบนี้ก็ทำให้ Apple โดนวิจารณ์และโดนฟ้องศาลตามมา เพราะการแก้แบบนี้ก็ทำให้ผู้ใช้ต้องได้รับประสบการณ์ที่ไม่ดีในการใช้งาน iPhone อึดอัดในเรื่องเครื่องช้าอยู่ดี แถม Apple ไม่เคยบอกประเด็นนี้ตั้งแต่แรกก็อาจทำให้มอง Apple บังคับลูกค้าซื้อ iPhone รุ่นใหม่ในปีถัดไป
ข้อมูลจาก Forbes 
ขอบคุณที่มา https://www.it24hrs.com/2017/apple-iphone-kill-switch-ios-bad-battery/

ไม่มีความคิดเห็น: