รถตู้ชนประสานงารถบรรทุก ตาย 7 เจ็บ 4 ร่างพระมรณภาพสลดคาซาก

            อุบลราชธานี - อุบัติเหตุรถตู้ชนประสานงารถบรรทุก 6 ล้อ บริเวณทางโค้งบนถนนสายวารินชำราบ-เดชอุดม ต.เมืองศรีไค อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี มีผู้เสียชีวิต 7 คน บาดเจ็บ 4 คน เหตุรถตู้เร่งแซงแต่ไม่พ้นจึงชนประสานงาอย่างจัง

            ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (23 ต.ค.) เมื่อเวลา 09.56 น. รายงานว่าเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ตู้ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์ ชนกับรถบรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว บนถนนสายวารินชำราบ-เดชอุดม ต.เมืองศรีไค อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 7 คน เป็นพระภิกษุ 2 รูป ชาย 2 ราย และเป็นหญิง 3 ราย ติดอยู่ในซากรถตู้ และกระเด็นออกมาเสียชีวิตบนถนน

            สภาพรถรถตู้ด้านหน้าพังยับ ชิ้นส่วนรถกระจายเต็มถนนและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย ส่วนรถบรรทุก 6 ล้อพลิกคว่ำอยู่ริมบนถนนกู้ชีพเทศบาลเมืองศรีไค กู้ภัยสว่างบูชาธรรม กู้ชีพคุณธรรม 1669 เร่งให้การช่วยเหลือนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาล

            จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่กู้ภัย ทราบว่า รถตู้ไม่ประจำทางคันดังกล่าวเดินทางมาจากช่องเม็ก อ.สิรินธร มุ่งหน้าไปจังหวัดชลบุรีวิ่งมาด้วยความเร็วสูง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเป็นทางโค้งรถตู้ได้เร่งแซงรถกระบะแต่แซงไม่พ้น จึงพุ่งชนประสานงานกับรถบรรทุก 6 ล้อที่วิ่งสวนมาอย่างจัง ทำให้คนบนรถตู้ได้บาดเจ็บสาหัส 1 ราย ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 3 ราย และเสียชีวิต 7 ราย เป็นพระภิกษุ 2 รูป

 

ขอขอบคุณ

ข้อมูล : https://www.sanook.com/news/7931574/

5 สัญญาณเตือนปลวกร้าย ภัยเงียบในบ้านคุณ

             บ้าน 1 ใน 4 หลัง มักพบกับปัญหาปลวกระบาด และทำให้บ้านรวมถึงเฟอร์นิเจอร์ไม้เสียหาย แม้ว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่น้อยคนนักที่จะรู้ตัวว่าปลวกกำลังบุกบ้านของคุณอยู่ เพราะในช่วงแรก ปลวกจะไม่มีร่องรอยความเสียหาย หรือสังเกตด้วยตาเปล่าได้ยาก และบ่อยครั้งที่คนมักคิดว่ามดตัวสีขาวๆ ในบ้านเป็นแมลงตัวเล็กทั่วไป เพียงแค่ซื้อสเปรย์ฆ่าแมลงมากำจัดก็น่าจะหาย แต่แท้จริงแล้วมดตัวตัวเล็กสีขาวนั้น อาจเป็นสัญญาณความเสียหายของบ้านที่กำลังจะเกิดขึ้น... ปลวก "นักทำลายบ้าน" มีพฤติกรรมชอบที่มืด ชื้น และชอบกัดกินไม้จากด้านในอย่างเงียบๆ จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมคนส่วนใหญ่มักไม่รู้ตัวว่าปลวกกำลังรุกรานบ้านอยู่ ซึ่งหากคุณรู้วิธีสังเกตปลวกขึ้นบ้านอย่างถูกต้องจะช่วยโอกาสของความเสียหายมากกว่าครึ่ง วันนี้เรามี 5 สัญญาณเตือนปลวกกินบ้านมาบอกกัน...

             1. รอยทางเดินปลวก - ร่องรอยทางเดินของปลวกมักถูกสร้างจากดิน โคลนหรือฝุ่นดิน มีลักษณะเป็นเส้นสีดำ เป็นทางยาว เหตุที่ปลวกต้องสร้างทางเดินเหล่านี้ก็เพราะผิวหนังของปลวกนั้นบอบบาง มันจึงต้องหาสิ่งปกคลุมตัวเองจากความร้อน ไม่ให้แห้งตายระหว่างออกหาอาหาร ร่องรอยเหล่านี้มักพบบริเวณกำแพง ขอบมุมที่เป็นไม้ หรือจุดที่เป็นทางเข้าสู่อาคาร

             2. แมลงเม่า - หากพบเศษปีกของมันตกอยู่บริเวณขอบหน้าต่างและพื้นในตอนเช้า ให้พึงระวังไว้ให้ดีว่าปลวกแฝงตัวในบ้านคุณแล้ว เพราะแมลงเม่า คือ ปลวกในวรรณะสืบพันธุ์ โดยปีกของแมลงเม่าจะถูกสลัดออกหลังจากที่พวกมันจับคู่ได้ ต่อมาพวกมันจะมุดลงดินเพื่อสร้างอาณาจักรปลวกใต้ดิน และกลายเป็นปลวกราชา ปลวกราชินีอยู่ในรังใต้บ้านของคุณ

             3. เสียงกลวงในไม้ - หากคุณต้องการเช็คว่าภายในผนังบ้านของคุณนั่นมีปลวกหรือไม่ ให้ลองเคาะผนัง ขอบบัว ขอบประตู หากได้ยินเสียงกลวง (เสียงเหมือนขยำกระดาษ) อาจสันนิษฐานได้ว่า ไม้ภายในบางส่วนถูกปลวกกินไปแล้ว เพราะปลวกมักจะกินไม้จากด้านใน เหลือเอาไว้แต่เปลือกไม้บางๆ ด้านนอก ทำให้สังเกตยาก

             4. มูลปลวก - สำหรับปลวกไม้แห้ง (ปลวกที่กินต้นไม้) พวกมันจะทิ้งมูลสีน้ำตาลหรือสีเกือบดำ คล้ายเศษขี้เลื่อยเอาไว้เมื่อกินไม้เสร็จ


             5. ประตู หน้าต่างที่เปิดยากหรือฝืด
 - อย่างที่บอกไปแล้วว่าผิวหนังของปลวกนั้นบอบบาง จำเป็นต้องมีสิ่งปกคลุมจากดิน โคลน หรือมูลเพื่อรักษาความชื้นตลอดเวลา ทำให้ประตูหรือหน้าต่างไม้ที่เป็นทางผ่านของปลวก มีลักษณะบวมขึ้นและเปิดปิดยากขึ้น

 

             หากสงสัยว่าบ้านของคุณถูกปลวกคุกคามอยู่หรือไม่? ลองเอาวิธีสังเกตสัญญาณปลวกระบาดเหล่านี้ไปใช้กันดู และถ้ายังไม่มั่นใจ แนะนำให้ลองหา บริษัทกำจัดปลวกดีๆ สักเจ้ามาช่วยตรวจสอบและสำรวจบ้านดูก่อน ถ้า ปล่อยทิ้งเอาไว้นาน ความเสียหายที่เกิดจากปลวกอาจมากกว่าที่คุณคาดคิด!

 

ขอขอบคุณ

ข้อมูล : https://www.sanook.com/news/7923758/

มอบตัวแล้ว! โจรหนุ่มหน้าใสฉกสร้อยทองหนัก 24 บาท ย่านวังหิน

              นักศึกษาหนุ่มวิ่งราวทองคำหนัก 24 บาท ย่านวังหิน ดอดมอบตัวแล้ว หลังถูกตำรวจกดดัน เตรียมคุมทำแผน

              พ.ต.อ.จักรภัณฑ์ จันทรอุทัย ผกก.สน.โชคชัย เปิดเผยสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงความคืบหน้า คนร้ายก่อเหตุวิ่งราวทองรูปพรรณ น้ำหนัก 24 บาท จากร้านทอง ย่านวังหิน เมื่อเช้าวันที่ 20 ต.ค. ที่ผ่านมาว่า ภายหลังจากศาลออกหมายจับ ผู้ต้องหาแล้ว เจ้าหน้าที่ได้กดดันผู้ต้องหา โดยการไปติดตามที่บ้านพัก และให้ผู้ปกครองประสานพาเข้ามอบตัว

>> โจรหนุ่มหน้าใสบุกเดี่ยวปล้นร้านทอง ห้างโลตัสวังหิน คว้าสร้อย 24 บาทหนี

              ล่าสุด (23 ต.ค.) เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นักศึกษารายดังกล่าวได้เดินทางเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย ว่าเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ และขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำ

              อย่างไรก็ตาม รายละเอียดทางคดี นั้น พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. จะแถลงผลการจับกุมที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ในเวลา 13.30 น. ก่อนที่จะมีการคุมตัวไปทำแผนประกอบคำให้การที่จุดเกิดเหตุ

>> ตำรวจรู้เบาะแส "โจรปล้นทองวังหิน" เป็นใคร คาดอาจเป็นนักศึกษา

 

ขอขอบคุณ

ข้อมูล : https://www.sanook.com/news/7931426/

มารู้จักกับ OPPO Reno2 Series สองรุ่นสมาร์ทโฟนที่อัดแน่นด้วยคุณภาพ

            ใน OPPO Reno2 Series มีสองรุ่นย่อยอัดแน่นด้วยคุณภาพ คือ OPPO Reno2 F  และ OPPO Reno2 ใครที่ยังไม่แน่ใจว่ารุ่นไหนเหมาะกับตัวเอง มาตามอ่านกันได้เลย

1.เริ่มจากกล้อง

            ทั้งสองรุ่น มีจุดไฮไลท์เรื่องกล้องที่แตกต่างกันให้คุณเลือกให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ตัวเอง

            OPPO Reno2 F โดดเด่นเรื่องถ่ายแบบสวยทุกมุมมองด้วยเลนส์ Portrait ความละเอียด 2MP มี Bokeh Effect ให้คุณถ่ายภาพได้แบบหน้าชัดหลังละลายได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง พร้อมทั้งยังมีฟังก์ชั่น Night Mode ให้คุณถ่ายรูปในที่แสงน้อยได้คมชัดยิ่งขึ้น

            ส่วน OPPO Reno2 จะเพิ่มโหมดเรื่องการถ่ายภาพชัดทุกระยะทั้งภาพถ่ายและวิดีโอ ด้วย Ultra Steady Mode ไม่ว่าคุณจะขยับเคลื่อนไหวแค่ไหน ก็สามารถเก็บภาพคมชัดได้ทุกชอต และ Ultra Dark Mode สามารถเก็บภาพคมชัดในพื้นที่แสงน้อย และ 5x Hybrid Zoom

โหมด Ultra Steady ใน Reno2

ฟังก์ชั่น Ultra Dark Mode ใน Reno2
ฟังก์ชั่น Ultra Dark Mode ใน Reno2

ฟังก์ชั่น 5x Hybrid Zooom ใน Reno2ฟังก์ชั่น 5x Hybrid Zooom ใน Reno2

            ในทั้งสองรุ่นจะมีกล้องหลังด้วยกันถึง 4 กล้อง ประกอบด้วย เลนส์หลักความละเอียด 48 MP, เลนส์ Ultra Wide Angle, เลนส์ Mono และเลนส์ Portrait  

2. ในเรื่องของหน้าจอและดีไซน์

            ทั้งสองรุ่น ได้รับการออกแบบหน้าจอแบบ AMOLED Panoramic Screen 6.5 นิ้ว ไร้รอยต่อ และขับเคลื่อนด้วยระบบปฏิบัติการ ColorOS6.1 ระบบใหม่ที่ทำขึ้นเพื่อรองรับระบบ Andriod โดยเฉพาะ ออกแบบพื้นหลังใหม่ให้เข้ากับดีไซน์ภายนอกของตัวเครื่องมากขึ้น รวมถึงแสง และการไล่เฉดสี กล้องหน้าในรุ่น OPPO Reno2 F จะเป็นแบบ Pop-Up Camera ส่วน Reno2 จะเป็นแบบ Shark Fin Pop-up Camera

Reno2 F Pop-Up Camera/ Reno2 Shark Fin Pop-Up Camera

3. ชาร์จไวแบตทนนาน ทั้งสองรุ่น

            ทั้งสองรุ่นมีเทคโนโลยีชาร์จไว VOOC 3.0 สุดล้ำที่เมื่อชาร์จเพียง 30 นาที ได้แบตเตอรี่ถึง 51% และมีแบตเตอรี่ความจุ ขนาดใหญ่ถึง 4,000 mAh ทำให้โหลดแอปพลิเคชั่น และเกมส์ได้อย่างรวดเร็ว

4. สุดท้ายเรื่องของสเปค

           - OPPO Reno2 F มาด้วย RAM 8GB ROM 128GB และ MediaTek Helio P70

           - ส่วนOPPO Reno2 จัดเต็มกับสุดยอดสมรรถนะมาพร้อมชิปเซ็ต Snapdragon 730G พร้อมด้วย RAM 8GB, ROM 256GB

            OPPO Reno2 F ดีไซน์เรียบหรู มีให้เลือกสองสีคือ Sky White และ Lake Green ส่วน OPPO Reno2 มาในสี Luminous Black และ Sunset Pink

            ถึงตอนนี้เราหวังว่าหลายคน น่าจะได้ไอเดียไปตัดสินใจได้ไม่ยาก สองรุ่นพร้อมพรีออเดอร์ได้แล้ววันนี้ – 25 ตุลาคม 2562 OPPO Reno2 F ราคาจำหน่ายเพียง 11,990 บาท ส่วนรุ่น OPPO Reno2 เปิดในราคา 17,990 บาท พร้อมรับ Special gift มูลค่าสูงสุด 9,500 บาท ณ OPPO Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ  โดย OPPO Reno2 Series จะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 26 ตุลาคมเป็นต้นไป

            และอีกหนึ่งโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าที่ทำการพรีออเดอร์ เป็นเจ้าของ OPPO Reno2 Series ในราคาเริ่มต้นเพียง 3,490 บาท ส่วน OPPO Reno2 ราคาเริ่มต้น 8,990 บาท เมื่อซื้อพร้อมแพ็กเกจ กับผู้ให้บริการเครือข่ายที่ร่วมรายการ

            และยังมีโปรโมชั่นที่น่าสนใจอีกมายมาย

4 กล้องหลัง ชัดทุกระยะ สวยทุกมุมมอง

 

ขอขอบคุณ

ข้อมูล : https://www.sanook.com/hitech/1487469/

Microsoft ยอมรับ Android คือระบบปฏิบัติการที่ดีที่สุดสำหรับสมาร์ตโฟน

         ในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของ Microsoft ที่กรุงลอนดอน Panos Panay ผู้บริหารฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ Microsoft ได้เปิดตัว Surface Duo หรือสมาร์ตโฟนแบบพับหน้าจอได้ ใช้ระบบปฏิบัติการ Android สำหรับ Surface Duo ด้วยเหตุผลว่า มันดูเรียบง่าย และเป็นระบบปฏิบัติการที่ดีที่สุดสำหรับอุปกรณ์ชิ้นนี้แล้ว

         ย้อนกลับไปสมัยก่อนที่ Microsoft ยังพยายามผลักดันระบบปฏิบัติการสำหรับสมาร์ตโฟนของตัวเอง Android ถือว่าเป็นคู่แข่งที่สำคัญมาก แต่โพรเจ็คดังกล่าว ถึงแม้ว่า Windows Mobile จะเป็นระบบปฏิบัติการที่ดีก็จริงแต่เนื่องจากไม่มีแอปรองรับมาก ผู้ใช้งานจึงเปลี่ยนไปใช้ Android กันมากกว่า

         เมื่อไม่มี Windows 10 Mobile ไม่ได้ไปต่อแล้ว หนทางที่เหลือของ Microsoft คือการเลือก Android มาใช้กับสมาร์ตโฟนอย่าง Surface Duo

         นอกจากนี้ Panay ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ความมุ่งมั่นของ Microsoft คือการสร้างผลิตภัณฑ์ที่สามารถให้บริการผู้ใช้งานได้ตลอดเวลา อย่าง Surface Pro X หรือ Surface Laptop 3 ที่ออกแบบตัวเครื่องให้แกะซ่อมได้ง่ายขึ้น สามารถถอด SSD ด้วยตัวเองได้ เป็นต้น

 

ขอขอบคุณ

ข้อมูล : https://www.sanook.com/hitech/1487713/

Office Tips – รวม คีย์ลัด ใน Microsoft Office ทั้ง Word,Excel,PowerPoint

การใช้งานโปรแกรม Microsoft Office นอกจากการใช้งานคำสั่งอื่นๆ แล้ว ไม่ว่าจะ Word , Excel , PowerPoint ยังมีวิธีการที่ง่ายกว่านั้นด้วย คีย์ลัด ต่างๆ ที่มีอยู่ในโปรแกรม Microsoft Office เหล่านี้ ในวันนี้ทางทีมงาน จะมาแนะนำ คีย์ลลัด ในการใช้งาน Office โดยที่เราไม่ต้องคลิ๊กปุ่มใดๆ เลย เพื่อช่วยให้เราสะดวกยิ่งขึ้น รวดเร็วยิ่งขึ้น

รวม คีย์ลัด ใน Microsoft Office ทั้ง Word , Excel , PowerPoint

คีย์ลัด ที่ใช้งานบ่อยๆ

CTRL + A = Select All / เลือกทั้งหมด
CTRL + B = Bold / ตัวหนา
CTRL + C = Copy / คัดลอก
CTRL + D = Font format / กำหนดรูปแบบอักษร
CTRL + E = Center / ตรงกลาง
CTRL + F = Find / ค้นหา
CTRL + G = Goto / ไปที่
CTRL + H = Replace / แทนที่
CTRL + I = Italic / ตัวเอียง
CTRL + J = Justify / จัดชิดขอบ
CTRL + K = Insert Hyper Link / แทรกการเชื่อมโยงหลายมิติ
CTRL + L = Left / จัดชิดซ้าย
CTRL + M = Indent / เพิ่มระยะเยื้อง
CTRL + N = New / สร้างแฟ้มใหม่
CTRL + O = Open / เปิดแฟ้มใหม่
CTRL + P = Print / พิมพ์
CTRL + Q = Reset Paragraph / ตั้งค่าย่อหน้าใหม่
CTRL + R = Right / จัดชิดขวา
CTRL + S = Save / จัดเก็บ (บันทึก)
CTRL + T = Tab / (ตั้งระยะแท็บ)
CTRL + U = Underline / ขีดเส้นใต้
CTRL + V = Paste / วาง
CTRL + W = Close / ปิดแฟ้ม
CTRL + X = Cut / ตัด
CTRL + Y = Redo or Repeat / ทำซ้ำ
CTRL + Z = Undo / ยกเลิกการกระทำครั้งล่าสุด
CTRL + SHIFT + A = All Caps  / ทำเป็นตัวใหญ่ทั้งหมด (สำหรับภาษาอังกฤษ)
CTRL + SHIFT + B = Bold / ตัวหนา
CTRL + SHIFT + C = Copy Format / คัดลอกรูปแบบ
CTRL + SHIFT + D = Double Underline / ขีดเส้นใต้ 2 เส้น
CTRL + SHIFT + E = Revision Mark Toggle / สลับการทำเครื่องหมายรุ่นเอกสาร
CTRL + SHIFT + F = Fonts Name Select / เลือกชื่อแบบอักษร
CTRL + SHIFT + G = Word count / นับจำนวนคำ
CTRL + SHIFT + H = Hidden / ซ่อน
CTRL + SHIFT + I = Italic / ตัวเอียง
CTRL + SHIFT + J = Thai Justify / จัดคำแบบไทย
CTRL + SHIFT + K = Small Caps / ทำอักษรตัวพิมพ์เล็กให้เป็นตัวพิมพ์ใหญ่แบบเล็กๆ
CTRL + SHIFT + L = Apply List Bullet / ใช้เครื่องหมายหน้าข้อ
CTRL + SHIFT + M = Unindent / ลดระยะเยื้อง
CTRL + SHIFT + N = Normal Style / ใช้ลักษณะแบบปกติ
CTRL + SHIFT + P = Font Size Select / เลือกขนาดแบบอักษร
CTRL + SHIFT + Q = Symbol Font / ใช้แบบอักษรสัญลักษณ์
CTRL + SHIFT + R = Recount Words / นับคำใหม่
CTRL + SHIFT + S = Style / กำหนดลักษณะ
CTRL + SHIFT + T = Unhang / ไม่แขวนภาพ
CTRL + SHIFT + U = Underline / ขีดเส้นใต้
CTRL + SHIFT + V = Paste Format / วางรูปแบบ
CTRL + SHIFT + W = Word Underline / ขีดเส้นใต้เฉพาะคำ
CTRL + SHIFT + Z = Reset Character / ตั้งค่าแบบอักษรใหม่
CTRL + ALT + C = Copyright sign ((c)) / สัญลักษณ์ลิขสิทธิ์
CTRL + ALT + E = Euro Sign (?) / สัญลักษณ์เงินยูโร
CTRL + ALT + F = Insert Footnote Now / แทรกหมายเหตุ
CTRL + ALT + I = Print Preview / ตัวอย่างก่อนพิมพ์
CTRL + ALT + K = Auto Format / จัดรูปแบบอัตโนมัติ
CTRL + ALT + L = Insert List Number / แทรกเลขลำดับหน้าข้อ
CTRL + ALT + M = Insert Annotation / แทรกคำอธิบาย
CTRL + ALT + N = Normal View / มุมมองปกติ
CTRL + ALT + O = Outline View / มุมมองแบบร่าง
CTRL + ALT + P = Page View / มุมมองเหมือนพิมพ์
CTRL + ALT + R = Registered sign / สัญลักษณ์เครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียน
CTRL + ALT + S = Document Split / แยกเอกสาร
CTRL + ALT + T = Trade Mark sign (?) / สัญลักษณ์เครื่องหมายการค้า
CTRL + ALT + U = Update Auto Format for Table / ปรับปรุงการจัดรูปแบบอัตโนมัติในตาราง
CTRL + ALT + V = Insert Auto Text / แทรกข้อความอัตโนมัติ
CTRL + ALT + Y = Repeat find / ค้นหาเพิ่มเติม
CTRL + ALT + Z = Go back / ย้อนกลับ

คีย์ลัดพิเศษ

CTRL + < = Decrease Font size by step / เพิ่มขนาดตัวอักษรทีละขนาดที่กำหนด
CTRL + > = Increase Font size by step / ลดขนาดตัวอักษรทีละขนาดที่กำหนด
CTRL + [ = Decrease Font size by point / เพิ่มขนาดตัวอักษรทีละพอยน์
CTRL + ] = Increase Font size by point / ลดขนาดตัวอักษรทีละพอยน์
CTRL + – = Optional Hyphen / แทรกยัติภังค์
CTRL + _ = Non Breaking Hyphen / แทรกยัติภังค์แบบไม่แบ่งคำ
CTRL + = = Sub Script / ตัวห้อย
CTRL + + = Super Script / ตัวยก
CTRL + \ = Toggle Master sub document / สลับไปมาระหว่างเอกสารหลักและเอกสารย่อย
CTRL + , = Prefix Keys / กำหนดแป้นพิมพ์
ขอบคุณที่มา : https://notebookspec.com/hotkey-microsoft-office/469311
โปรแกรมหวย richmantool

2 หญิงไทย ส่อถูกประหารในอินโดฯ หลังลอบขนไอซ์เกือบ 1 กก. เข้าบาหลี

  2 หญิงไทย ส่อถูกประหารชีวิต ยิงเป้าในอินโดนีเซีย หลังลักลอบขนไอซ์หนักเกือบ 1 กิโลกรัม เข้าบาหลี เผยถูกจับได้คาสนามบิน

          วันที่ 21 ตุลาคม 2562 เว็บไซต์ชาแนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า เจ้าหน้าที่ศุลกากรของจังหวัดบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า หญิงสัญชาติไทย 2 คน และชายฝรั่งเศส 1 คน อาจถูกตัดสินโทษประหารชีวิต หลังถูกจับกุมได้ขณะพยายามลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในจังหวัดบาหลี

          สำหรับผู้ต้องหากลุ่มแรกซึ่งเป็นหญิงไทย ประกอบด้วย เกศริน ขำขาว และ สานิชา มณีทิศ ได้เดินทางมายังจังหวัดบาหลี โดยเครื่องบินจากกรุงเทพฯ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนเจ้าหน้าที่ในท่าอากาศยานนานาชาติของบาหลี ตรวจพบยาไอซหนัก 958 กรัม ซุกซ่อนอยู่ภายใต้เสื้อผ้าของพวกเธอ ซึ่งหากพวกเธอถูกตัดสินว่ามีความผิด อาจต้องเผชิญโทษหนักถึงขั้นยิงเป้า

          ขณะที่ โอลิเวอร์ โยแวร์ ชายฝรั่งเศส ถูกจับกุมได้ภายหลังมีคนส่งพัสดุบรรจุโคเคนหนัก 22.5 กรัม จากฝรั่งเศสมาให้เขา โดยพัสดุดังกล่าวถูกตรวจค้นหลังส่งมาถึงท่าอากาศยานนานาชาติ และเจ้าหน้าที่ก็พบที่อยู่ของโอลิเวอร์ระบุอยู่บนพัสดุนั้น ซึ่งคาดว่าเขาอาจต้องเผชิญโทษจำคุกเป็นระยะเวลายาวนาน หรืออาจได้รับโทษหนักถึงขั้นประหารชีวิตเช่นกัน

          ทั้งนี้ ยังพบว่าเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางการบาหลียังสามารถจับกุมสาวรัสเซียอีกราย ที่พยายามลักลอบนำโคเคนหนัก 6.6 กรัม เข้ามาในบาหลี ซึ่งถ้าศาลตัดสินว่ามีความผิดตามฟ้อง เธออาจได้รับโทษจำคุกนานถึง 15 ปี

          อนึ่ง อินโดนีเซียนับเป็นหนึ่งในประเทศมุสลิมซึ่งมีกฎหมายเกี่ยวกับการปราบปรามยาเสพติด ที่เข้มงวดและมีโทษหนักมากที่สุดของโลก แม้ว่าโทษประหารชีวิตมักถูกลดโทษเหลือเพียงการจำคุกเป็นระยะเวลายาวนาน แต่ที่ผ่านมาก็เคยปรากฏว่าทางการอินโดนีเซียเคยทำการประหารชีวิตชาวต่างชาติที่กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดมาแล้ว

 

ขอขอบคุณ



ข้อมูล : https://hilight.kapook.com/view/195218

Samsung Galaxy S11 จะมีหน้าจอยาวขึ้น สัดส่วน 20:9 เท่ากับ Galaxy A80

          ถึงแม้จะยังอีกหลายเดือนกว่าที่ Samsung จะเปิดตัวสมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นต่อไปอย่าง Galaxy S11 แต่ก็เริ่มมีแหล่งข่าวมากมายรายงานข้อมูลต่าง ๆ โดยล่าสุดเป็นข้อมูลจาก HTML 5 โดยได้รับการทดสอบ Benchmark ภายใต้ชื่อรุุ่น SM-G416U

          การทดสอบดังกล่าวได้แสดงให้เห็นว่า Samsung Galaxy S11 นั้น ได้รับการติดตั้งระบบปฏิบัติการ Android 10 และมีหน้าจอขนาดยาว สัดส่วน 20:9

          ถ้าหากข้อมูลดังกล่าวเป็นจริง ก็จะทำให้ Samsung Galaxy S11 มีสัดส่วนความยาวหน้าจอเท่ากับ Galaxy A80 และ Galaxy A70 ในขณะที่ Galaxy S10 และ Galaxy Note 10 มีหน้าจอสัดส่วน 19:9

          อย่างไรก็ดี ยังไม่ชัดเจนว่า Samsung จะใช้ประโยชน์จากขนาดหน้าจอที่ยาวขึ้นนี้อย่างไรบ้าง และจะใช้กล้องหน้าแบบป๊อปอัพแทนการเจาะรูติดตั้งบนหน้าจอเพื่อติดตั้งกล้องหน้าหรือไม่

          คาดว่า Samsung จะเปิดตัว Galaxy S11 ในเดือนกุมภาพันธ์ 2020 ก่อนที่จะนำไปจัดแสดงภายในงาน Mobile World Congress ที่จะจัดขึ้นในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2020 ณ เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน ต่อไป

 

ข้อมูลอ้างอิง : gsmarenahttps://www.beartai.com/news/mobilenews/369695

ชิมช้อปใช้ 2 ลงทะเบียนอย่างไร เช็กเงื่อนไข ได้สิทธิ์อะไรบ้าง

          ได้รับการตอบรับจากประชาชนจำนวนมาก สำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ "ชิมช้อปใช้" ที่รัฐบาลสนับสนุนเงิน 1,000 บาท เพื่อการท่องเที่ยวและซื้อสินค้า-บริการ ซึ่งมีผู้สนใจลงทะเบียนเต็มโควตา 10 ล้านคน ภายในเวลาอันรวดเร็ว ทำให้มีเสียงเรียกร้องขอให้ออกแคมเปญ ชิมช้อปใช้ เฟส 2 เก็บตกคนที่อยากเที่ยวแต่ลงทะเบียนไม่ทันอีกรอบ

          ล่าสุด ครม. เลยไฟเขียว "ชิมช้อปใช้ เฟส 2" ออกมากระตุ้นเศรษฐกิจต่อทันที โดยเริ่มลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม เป็นต้นไป กระปุกดอทคอมจึงรวบรวมรายละเอียดมาแจ้งให้ทราบกัน 

ชิมช้อปใช้

 

ชิมช้อปใช้ เฟส 2 ใครลงทะเบียนได้บ้าง ?

        - มีสัญชาติไทย อายุ 18 ปีขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน

        - มีบัตรประจำตัวประชาชน

        - มีสมาร์ตโฟน เครือข่ายอินเทอร์เน็ต มีอีเมลสำหรับลงทะเบียนผ่านระบบชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ของรัฐ (g-Wallet)

        - ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สามารถรับสิทธิ์ได้

* จำกัดสิทธิ์แค่ 3 ล้านคน โดยจะเปิดให้ลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้วันละ 1 ล้านคน

 

ชิมช้อปใช้ เฟส 2 ได้สิทธิ์อะไรบ้าง มีแจกเงินไหม ?

ได้รับสิทธิ์เหมือนกับชิมช้อปใช้ รอบแรก นั่นคือ

        - แจกเงิน 1,000 บาท ให้ใช้สิทธิ์ในจังหวัดที่ลงทะเบียนไว้

        - สิทธิ์แคชแบ็ก จากเดิมให้คืน 15% แต่เฟส 2 นี้ สามารถรับเงินคืนได้สูงถึง 20% ตามจำนวนเงินที่ใช้จ่ายตามขั้นบันได ดังนี้
           - ยอดใช้จ่ายไม่เกิน 30,000 บาท ได้คืน 15% (สูงสุด 4,500 บาท)
           - ยอดใช้จ่ายตั้งแต่ 30,001-50,000 บาท ได้คืน 20% (สูงสุด 4,000 บาท)
รวมกันได้เงินคืนสูงสุด 8,500 บาท โดยจะเริ่มได้รับเงินคืนช่วงเดือนธันวาคม 2562

          เท่ากับว่า ถ้าเราเติมเงินใน G-Wallet กระเป๋าช่อง 2 แล้วใช้จ่ายไป 100 บาท ก็จะได้เงินคืน 15 บาท ลองมาดูตัวอย่างจากตารางข้างล่างนี้

ชิมช้อปใช้


 

ใช้จังหวัดไหนได้บ้าง ?

          เงิน 1,000 บาทที่ได้รับจากเป๋าตังช่อง 1 สามารถใช้ได้เฉพาะจังหวัดที่ลงทะเบียนไว้เท่านั้น

          สิทธิ์แคชแบ็ก 15-20% จากเป๋าตังช่อง 2 สามารถใช้ได้ทุกจังหวัด ยกเว้นจังหวัดที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน

          เช่น ทะเบียนบ้านอยู่กรุงเทพมหานคร แต่ลงทะเบียนชิมช้อปใช้ไว้ที่จังหวัดลำพูน จะสามารถใช้เงิน 1,000 บาท (เป๋าตังช่อง 1) ได้เฉพาะในจังหวัดลำพูนเท่านั้น ส่วนสิทธิ์แคชแบ็กจากเป๋าตังช่อง 2 สามารถใช้ได้ทุกจังหวัด ยกเว้นใช้ที่กรุงเทพมหานคร

ชิมช้อปใช้ เฟส 2 ลงทะเบียนได้เมื่อไร ?

          เริ่มลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 24 ตุลาคม 2562 เป็นต้นไป โดยรับสิทธิ์ได้วันละ 1 ล้านคน แบ่งช่วงเวลาลงทะเบียนเป็น 2 รอบ/วัน คือ

        - รอบแรก เปิดเวลา 06.00 น. จำนวน 500,000 สิทธิ์

        - รอบที่ 2 เปิดเวลา 18.00 น. จำนวน 500,000 สิทธิ์

        โดยจะปิดการลงทะเบียนเมื่อมีผู้รับสิทธิ์ครบจำนวน 3 ล้านคน

ชิมช้อปใช้ เฟส 2 ใช้สิทธิ์ได้ถึงเมื่อไร ?

          ครั้งนี้จะขยายเวลาการใช้สิทธิ์ไปถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2562 เลยทีเดียว จากเดิมที่ให้ถึงแค่วันที่ 30 พฤศจิกายน 2562

เคยลงทะเบียนเฟสแรกไปแล้ว
จะลงทะเบียนรอบ 2 อีกได้ไหม ?

          หากเคยได้สิทธิ์รอบแรกไปแล้ว จะไม่สามารถลงทะเบียนซ้ำในรอบ 2 ได้ เพราะชิมช้อปใช้ 2 จะเปิดให้ผู้ที่ไม่เคยได้รับสิทธิ์ลงทะเบียนเพิ่มได้จำนวน 3 ล้านคน 

คนลงทะเบียนเฟสแรก จะได้แคชแบ็ก 20% ด้วยไหม ?

          ใครที่ลงทะเบียน 10 ล้านคนแรกของชิมช้อปใช้ เฟสแรก ไปแล้ว ก็สามารถรับสิทธิ์แคชแบ็ก 20% ในเฟส 2 ได้เลยเมื่อใช้จ่ายเกิน 30,000 บาท ไม่ต้องมาลงทะเบียนใหม่อีกรอบ โดยใช้สิทธิ์แคชแบ็กได้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2562 ทั้งผู้ลงทะเบียนเฟสแรก และเฟส 2

ลงทะเบียนเฟสแรกไม่ผ่าน
จะลงทะเบียนเฟส 2 ได้ไหม ?

          หากลงทะเบียนชิมช้อปใช้ เฟสแรก ไม่ผ่าน เช่น กรอกข้อมูลจังหวัดผิด ที่อยู่ผิด ฯลฯ ทำให้ไม่ได้รับเงิน 1,000 บาท สามารถกลับมาลงทะเบียนใหม่ในเฟส 2 ได้

วิธีลงทะเบียนชิมช้อปใช้ เฟส 2

          1. เข้าเว็บไซต์ www.ชิมช้อปใช้.com เพื่อลงทะเบียน ตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม เป็นต้นไป (สามารถลงทะเบียนได้วันละ 1 ล้านคน จนกว่าสิทธิ์จะหมด)

          2. กรอกข้อมูลส่วนตัว ชื่อ-นามสกุล เลขบัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ อีเมล และเลือก 1 จังหวัดที่จะเดินทางไปใช้สิทธิ์ (ต้องเป็นจังหวัดที่ไม่ซ้ำกับที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน)

 ชิมช้อปใช้


          3. หากลงทะเบียนสำเร็จจะได้รับอีเมลยืนยัน แต่หากลงทะเบียนไม่สำเร็จ เนื่องจากมีผู้ลงทะเบียนเต็มจำนวน 1 ล้านคน/วัน แล้ว สามารถลงทะเบียนใหม่ได้ในวันถัดไป

          4. ผู้ที่ลงทะเบียนสำเร็จและผ่านการตรวจสอบจากกรมการปกครองแล้ว ภายใน 3 วัน ธนาคารกรุงไทยจะส่ง SMS ยืนยันให้ทราบว่าได้รับสิทธิ์ พร้อมระบุระยะเวลา และจังหวัดที่สามารถเดินทางไปใช้สิทธิ์ได้ แต่ในกรณีผิดพลาด จะมี SMS แจ้งให้ทราบ ซึ่งสามารถดำเนินการลงทะเบียนใหม่ในรอบถัดไปได้

          5. เมื่อได้รับสิทธิ์แล้ว ให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" เพื่อรองรับการโอนและใช้จ่ายเงิน 1,000 บาท

 ชิมช้อปใช้

วิธีลงทะเบียนแอปฯ เป๋าตัง เพื่อยืนยันการรับสิทธิ์

          1. เปิดแอปฯ เป๋าตัง ใส่เบอร์โทรศัพท์มือถือ รอรับรหัส OTP ที่จะได้รับจาก SMS แล้วกรอกหมายเลขรหัส OTP
          2. อ่านข้อกำหนด กดเลือก "ยอมรับเงื่อนไขการใช้บริการ" แล้วกด "ตกลง"
          3. ตั้งรหัสผ่านในการใช้แอปฯ
          4. กดเลือก "G-Wallet" เพื่อลงทะเบียนมาตรการชิมช้อปใช้
          5. ยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไข
          6. สแกนบัตรประจำตัวประชาชน
          7. กรอกข้อมูลบัตรประชาชน
          8. ยืนยันเบอร์โทรศัพท์ที่ลงทะเบียน ด้วยรหัส OTP ที่ได้รับจาก SMS
          9. ถ่ายรูป Selfie ใบหน้าตัวเอง
          10. รอรับ SMS ยืนยันการตรวจสอบตัวตน และสามารถใช้งานได้ทันที 

 

          หากเจอปัญหาสแกนใบหน้าไม่ผ่าน ทำให้ไม่สามารถลงทะเบียนแอปฯ เป๋าตัง ได้ ลองทำตามวิธีนี้ หรือติดต่อที่ธนาคารกรุงไทย

ส่องทริก...สแกนใบหน้าชิมช้อปใช้ แอปฯ เป๋าตัง ถ่ายรูปยังไงให้ผ่าน !

วิธีเติมเงินเข้ากระเป๋า G-Wallet ช่อง 2

          เมื่อจะใช้สิทธิ์แคชแบ็ก ต้องเติมเงินกระเป๋าช่อง 2 ก่อน โดยวิธีการเติมเงินก็ไม่ยาก

ชิมช้อปใช้


เปิดแอปฯ เป๋าตัง กดปุ่มสีส้ม "เติมเงิน" 
สามารถเลือกเติมเงินได้ 2 ช่องทาง คือ

ชิมช้อปใช้


วิธีที่ 1 เติมเงินด้วย QR รับเงิน

 นำ QR ไปสแกนกับ Mobile Banking เพื่อเติมเงินเข้า G-Wallet ขั้นตอนตามภาพนี้

ชิมช้อปใช้

วิธีที่ 2 เติมเงินด้วยเลข G-Wallet (พร้อมเพย์) 15 หลัก

สามารถเติมเงินผ่าน Mobile Banking หรือ ตู้ ATM ทุกธนาคาร โดยระบุหมายเลขพร้อมเพย์ G-Wallet 15 หลัก

ชิมช้อปใช้


 ชิมช้อปใช้


 ชิมช้อปใช้


 ชิมช้อปใช้


 ชิมช้อปใช้


วิธีใช้สิทธิ์ Cash Back จากแอปฯ เป๋าตัง 

          เมื่อเติมเงินเข้ากระเป๋า G-Wallet แล้ว สามารถใช้สิทธิ์ Cash Back ได้ตามขั้นตอนนี้เลย

          1. เปิดแอปฯ เป๋าตัง เมื่อต้องการชำระค่าสินค้าจากร้านถุงเงิน เลือก "ใช้สิทธิ์รับเงินคืน 15%"

 ชิมช้อปใช้

 

 ชิมช้อปใช้


2. กดเลือก "ใช้จ่ายร้านค้าถุงเงิน" เพื่อสร้าง QR Code

 ชิมช้อปใช้


           3. นำ QR Code ให้ร้านค้าถุงเงินที่ไม่ได้อยู่ในจังหวัดตามทะเบียนบ้านทำการสแกน

           4. หากร้านค้านั้นร่วมมาตรการ Cash Back 15% จะปรากฏกล่องสีเขียวระบุว่า "ร้านค้านี้เข้าร่วมมาตรการรับเงินคืน 15%" จากนั้นกด "ยืนยันการชำระเงิน"

           5. ยืนยันการทำรายการด้วย PIN 6 หลัก

           6. ระบบแสดง "ทำรายการสำเร็จ" หรือตรวจสอบได้ที่เมนู "รายการย้อนหลัง"

 

ขอขอบคุณ

ข้อมูล : https://money.kapook.com/view216127.html