100 เดียวเที่ยวทั่วไทย–เที่ยววันธรรมดาราคาช็อกโลก รับช่วงต่อชิมช้อปใช้หนุนท่องเที่ยว

         นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (ปฎิบัติงานกระทรวงการคลัง) ระบุ มาตรการ "100 เดียวเที่ยวทั่วไทย" เป็นการดึงผู้ประกอบการท่องเที่ยวร่วมจัดแพ็กเกจในราคาพิเศษ ได้แก่

            - ตั๋วเครื่องบิน

            - ที่พัก

            - ร้านอาหาร

            - สินค้าบริการ

         ในราคาเพียง 100 บาทต่อ 1 รายการ ในรูปแบบชิงโชคให้ 40,000 คน ผ่านการลงทะเบียน เพื่อรับสิทธิซื้อแพ็กเกจ พร้อมยอมรับว่าขั้นตอนง่ายกว่า มาตรการ “ชิมช้อปใช้ โดยหวังต่อยอดจากมาตรการ “ชิมช้อปใช้” ซึ่งเป็นช่วงที่ประชาชนเริ่มออกไปใช้สิทธิ์ท่องเที่ยวในช่วงแรก ถือเป็นโปรโมชั่นอีกด้านหนึ่งหนุนให้เกิดการท่องเที่ยว เม็ดเงินกระจายสู่ต่างจังหวัด

         นอกจากนี้ยังมาตรการ "เที่ยววันธรรมดา ราคาช็อคโลก"  เพื่อเน้นดูแล 6 กลุ่มเป้าหมาย เช่น ผู้สูงอายุ สุภาพสตรี และวัยรุ่นจบใหม่เริ่มเข้าทำงาน ยังมีเวลาท่องเที่ยวได้ ไมมีปัญหาออกเดินทางท่องเที่ยวในวันธรรมดา

         ดังนั้น จึงอยากแนะนำผู้ลงทะเบียน “ชิมช้อมใช้” เตรียมตัวลงทะเบียนผ่าน Official Line ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่เตรียมรองรับเอาไว้ 40,000 แพ็คเกจ ที่เน้นเจาะกลุ่มวันรุ่นยุคดิจิทัลอย่างกลุ่ม Generation X-Y รวมถึงคนระดับกลางมีกำลังซื้อ

         หากกลุ่มผู้ลงทะเบียนชิมช้อปใช้ สนใจโปรโมชั่นของรัฐบาลออกมาครั้งนี้ จะส่งผลต่อการกระจายเม็ดเงินออกสู่การท่องเที่ยวเมืองหลักและเมืองรอง รวมถึงอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้อง คาดว่าจะมีเงินหมุนต่อไปอีกหลายรอบ และพยุงเศรษฐกิจปลายปีให้ดีขึ้น  ซึ่งสอดคล้องกับศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่าโครงการดังกล่าวจะช่วยหนุน GDP ให้เติบโตเพิ่มขึ้นได้ประมาณ 0.02% สำหรับตัวเลขการใช้จ่ายโครงการชิมช้อปใช้มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

         ล่าสุดกรมบัญชีกลาง มีการจ่ายเงินให้แก่ร้านค้าผู้เข้าร่วมโครงการนับตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน ถึง 1 ตุลาคม 2562 ไปแล้วจำนวน  457 ล้านบาท

 

ขอขอบคุณ

ข้อมูล : https://www.sanook.com/money/696517/

ภาพ : istockphoto

Google เปิดตัวแอป Personal Safety ตรวจจับอุบัติเหตุทางรถยนต์แล้วโทรเรียก 911 อัตโนมัติ

            เนื่องด้วยความน่าเชื่อถือของ Apple Watch ในการตรวจจับช่วยชีวิตผู้ประสบอุบัติเหตุตกลงมาจากที่สูงหรือหกล้มกระแทกอย่างรุนแรง จากนั้นจะมีการแจ้งเตือนเพื่อให้ผู้ใช้เลือกที่จะโทรเรียกรถพยาบาลหรือจะยืนยันว่าสบายดี (ในเดือนที่ผ่านมา Uber ก็ประกาศฟีเจอร์ใหม่ RideCheck ตรวจจับความผิดปกติในระหว่างการเดินทางที่มีลักษณะเดียวกัน)

            30 กันยายนที่ผ่านมา XDA Developers ได้นำเสนอข้อมูลว่า Google ได้เพิ่มความปลอดภัยในรถยนต์ด้วยแอป Personal Safety ตรวจจับอุบัติเหตุรถชนให้กับสมาร์ตโฟน Google Pixel ด้วยเซนเซอร์ต่างๆ ประกอบด้วย Accelerometer และไมโครโฟน ซึ่งเริ่มใช้ได้ในสหรัฐอเมริกาบน Pixel 4 ก่อนจะขยายให้ใช้งานบน Pixel รุ่นเก่า และคุณสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ในกิจกรรม Pixel 4 วันที่ 15 ตุลาคมนี้

            เมื่อเกิดเหตุรถชนสมาร์ตโฟนจะส่งเสียงเตือนและหากผู้ใช้ไม่ตอบสนองใดๆ ก็จะโทรเรียก 911 และส่งตำแหน่งที่อยู่ของผู้ใช้ให้กับหน่วยบริการฉุกเฉินในสหรัฐอเมริกาโดยอัตโนมัติ ซึ่งหลังจากรถชนผู้ประสบอุบัติเหตุไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ แอปนี้จะเรียกเจ้าหน้าที่และช่วยชีวิตผู้ประสบเหตุก่อนที่จะสายเกินไป

ตัวอย่างการใช้แอป Personal Safety

            แอป Personal Safety ได้เปิดให้ดาวน์โหลดใช้งานแล้วใน Play Store พร้อมภาพตัวอย่างหน้าจอการใช้งาน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าหลังจากมีการแจ้งเตือนผู้ใช้สามารถยืนยันว่า I’m OK (สบายดีไม่เป็นอะไร) เพื่อป้องกันการโทรเรียกบริการฉุกเฉิน จากภาพตัวอย่างระบบจะให้ผู้ใช้ยืนยันถึงสองครั้งให้แน่ใจว่าเกิดเหตุจริงแล้วจึงโทรเรียก 911

            Google กล่าวว่าแอป Personal Safety จะใช้ตำแหน่งของ Google Pixel เซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว และไมโครโฟนตรวจจับเสียงรอบข้าง (ประมาณเสียงกระจกแตก เสียงชน หรือเสียงเบรก) หากผู้ใช้ไม่ตอบสนองระบบจะโทรเรียก 911 แต่ถ้าตอบสนองโดยแตะคำว่า ” I’m OK” ก็จะหยุดการโทร จากนั้นระบบจะถามว่าเกิดอะไรขึ้น ให้ผู้ใช้เลือกระหว่างไม่มีเหตุรถชนหรือมีเหตุเล็กน้อย เพื่อนำไปปรับปรุงการตรวจจับในอนาคต

ติดต่อบุคคลกรณีฉุกเฉิน

            นอกจากอุบัติเหตุรถชนแล้วแอป Personal Safety ยังสามารถส่งข้อความไปถึงผู้ที่ให้ติดต่อในกรณีฉุกเฉินเมื่อผู้ใช้ตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายและต้องการความช่วยเหลือ

 

ขอขอบคุณ

ข้อมูล : https://www.sanook.com/hitech/1485869/

เซ่นอีกศพ! หนุ่มซิ่งมอเตอร์ไซค์พุ่งชนราวสะพานคลองตัน ดับสลดซ้ำรอยลูกชายดีเจ

           (3 ต.ค.62) เวลา 02.25 น. เกิดอุบัติเหตุกลางสะพานข้ามแยกคลองตัน ขาออก มุ่งหน้าถนนพัฒนาการ รถจักรยานยนต์เสียหลักพลิกคว่ำ โดยจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ  พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า แอร์ร็อกซ์ สีดำ . เสียหลักชนราวสะพาน ทำให้มีผู้เสียชีวิตชาย 1 คน ส่วนสาเหตุรอการสอบสวนของ สน.คลองตัน 

           รายงานเพิ่มเติม ระบุว่า ที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากจุดทางขึ้นสะพานประมาณ 100 เมตร  ผู้ตายทราบชื่อภายหลังคือ นายวิวัฒน์ อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีเทา กางเกงยีนส์ขาสามส่วน มีบาดแผลฉกรรจ์บริเวณใบหน้า กะโหลกศีรษะแตก แขนขาหักผิดรูป มีแผลถลอกตามร่างกาย มีร่องรอยการชนกระแทกอย่างรุนแรงที่ราวสะพาน และมีหมวกกันน็อกเต็มใบ สีดำ สภาพพังยับเยินตกอยู่

           ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่าในจุดเกิดเหตุบริเวณดังกล่าวเคยมีอุบัติเหตุเป็นข่าวดังเมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา ผู้เสียชีวิตคือ นายภัทร์นฤน พงษ์ธนานิกร หรือ โน้ต อายุ 37 ปี ลูกชายของ ดีเจระย้า เจ้าของค่ายรถไฟดนตรี

           หลังจากนั้นเพียง 1 สัปดาห์ก็เกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนราวสะพาน และผู้เสียชีวิตอีก 1 ราย โดยอุบัติเหตุทั้งหมดเกิดในจุดใกล้เคียงกัน ห่างกันเพียงไม่กี่เมตร ซึ่งสะพานลอยข้ามแยกดังกล่าวได้มีการห้ามรถจักรยานยนต์ขึ้น แต่ก็ยังพบว่ามีรถจักรยานยนต์ฝ่าฝืนใช้สะพานอยู่ตลอดเช่นกัน

 

ขุดวีรกรรม เสี่ยกำมะลอ อ้างทำงานให้ทักษิณ - ใช้มุกอวดรวย สำเร็จมานักต่อนัก

         ขุดจัดหนัก วีรกรรมเสี่ยกำมะลอ หลอกดา ให้มาแต่งงานกัน อ้างกับพ่อตา เป็นคนรวย มีเงินเยอะ และเป็นคนทำงานให้ทักษิณ ชินวัตร พบไม่ใช่แค่หลอกดา แต่ยังหลอกสาวคนอื่นจนสำเร็จมาแล้ว

          เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2562 จากกรณีที่ ดา สาวบุรีรัมย์ ออกมาร้องเรียนกรณีที่เธอถูกนายเท็น (นามสมมุติ) หลอกให้แต่งงาน แล้วทิ้งหนี้สินจำนวนมหาศาลไว้ให้ โดยล่าสุด เพจดังได้ออกมาเผยว่า แท้ที่จริงนายเท็นไม่ใช่เสี่ย หากแต่เป็นคนขายเห็ด (อ่านเพิ่มเติม เพจดังแฉประวัติเสี่ยกำมะลอหลอกสาวแต่งงาน พบ เป็นคนขายเห็ด)

           ล่าสุด รายการทุบโต๊ะข่าว ได้พบกับ นายวสันต์ เทพนคร เจ้าของโรงแรมอัลวาเรซ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ใช้จัดงานแต่งระหว่างดาและเท็น เผยว่า ก่อนการจัดงานนั้น นายเท็นไม่มีการจ่ายมัดจำ เพราะนายเท็นอ้างว่าเป็นนักธุรกิจ ทำเครื่องบินเช่าเหมาลำ ไทย-ฮ่องกง รอหุ้นส่วนโอนเงินมาให้ เสร็จงานแต่งงานแล้วจะเคลียร์ ทางโรงแรมจึงออกค่าอาหารและสถานที่ไปให้ประมาณ 400,000 บาท ก่อน แต่พองานจบได้มีการทวงถามถึงค่าใช้จ่าย นายเท็นกลับบ่ายเบี่ยงและปิดมือถือ จึงทำให้ฝั่งของ ดา เจ้าสาว ติดต่อมาขอผ่อนจ่ายค่าโรงแรม โดยจ่ายมาก่อน 80,000 บาท ที่เหลือ 300,000 กว่าบาท จะผ่อนจ่ายให้ครบ

           ด้านนายสมหมาย (นามสมมุติ) พ่อของดา เปิดเผยว่า ตนเคยเจอกับนายเท็น 2 ครั้ง ครั้งแรกคือตอนที่นายเท็นมาร่วมงานศพพ่อตาของตน ครั้งที่สองคือ ตอนจัดงานแต่งงาน ตอนที่อยู่ในงานศพ นายเท็นก็บอกว่ารักลูกของพ่อ จบงานศพแล้วจะมาแต่งงาน และมาขอแต่งงานจริง ๆ

           นายเท็นสร้างโปรไฟล์หรูเริด บอกว่าทำงานเป็นที่ปรึกษาให้นายทักษิณ ชินวัตร ตอนที่จัดงานแต่งงานก็มีขันหมากมา บรรยากาศใหญ่โต แต่มีพิรุธคือ ญาติของนายเท็นมาแค่ 10 คน ซึ่งผิดวิสัยนักธุรกิจ และเมื่อแต่งงานเสร็จ นายเท็นก็บอกว่าจะไปฮ่องกง ก่อนหายตัวไป จนทำให้ตนโกรธมากที่เขามาหลอกลูกของตน


           ด้านนายหนึ่ง คู่ค้าของนายเท็น เผยวีรกรรมของนายเท็น ว่า ช่วงต้นปี 2561 นายเท็นได้ติดต่อมาทางเฟซบุ๊ก บอกว่าสนใจรับดอกเห็ดไปขาย ช่วงแรกก็สั่งแค่ 30-40 กิโล และจ่ายเงินตรง จากนั้นก็เพิ่มขึ้นมาเป็นหลายร้อยกิโล และจ่ายช้า ค้างจ่าย จนยอดเกือบครบ 1 แสนบาท ตนจึงทวงถามไป นายเท็นก็จ่ายมาเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้วก็สั่งของเพิ่ม ตนจึงเริ่มผิดสังเกต และไปหาตัวนายเท็น พบว่านายเท็นเปิดแผงขายของที่ตลาดนัดในลำลูกกา ไม่ใช่นักธุรกิจใหญ่โต และตนก็มาทราบอีกว่านายเท็นหลอกผู้หญิงไปแต่งงาน

           จากนั้น ทีมข่าวอมรินทร์ ได้ไปที่บ้านของนายเท็นในย่านลำลูกกา และพบกับ นายบี (นามสมมุติ) โดยนายบี เผยว่า นายเท็นเคยคบหากับพี่สาวของตน และบอกว่าเป็นซีอีโอ เป็นที่ปรึกษา เดินทางไปฮ่องกงประจำ และบอกให้พี่สาวของตนหยุดทำงาน จะเป็นฝ่ายเลี้ยงดูเอง แม้พี่สาวตนจะไม่ได้หมั้นหมาย แต่พบว่านายเท็นก็เลี้ยงดูพี่สาวตนไม่ได้ แถมยังแอบเอารถของที่บ้าน 3 คันไปจำนำจนเป็นหนี้นับล้านอีกด้วย

        


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

https://hilight.kapook.com/view/194395