พรุ่งนี้ราคาน้ำมันลด 60 สตางค์ต่อลิตร (30 ม.ค.63)

      อัปเดตราคาน้ำมันพรุ่งนี้ (30 ม.ค.) น้ำมันทุกชนิดลดลง 60 สตางค์ต่อลิตร โดยทางบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ PTTOR ในกลุ่มบริษัท ปตท. และบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จะปรับราคา เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป

      ราคาน้ำมันวันนี้ (29 ม.ค.2563)

         - แก๊สโซฮอล 91 / 25.98 บาทต่อลิตร

         - แก๊สโซฮอล 95 / 26.25 บาทต่อลิตร

         - แก๊สโซฮอล E20 / 23.24 บาทต่อลิตร

         - แก๊สโซฮอล E85 / 19.44 บาทต่อลิตร

         - ดีเซล / 27.09 บาทต่อลิตร

         - เบนซิน 95 / 33.66 บาทต่อลิตร

         - ก๊าซ CNG (NGV) / 15.35 บาทต่อลิตร

      ราคาน้ำมัน 30 ม.ค.2563 ปรับลดลงทุกชนิด 60 สตางค์ต่อลิตร

         - เบนซิน 95 / 33.06 บาทต่อลิตร

         - แก๊สโซฮอล์ 95 : / 25.65 บาทต่อลิตร

         - แก๊สโซฮอล์ 91 / 25.38 บาทต่อลิตร

         - E20 / 22.64 บาทต่อลิตร

         - E85 / 19.04 บาทต่อลิตร

         - ดีเซล / 26.49 บาทต่อลิตร

         - B20 / 23.49 บาทต่อลิตร

 

ที่มา : ปตท., https://news.mthai.com/general-news/792050.html

ชาวบ้านโคราช แห่ขอเลขเด็ดเรือขุดโบราณอายุ 100 ปี หลังมีคนถูกหวยหลายงวด

        ชาวบ้านจำนวนมากพากันนำดอกไม้ธูปเทียนมากราบไหว้เรือขุดโบราณ ภายในวัดใหม่หนองบัวรี ต.ชุมพวง อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา ในวันนี้ (29 ม.ค.) หลังพบว่า มีชาวบ้านในพื้นที่ได้ถูกหวยมาแล้วหลายงวด ซึ่งขุดโบราณลำนี้ มีลักษณะเป็นเรือที่ใช้แข่งขัน มีอายุกว่า 100 ปีและถูกนำมาเก็บไว้ภายในวัด

        นายบุญเลี้ยง เพ็ญกลาง อายุ 82 ปี ชาวบ้านในตำบลชุมพวง บอกว่า เป็นเรือที่ทางชาวบ้านสมัยโบราณได้ช่วยกันขุดและตกแต่งให้เป็นเรือแข่ง ซึ่งทำมาจากไม้เต็งมีอายุประมาณ 100 ปี โดยเป็นเรือขนาด 40 ฝีพาย ซื่อเรือสุพรรณหงส์ เมื่อก่อนเรือลำนี้ ได้นำไปใช้แข่งขันภายในสนามแข่งเรือยาวอำเภอพิมายในช่วงเทศกาลเที่ยวพิมาย จนได้รับรางวัลชนะเลิศมาแล้วหลายครั้ง

        อย่าไงรก็ตามปัจจุบันนี้ เรือลำดังกล่าวมีสภาพเก่าเริ่มแตกพัง ผุ กร่อน ไปตามกาลเวลา จึงนำมาเก็บรักษาไว้ภายในวัด เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้เรือขุดแบบโบราณ แต่หลังจากมีชาวบ้านเข้ามากราบไหว้เพื่อขอโชคลาภ โดยนำเลขที่ติดอยู่กับที่นั่งของเรือยาวไปเสี่ยงซื้อหวย ก็มีคนถูกหวยติดต่อกันหลายงวด ทำให้ชาวบ้านที่ทราบข่าว ต่างพากันนำดอกไม้ธูปเทียนเข้ามากราบไหว้เรือขุดโบราณเจ้าแม่สุพรรณหงส์ เพื่อนำไปเสี่ยงโชคก่อนวันหวยออกตามความเชื่อ

 

ขอขอบคุณ

ข้อมูล : https://www.sanook.com/news/8021782/

ผู้ป่วยโคโรนา เข้า รพ.เมืองแปดริ้ว ด้าน รพ.แจง ยังไม่ยืนยัน แค่คัดกรองตามขั้นตอน

         วันที่ 29 ม.ค.63 เวลา 16.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโลกออนไลน์มีการแชร์ภาพทางเฟชบุ๊ก อ้างว่ามีผู้ป่วยที่กำลังเข้ามารักษาโรคที่ รพ.พุทธโสธร (รพ.เมืองฉะเชิงเทรา) น่าสงสัยเข้าข่ายว่าจะติดเชื้อ ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่  สร้างความวิตกกังวล และตื่นตระหนกให้ผู้ที่ได้ทราบข่าว

         ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง โรงพยาบาลพุทธโสธร ทราบว่า เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. ของวันนี้ ได้มีผู้ป่วยที่เข้าข่ายต้องสงสัย ว่าจะที่มีอาการป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เป็นหญิงที่เพิ่งกลับมาจากการไปเที่ยวที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี หลังจากกลับมาได้มีอาการปวดหัววิงเวียนศีรษะ ตัวร้อนไข้ขึ้นสูง ทางโรงพยาบาลจึงได้ทำการคัดกรองและส่งต่อเข้าไปยังห้องคัดแยกการติดเชื้อตามระบบ ที่ได้มีเตรียมมาตรการเฝ้าระวังไว้เท่านั้น

         โดยยังไม่ได้ยืนยันว่าเป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อโรคไข้หวัดโคโรนาจริงๆ แต่ประการใด ซึ่งทางทีมแพทย์ได้มีการดำเนินการให้เป็นไปตามขั้นตอนของการเฝ้าระวังและควบคุมโรคอย่างเต็มรูปแบบเท่านั้น ซึ่งต้องรอผลจากการตรวจวินิจฉัย และการรักษาของทีมแพทย์ที่จะเกิดความชัดเจนต่อไป

 

ขอขอบคุณ

ข้อมูล : https://www.sanook.com/news/8022126/

รายแรกในทิเบต? เผยพบผู้ป่วยต้องสงสัยติดเชื่อไวรัสโคโรนา นั่งรถไฟมาจากอู่ฮั่น

        ลาซา, 29 ม.ค. (ซินหัว) – วันพุธ (29 ม.ค.) หน่วยงานสาธารณสุขนครลาซา เมืองเอกของเขตปกครองตนเองทิเบตทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน รายงานการตรวจพบ “ผู้ป่วยต้องสงสัย” ว่าเป็นโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (2019-nCoV) รายแรก

        โดยผู้ป่วยแซ่จาง วัย 34 ปี ชาวเมืองสุยโจว มณฑลหูเป่ยทางตอนกลางของจีน โดยสารรถไฟจากนครอู่ฮั่นของหูเป่ยมายังนครลาซาของทิเบต เมื่อวันที่ 24 ม.ค. และเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 25 ม.ค.

        ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคประจำภูมิภาคทิเบตวินิจฉัยอาการของผู้ป่วยว่าเข้าข่ายต้องสงสัยติดเชื้อไวรัสโคโรนา เมื่อวันอังคาร (28 ม.ค.) โดยตัวอย่างสารคัดหลั่งจากผู้ป่วยถูกส่งไปตรวจสอบเพิ่มเติมที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติจีนแล้ว

        ทั้งนี้ สัญญาณชีพของผู้ป่วยอยู่ในสภาวะคงที่ ขณะผู้ที่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยคนนี้ล้วนอยู่ภายใต้การสังเกตการณ์ทางการแพทย์

 

ขอขอบคุณ

ข้อมูล : https://www.sanook.com/news/8022150/

รัฐบาลไฟเขียวหนุน "กัญชง" เป็นพืชเศรษฐกิจ ให้โควตาครัวเรือนละไม่เกิน 1 ไร่

        เมื่อวานนี้ (28 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษ ประเภท 5 เฉพาะ กัญชง (Hemp)
        ทั้งนี้ รัฐบาลกำลังผลักดัน กัญชงให้เป็นพืชเศรษฐกิจชนิดใหม่ เพราะมีคุณสมบัติเป็นยาบำรุงโลหิต ช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลาย สดชื่น และรักษาอาการปวดศีรษะและไมเกรน รวมถึงเปลือกและลำต้นยังเป็นเส้นใยได้ด้วย
        ขณะที่เนื้อสามารถผลิตเป็นกระดาษได้และแกนต้นสามารถนำไปทำเป็นพลังงานชีวมวล เช่น แกนแอลกอฮอล์ เฟอร์นิเจอร์ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้ออกกฎกระทรวง เพื่อแก้ไขกฎกระทรวงเดิมที่มีความเข้มงวดและไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งกฎหมายใหม่มีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติในการสร้างรายได้และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศและเป็นไปตามนโยบายเร่งด่วนของ ครม. ในการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรและพัฒนานวัตกรรมด้านการเกษตร
        นอกจากนี้ น.ส.ไตรศุลี กล่าวต่อว่า ในขณะเดียวกันก็จะมีการวิจัยและพัฒนากัญชง เพื่อไปใช้ในอุตสาหกรรมทางการแพทย์ และอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น การทำยาสมุนไพร เครื่องสำอาง อาหาร เพราะมีสารสกัดเช่นเดียวกับกัญชา
        ซึ่งสาระสำคัญของกฎกระทรวงดังกล่าวจะอนุญาตให้หน่วยงานทุกภาคส่วนที่เป็นบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลสามารถขออนุญาตปลูกกัญชงได้ โดยมีระยะเวลา 5 ปีนับตั้งแต่ที่กฎกระทรวงมีผลบังคับใช้ พร้อมทั้งอนุญาตให้ครัวเรือนสามารถปลูกกัญชงได้ครัวเรือนละไม่เกิน 1 ไร่ เพราะของเดิมเคยปลูกเพื่อนำไปทอผ้าเป็นสิ่งทออยู่แล้ว แต่จะต้องมีใบอนุญาตและปลูกในสายพันธุ์ที่รัฐกำหนดให้ ตามการพัฒนาสายพันธ์ุของกัญชงไทย

ขอขอบคุณ

ในอนาคต Wi-Fi จะเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นอีกต่อไป

       Azhar Hussain, CEO ของ Hanhaa บริษัทด้าน IoT ได้ให้สัมภาษณ์กับ Sprectum.ieee ว่า จุดจบของ Wi-Fi กำลังใกล้เข้ามาแล้ว โดย Azhar เชื่อว่าการจัดสรรโครงข่ายเล็กๆ ในกลุ่มผู้ใช้อย่าง เทศบาล มหาวิทยาลัย และ บริษัท ต่าง ๆ ให้สามารถสร้างเครือข่ายส่วนตัวด้วย 5G

       ซึ่งมีค่าความหน่วงที่น้อยมาก สร้างความรวดเร็วและสะดวกสบายได้มากกว่า จะเป็นเหตุผลที่จะทำให้ผู้ใช้งานเปลี่ยนมาใช้ 5G ในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT แทน Wi-Fi ครับ

       เหตุผลของ Azhar Hussain ถือว่าน่าสนใจ เพราะสอดคล้องกับการใช้งานจริงในปัจจุบันอย่าง Zach Supalla, CEO ของ Particle บริษัทจำหน่ายอุปกรณ์ IoT ให้ข้อมูลว่า เกินครึ่งของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตบนระบบคลาวด์นั้นเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตมือถือมากกว่า Wi-Fi โดย Zach ให้เหตุผลว่าอินเทอร์เน็ตมือถือนั้นเชื่อมต่อง่าย และมีความยุ่งยากที่น้อยกว่า Wi-Fi ซึ่งมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีกว่า

       จริง ๆ แล้วการเชื่อมต่ออุปกรณ์ผ่าน Wi-Fi นั้นเป็นอะไรที่ค่อนข้างยุ่งยาก และอาจไม่สำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกอย่างบรรณาธิการของ Spectrum, Stacey Higginbotham ก็บอกว่าเขาเคยเชื่อมต่ออุปกรณ์ประเภท IoT มานับร้อยชิ้น ก็ไม่เคยทำสำเร็จได้ตั้งแต่ครั้งแรกแม้ครั้งเดียว ซึ่งปัจจุบันผู้ผลิตอุปกรณ์ IoT หลายแบรนด์อย่าง Amazon, Google และ Apple ต่างกำลังพัฒนาให้อุปกรณ์เหล่านี้มีการใช้งานที่ง่ายยิ่งขึ้นกว่าเดิม

       Azhar Hussain กล่าวว่า เมื่อเทียบกันแล้วระบบเครือข่ายนั้น “ง่ายกว่าเยอะมาก” เพียงแต่การใช้เครือข่ายโทรศัพท์มีผลเสียคือต้นทุนที่สูงกว่าในการจ่ายค่าอินเทอร์เน็ต แต่ Azhar เชื่อว่าในอนาคตค่าบริการเครือข่ายจะมีราคาที่ถูกลงตามระยะเวลาเอง

 

ขอขอบคุณ

ข้อมูล : https://www.sanook.com/hitech/1494121/

ผอ.สุวรรณภูมิ ยืนยันภาพชายจีนล้มตึงที่สนามบิน แค่เมาหลับตกเก้าอี้

        นาวาอากาศโท สุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชี้แจงกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์เฟซบุ๊กเช็กอินสถานที่ว่าอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิแล้วบอกว่า ที่สนามบินสุวรรณภูมิคนจีนอยู่ดีๆ ล้มตึงต่อหน้าต่อตาบริเวณชั้น 3 ของสนามบินและ รปภ.ห้ามถ่ายภาพ เมื่อมีคนมาแย้งก็เถียงกลับแล้วบอกว่า ไม่เชื่อก็ไปดูที่สนามบินสุวรรณภูมิ “เพื่อนถ่ายรูปส่งมาให้ดู” นั้น

        ข้อเท็จจริงคือ ชายที่นอนกับพื้นเป็นชายชาวจีนเมาสุราแล้วนั่งหลับตกเก้าอี้ เหตุเกิดเมื่อเวลา 01.22 น. ของวันที่ 27 ม.ค. 63 ส่วนสาเหตุที่เจ้าหน้าที่สนามบินห้ามถ่ายภาพ เป็นเพราะบริเวณดังกล่าวเป็นเขตการบิน ซึ่งตามระเบียบห้ามไม่ให้ถ่ายภาพ และจากการตรวจสอบไปยังบัญชีเฟซบุ๊กดังกล่าว ปรากฏว่าได้ลบภาพและข้อความไปแล้ว หลังเพิ่งปล่อยโพสต์ดังกล่าวออกมาตอน 10.00 น. ของวันนี้ (29 ม.ค. 63)

        ทั้งนี้ มีรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ที่ปล่อยข่าวลวงไม่เป็นความจริงเกี่ยวกับไวรัสโคโรนา ส่งผลให้เกิดความตื่นตระหนกและหวาดกลัวนั้น ถูกเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีไปแล้ว 7 ราย

 

ขอขอบคุณ

ข้อมูล : https://www.sanook.com/news/8021786/

หนุ่มเหมาซื้อหวยกวาดเรียบเกือบ 30 ใบ 2 พันบาท สุดท้ายปลอมยกแผง

       หนุ่มเหมาซื้อหวยจากพ่อค้าปั่นจักรยาน กวาดเรียบเกือบ 30 ใบ กว่า 2 พันบาท สุดท้ายตรวจพบเป็นสลากปลอม ต้องโร่มาแจ้งความ 

       วันที่ 28 มกราคม 2563 เว็บไซต์ 77 ข่าวเด็ด รายงานว่า นายสนธิ ชูบุญ วัย 51 ปี พร้อมด้วยชาวบ้านอีก 4 คน เข้าแจ้งความที่ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลรวมกันกว่า 30 ใบ แต่สงสัยว่าเป็นของปลอม 

       ด้าน นายสนธิ กล่าวว่า มีชายขี่รถจักรยานมาขายสลากกินแบ่งรัฐบาลให้ตนและเพื่อนบ้าน ซึ่งตนเหมาเกือบหมด 26 ใบ มูลค่า 2,080 บาท ต่อมาหลานเพื่อนบ้านได้ตรวจสอบสลาก จึงพบว่าสลากดังกล่าวเป็นสลากปลอม โดยวิธีตรวจสอบนั้นคือ นำน้ำมาหยดบนสลาก และสีก็หลุดลอก ต่างจากสลากของแท้

 

ภาพจาก เว็บไซต์ 77 ข่าวเด็ด

ครม. ไฟเขียวเพิ่มเบี้ยผู้พิการเป็น 1,000 บาท เชื่อไม่สร้างภาระสถานะการคลัง

       ครม. ไฟเขียวเพิ่มเบี้ยผู้พิการเป็น 1,000 บาท เริ่มตุลาคม 2563 หวังแบ่งเบาภาระ เชื่อไม่ทำให้ค่าใช้จ่ายทางการคลังเพิ่มขึ้นมากเกินไป

       วันที่ 28 มกราคม 2563 สำนักข่าว INN รายงานว่า ที่ประชุม ครม. อนุมัติเพิ่มเบี้ยผู้พิการจากปัจจุบัน 800 บาทต่อคนต่อเดือน เป็น 1,000 บาทต่อคนต่อเดือน ตามที่คณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ เสนอเพื่อให้สอดคล้องกับภาระค่าครองชีพในปัจจุบัน ซึ่งจะสามารถช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของคนพิการได้ และไม่ทำให้ค่าใช้จ่ายทางการคลังเพิ่มมากขึ้นจนเกินไป โดยสถานะทางการเงินของผู้พิการจากการสำรวจพบว่า ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบทและมีรายได้น้อยมาก เฉลี่ยเดือนละ 4,326 บาท การปรับปรุงเบี้ยผู้พิการให้ตอบสนองความต้องการที่จำเป็นจะช่วยให้ผู้พิการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

       โดยข้อมูลจากฐานทะเบียนกลาง กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ณ วันที่ 2 ธันวาคม 2562 มีจำนวนคนพิการที่ทำบัตรผู้พิการ 2.02 ล้านคน การปรับเบี้ยผู้พิการเพิ่มขึ้นนี้ จะทำให้ต้องขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติม จำนวน 4,852 ล้านบาทต่อปี โดยจะเริ่มจ่ายตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 ให้แก่ผู้พิการที่มีบัตรประจำตัวผู้พิการ และผ่านคุณสมบัติการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ใช้งบประมาณผ่านกองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม ปีงบประมาณ 2564

       โดย พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังได้มีข้อสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เพื่อให้คนพิการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น คือ ด้านสิ่งอำนวยความสะดวก ให้ทุกส่วนราชการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่คนพิการ, ด้านการสร้างอาชีพ ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ดำเนินการจัดทำบัญชีคนพิการ โดยแยกประเภทตามความพิการ คุณวุฒิเฉพาะด้านของคนพิการ เพื่อเป็นข้อมูลในการจ้างงานคนพิการในหน่วยงานของรัฐและการทำงานที่บ้าน, กำหนดเป้าหมายการรับคนพิการเข้าทำงานในแต่ละภาคส่วนให้ชัดเจน เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการขอความร่วมมือจากภาคเอกชน ให้กระทรวงแรงงาน ติดตามและตรวจสอบการจ้างงานคนพิการของนายจ้างหรือผู้ประกอบการต่าง ๆ ให้ดำเนินการถูกต้องเป็นไปตามที่กฎกระทรวงกำหนด และด้านสิทธิประโยชน์ ให้กระทรวงแรงงาน (สำนักงานประกันสังคม) และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พิจารณาแนวทางปรับปรุงสิทธิประโยชน์ในการได้รับบริการด้านสุขภาพของคนพิการที่มีงานทำและเป็นผู้ประกันตนตามกฎหมายว่าด้วยการประกันสังคม และคนพิการที่ยังไม่มีงานทำและเป็นผู้ได้รับสิทธิประโยชน์จากกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN

รัฐบาลเตรียมเครื่องบินรออพยพคนไทยจากอู่ฮั่น - คาดวันนี้ได้คำตอบจากจีน

        รัฐบาลสั่งการให้การบินไทยเตรียมเครื่องบินให้พร้อม รออพยพคนไทยจากอู่ฮั่นกลับประเทศ หลังไวรัสโคโรนาระบาด คาดวันนี้ได้คำตอบจากทางการจีน ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงาน

        วันที่ 29 มกราคม 2563 รัฐบาลไทย ได้สั่งการบินไทยเตรียมเครื่องบินที่สามารถรองรับผู้โดยสารได้จำนวนมาก เพื่อเตรียมพร้อมทำการบินอพยพคนไทยในอู่ฮั่น ประเทศจีน กลับประเทศไทย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานโดยคาดว่าในช่วงบ่ายของวันนี้น่าจะได้คำตอบว่ารัฐบาลจีนจะอนุญาตให้สายการบินไทย นำเครื่องขึ้นไปได้ในเวลาใด

        ทั้งนี้เป็นการเตรียมพร้อมควบคู่ไปกับเครื่องบินจากกองทัพอากาศ ที่มีอุปกรณ์ทางการแพทย์ของที่พร้อมทุกอย่าง เช่นเดียวกันเครื่องบินจากการบินไทยก็สามารถรองรับผู้โดยสารได้เป็นจำนวนมาก

        โดยเครื่องบินของกองทัพอากาศและชุดแพทย์ทหารมีความพร้อมที่จะเคลื่อนย้ายทันทีเมื่อมีการสั่งการ และเมื่อมีการปรับแผนก็จะพิจารณาจากความพร้อมของหน่วยงานอื่นตามแผนเตรียมพร้อมแห่งชาติ

ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN

เจ้าของแทบทรุด ปลูกมะม่วงกำลังเตรียมขาย เจอคนเผาไฟ สูญเงินกว่า 2 แสน

          เกิดเหตุมือดีแอบจุดไฟเผาหญ้าข้างทาง ก่อนลามเข้าทุ่งนาชาวบ้านเสียหายกว่า 200 ไร่ แถมลามเข้าสวนมะม่วงสูญเงินกว่า 2 แสนบาท เจ้าของแทบทรุด เตรียมตั้งรางวัลนำจับมือเผา 1 หมื่น

          เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2563 พิษณุโลกฮอตนิวส์ รายงานว่า เกิดเหตุไฟไหม้ทุ่งนาของชาวบ้านกว่า 200 ไร่ และสวนมะม่วงของนางสายไหม ด้วงนุ้ย อายุ 38 ปี และสามี เสียหายกว่า 6 ไร่ ในพื้นที่ ม.1 บ้านชมพู ต.ชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก โดยสาเหตุเกิดจากผู้ไม่ประสงค์ดีจุดไฟเผาหญ้า ก่อนเพลิงลุกลามติดทุ่งนาและสวนมะม่วงดังกล่าว

          โดยนางสายไหม เจ้าของสวนมะม่วง เผยว่า ตนทำนาอยู่ 5 ไร่ และได้ลงทุนปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง ไว้กว่า 300 ต้น บนพื้นที่ 6 ไร่ 3 งาน เอาไว้เก็บผลผลิตส่งขายในช่วงฤดูแล้ง ที่ไม่มีน้ำทำนา โดยปลูกมะม่วงไว้ 4 ปี แล้ว ปีนี้ต้นมะม่วงโตเต็มที่และกำลังติดผล สามารถเก็บเกี่ยวส่งขายได้เป็นปีแรก และหวังว่าจะได้คืนทุนกว่า 2 แสนบาทที่ลงทุนไป แต่มาเกิดไฟไหม้เสียก่อน

          วันเกิดเหตุคือ ช่วงค่ำของวันที่ 26 มกราคม ที่ผ่านมา ชาวบ้านได้โทรศัพท์หาตน ขณะอยู่ที่บ้านพักไกลออกไปจากจุดเกิดเหตุประมาณ 10 กิโลเมตร ว่าสวนมะม่วงของตน และพื้นที่ทุ่งนาถูกไฟไหม้เสียหายเป็นวงกว้าง ตนและสามี จึงรีบเดินทางมาดูก็ถึงกับทรุด เพราะไฟไหม้สวนมะม่วงของตนเสียหายทั้งหมด และยังลุกลามไหม้ทุ่งนาใกล้เคียงอีกกว่า 200 ไร่

          ทั้งนี้ มะม่วงของตนกำลังติดลูกแล้ว ตั้งใจไว้ว่าอีกประมาณ 1 สัปดาห์ ก็จะสามารถห่อผลมะม่วงได้ ส่งขายช่วงเดือนเมษายนนี้ แต่กลับมาถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด ทุนกว่า 2 แสนบาทที่ลงไปก็กลายเป็นศูนย์

          เบื้องต้น สอบถามชาวบ้านแถวนี้ก็บอกได้เพียงว่า มีคนจุดไฟในพื้นที่อีกฝั่งหนึ่ง ก่อนที่จะลุกลามข้ามคลองมาฝั่งนี้แล้วก็ไหม้สวนมะม่วงทั้งหมด แต่ก็ไม่มีใครที่จะกล้ายืนยันหรือเป็นพยานให้ตนได้ เพราะกลัวเดือดร้อน

          อย่างไรก็ตาม ตนได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้แล้วที่ สภ.เนินมะปราง แต่เรื่องก็เงียบไม่มีใครมาตรวจสอบหรือหาตัวคนร้าย ตนจึงอยากวอนขอให้ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ หรือสามารถแจ้งเบาะแสหาตัวคนก่อเหตุ ตนยินดีที่จะจ่ายรางวัลให้เป็นเงินสด 1 หมื่นบาท และยืนยันว่าทุกข้อมูล ทุกเบาะแส ตนจะเก็บไว้เป็นความลับไม่เปิดเผยให้ใครรู้เด็ดขาด


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก พิษณุโลกฮอตนิวส์

ชาวคอนโดสุดทน ห้างดังห้วยขวางจัดคอนเสิร์ตทุกสัปดาห์ เสียงดังนอนไม่ได้ ซ้ำไม่เคยขอเขต

           ชาวบ้านในคอนโดสุดทน ห้างย่านห้วยขวางจัดคอนเสิร์ตทุกสัปดาห์ บางวันเกิน 100 เดซิเบล พบไม่ขออนุญาตเขต

           จากกรณีโลกออนไลน์ ตีแผ่ภาพความเดือดร้อนของผู้พักอาศัยในคอนโดย่านห้วยขวาง หลังห้างบริเวณใกล้เคียงมีการจัดคอนเสิร์ตเป็นประจำ ส่งผลให้ได้รับการรบกวนอย่างหนัก ไม่สามารถนอนหลับได้เพราะเสียงดังมาก จนผู้พักอาศัยบางส่วนต้องขึ้นป้ายระบายความในใจนั้น

           เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 26 มกราคม 2563 รายการทุบโต๊ะข่าว รายงานว่า นายปัญญา ลูกบ้านคอนโด กล่าวว่า ทุกครั้งที่มีคอนเสิร์ต เสียงดนตรีดังเข้าไปถึงในห้องนอน ก่อนการจัดงานก็จะมีการเล่นทดสอบเสียงด้วย เฉลี่ยแล้วเสียงดัง 4 วันต่อสัปดาห์ บางครั้งดังกว่า 100 เดซิเบล ตอนที่มาอยู่ตนก็ซื้อห้องที่ติดกับป่า แม้ว่าจะแพงกว่าเพราะต้องการความสงบ แต่เมื่ออยู่ได้ไม่ถึง 1 ปี ก็มีการขยายพื้นที่จัดเป็นลานคอนเสิร์ต หากตนทราบมาก่อนว่าจะมีการสร้างเป็นลานจัดคอนเสิร์ต ก็คงไม่ซื้อคอนโด ตอนนี้จัดถี่มากแทบทุกสัปดาห์ จึงรู้สึกเหมือนถูกคุกคาม

           ด้านเจ้าของพื้นที่จัดงาน ห้างสรรพสินค้า เปิดเผยว่า การจัดงานคอนเสิร์ตแต่ละครั้ง ผู้จัดงานขออนุญาตสำนักงานเขตด้วยตัวเอง แต่ก่อนหน้านี้ก็มีการพูดคุยกับทางนิติบุคคลของทางคอนโดโดยตลอดว่าจะจัดงานวันใดบ้าง

           ขณะที่ นายอนุชิต พิพิธกุล ผู้อำนวยการเขตห้วยขวาง กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าคอนเสิร์ตเสียงดังเกินมาตรฐาน ทางเขตได้เก็บค่าไว้เป็นหลักฐาน และจะเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนให้เข้าไปดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ ที่ผ่านมาทางผู้จัดงานไม่เคยขออนุญาตทางเขต เชื่อว่าผู้จัดงานทราบดีว่าแม้จะขออนุญาตก็คงไม่ได้ เพราะพื้นที่ดังกล่าวอยู่ติดกับที่พักอาศัย จึงไม่สามารถส่งเสียงดังรบกวนได้

           นางแก้ว ลูกบ้านคอนโด กล่าวว่า ตนอาศัยอยู่กับลูก วัย 6 ขวบ ได้รับผลกระทบมาก ก่อนงานจะเริ่มก็มีการตั้งเครื่องปั่นไฟประมาณ 5 ตัว เปิดตลอดทั้งคืน เสียงดังไม่ต่างกับรถสิบล้อ รวมทั้งมีควันออกมาด้วย ส่วนวันงานก็จะเสียงดังมาก หากเป็นงานดนตรี EDM เสียงเบสจะดัง กระทบหัวใจ จนทำให้ใจสั่น ลูกก็นอนไม่หลับ ที่ผ่านมาต้องไปเช่าโรงแรมนอนหนีคอนเสิร์ต แต่ตอนนี้มีการจัดบ่อยขึ้นทำให้หนีไปไหนไม่ได้ จึงขอวอนให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาจัดการด้วย

 

ขอขอบคุณ

ข้อมูล : https://hilight.kapook.com/view/199243

โปรแกรมเจ้ามือหวย ใช้ดีราคาไม่แพง

        ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิต แน่นอนว่าห้างร้านและกิจการต่างๆก็ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ เข้ามาช่วยเพื่อบริหารเวลาในการดำเนินงานและช่วยประหยัดต้นทุนในการจ้างพนักงาน ช่วยให้ห้างร้านต่างๆมีผลกำไรมากขึ้น และมีต้นทุนที่ต่ำลงในการลงทุนทำธุรกิจ ซึ่งเจ้ามือหวยก็เช่นกัน

        วันนี้ท่านสามารถใช้โปรแกรมเจ้ามือหวยเข้ามาช่วยบริหารเวลาในการขายหวย และใช้ลดหย่อนเวลาในการคัดหวยลงไป เมื่อท่านสามารถคัดหวยได้ในเวลาสั้นๆ แน่นอนว่าท่านจะมีเวลาเหลือเฟือในการทำงานอื่นได้อย่างมากมายเลยทีเดียว ท่านจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมาเสียเวลากับการขายหวยเพียงอย่างเดียว

        ดังนั้นเราขอแนะนำเลยว่าท่านที่หารายได้ด้วยการมาเป็นเจ้ามือหวยนั้น ท่านควรใช้โปรแกรมหวยมาช่วยในการบันทึกการขายหวยและช่วยคัดหวย เพื่อช่วยให้ท่านใช้เวลาน้อยลง

        นอกจากโปรแกรมเจ้ามือหวยนั้นจะมีข้อดีตรงที่สามารถช่วยให้ท่านสามารถลดหย่อนเวลาในการบันทึกหวยและคัดหวยได้รวดเร็วแล้ว

        โปรแกรมเจ้ามือหวย ยังเป็นโปรแกรมที่มีศักยภาพในการป้องกันความผิดพลาดได้อีกด้วย เนื่องด้วยในการคีย์ข้อมูลการซื้อขายหวยนั้น ท่านสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ทุกครั้ง และสามารถตามแก้ไขข้อมูลได้อีกด้วย

        ช่วยให้การซื้อขายหวยนั้นกลายเป็นเรื่องง่ายมาก ๆ สำหรับคนที่กลัวความผิดพลาด ยิ่งใครที่ขายหวยโดยการจดลงกระดาษมาก่อน น่าจะรู้กันดีว่าการจดตัวเลขลงกระดาษนั้น ความผิดพลาดย่อมเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา

     

        ปัญหาการจดตัวเลขผิดพลาดจนนำไปสู่การตีความผิดนั้น เป็นปัญหาใหญ่ที่ไม่สามารถแก้ไขได้ ไม่สามารถป้องกันได้ง่ายๆ ถ้าท่านยังเลือกใช้วิธีการในการจดลงกระดาษ เพราะการจดบันทึกลงในกระดาษนั้น ย่อมส่งผลให้เกิดความผิดพลาดได้ตลอดเวลา

        แต่หากท่านเปลี่ยนมาใช้วิธีการจดบันทึกด้วยการคีย์ลงโปรแกรมเจ้ามือหวย แน่นอนว่าปัญหานี้ไม่มีทางเกิดขึ้นอย่างแน่นอน แถมโปรแกรมนี้ยังช่วยลดเวลาในการคัดหวยไปด้วย


สอบถามเพื่อเติมได้ที่

   - 0819967118

   - 0818917118

หรืออ่านรายละเอียดได้ที  https://www.richmantool.com

"มนต์สิทธิ์" แจกเลขเด็ด 1 ก.พ. ลั่นจะโหมซื้อให้กองสลากฯเจ๊งไปเลย

       มีเลขเด็ดมาให้ทุกงวดจริงๆ สำหรับนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง มนต์สิทธิ์ คำสร้อย เจ้าพ่อแห่งวงการใบ้หวย ที่ล่าสุดในวันตรุษจีน มนต์สิทธิ์ได้ออกมาโชว์ภาพลอตเตอรี่ที่ซื้อไว้ในมือหลายชุด และแต่ละชุดถ้าถูกลอตเตอรี่รางวัลที่1 ขึ้นมาจริงๆ ก็จะได้ถึง 30 ล้านบาท 

       พร้อมกับแคปชั่นที่มีเลขเด็ดในงวดที่จะถึงนี้ 1 ก.พ. มาให้แฟนๆ ได้ไปซื้อตามกันด้วย ทั้งเลขสามตัวและสองตัว ถ้าไม่คิดมากก็จัดไปนะ งวดนี้มนต์สิทธิ์ให้หลายตัวเหลือเกิน และมนต์สิทธิ์บอกว่าใกล้ๆ วันจะโหมซื้อให้สลากกินแบ่งรัฐบาลให้เจ๊งกันไปเลย 

       "1 กุมภาพันธ์ ลอตเตอรี่ งวดนี้ ซื้อไม่เยอะ ใกล้ๆ วันจะโหมซื้อให้สลากกินแบ่งรัฐบาลเจ๊งไปเลย เริ่มเลยนะครับลอตเตอรี่ งวดนี้ 359-428-766-756 ตามนี้เลย 75-67-63-21-03-43 แค่เป็นแนวทางนะครับ อย่าคิดมาก โปรดวิจารณญาณในการดู"

 

ขอขอบคุณ

ข้อมูล : https://www.sanook.com/news/8019186/

เขย่ารู้สึกได้! แผ่นดินไหวขนาด 2.2 แมกนิจูด ที่ อ.ตะกั่วป่า พังงา 2 ครั้งไล่เลี่ยกัน

       กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานเหตุแผ่นดินไหว เมื่อคืนที่ผ่านมา(26 ม.ค.63) เวลา 00.42 น. จุดศูนย์กลางอยู่ในพื้นที่ อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ขนาด 2.2 แมกนิจูด ลึก 1 กิโลเมตร ชาวบ้านในพื้นที่โดยเฉพาะตำบลโคกเคียน อ.ตะกั่วป่า รู้สึกได้ถึงการสั่นไหว อาคารบ้านเรือน สั่นสะเทือน

       โดยก่อนหน้านั้น เมื่อช่วงเย็นวานนี้(25 ม.ค. 63) เวลา 17.42 น. มีรายงานแผ่นดินไหวที่จุดเดียวกันนี้ ขนาด 2.1 แมกนิจูด ลึก 1 กิโลเมตร แต่จากรายงานทั้งสองครั้ง ยังไม่มีรายงานความเสียดายแต่อย่างใด

 

ขอขอบคุณ

ข้อมูล : กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว

"กรมควบคุมโรค" รับสมัครล่ามภาษาจีน ช่วยคัดกรองผู้ป่วย "ไวรัสโคโรนา"

       น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ขอประชาสัมพันธ์ขอรับสมัครล่ามภาษาจีน สำหรับคัดกรองผู้เดินทางที่ท่าอากาศยานนานาชาติ บริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินดอนเมือง และสนามบินอู่ตะเภา เพื่อทำหน้าที่สัมภาษณ์คัดกรองผู้ที่เดินทางจากพื้นที่เสี่ยงร่วมกับเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรค กรมควบคุมโรค โดยจะมีทีมดูแลเรื่องอุปกรณ์ป้องกันร่างกาย เช่น หน้ากาก N95 ชุดป้องกันการติดเชื้อ(PPE) พร้อมสอนวิธีการสวมใส่ที่ถูกต้อง ส่วนช่วงเวลาปฏิบัติงานจะแบ่งเป็น 2 กะ ระหว่างเวลา 08.00-20.00 น. และ 20.00-08.00 น. 

       "สำหรับคุณสมบัติของล่ามภาษาจีนไม่จำกัดเพศ มีอายุระหว่าง 20-45 ปี สามารถเข้าใจศัพท์ทางการแพทย์ และสาธารณสุขเบื้องต้น โดยมีค่าตอบแบบเหมาวันละ 5,000 บาท หรือแบบรายชั่วโมง 400-600 บาท โดยต้องทำสัญญาจ้างกับกรมควบคุมโรค และเซ็นต์ชื่อปฏิบัติงานกับกรมควบคุมโรค ผู้สนใจสามารถติดต่อได้ที่คุณแมว เบอร์โทรศัพท์ 089-787-0340" น.ส.ไตรศุลี กล่าว

       น.ส.ไตรศุลี กล่าวอีกว่า นอกจากนี้กรมควบคุมโรคยังรับสมัครล่ามภาษาจีน เพื่อทำหน้าที่สัมภาษณ์ผู้ป่วยและติดตามผู้สัมผัสร่วมกับทีมสวบสวนโรค มีรูปแบบการปฏิบัติงานโดยซักประวัติผู้ป่วยผ่าน Intercom รวมไปถึงการติดตามผู้สัมผัสร่วมกับทีมสวบสวนโรค แต่หากจำเป็นต้องสัมภาษณ์ต่อหน้า จะมีทีมดูแลเรื่องอุปกรณ์ป้องกันร่างกาย เช่น หน้ากาก N95 ชุดป้องกันการติดเชื้อ(PPE) พร้อมสอนวิธีการสวมใส่ที่ถูกต้องเช่นกัน ส่วนพื้นที่ปฏิบัติงานอยู่ที่กรุงเทพฯ นนทบุรี หรืออาจจะไปต่างจังหวัดบ้าง มีช่วงเวลาปฏิบัติงาน 09.00-03.00 น. หรือต้องปฏิบัติงานเมื่อมีการพบผู้ป่วยต้องสงสัย 

       "สำหรับคุณสมบัติของล่ามภาษาจีนไม่จำกัดเพศ มีอายุระหว่าง 20-45 ปี รวมถึงเข้าใจศัพท์ทางการแพทย์ และสาธารณสุขเบื้องต้น มีค่าตอบแทนเหมาวันละ 5,000 บาท หรือแบบรายชั่วโมง 400-600 บาท โดยในวันที่ต้องเดินทางไปนอกพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล จะมีค่าเดินทางจากที่พักมาถึงกรมควบคุมโรคแบบไปและกลับให้ และเซ็นต์ชื่อปฏิบัติงานกับกรมควบคุมโรค ผู้สนใจสามารถติดต่อได้ที่คุณจี เบอร์โทรศัพท์ 061-998-1116"น.ส.ไตรศุลี กล่าว

       น.ส.ไตรศุลี กล่าวด้วยว่า สำหรับแนวทางป้องกันโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่ 2019 ตามที่องค์การอนามัยโรคได้ประกาศไว้ มีดังนี้ 1.ขอให้ประชาชนหมั่นล้างมือด้วยน้ำและสบู่หรือแอลกอฮอล์เจลล้างมือ 2.ปิดปาก ปิดจมูกเวลาไอจาม ด้วยกระดาษทิชชู่หรือต้นแขนด้านใน 3.หลีกเลี่ยงสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีอากาศติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ หรืออาการคล้ายไข้หวัด 4.ปรุงอาหารประเภทเนื้อสัตว์และไข่ให้สุกด้วยความร้อน และ 5.สวมอุปกรณ์ป้องกันเมื่อต้องสัมผัสกับสัตว์ป่ามีชีวิต หรือสัตว์เลี้ยงในฟาร์ม

 

ขอขอบคุณ

ข้อมูล : https://www.sanook.com/news/8019386/

เชียงใหม่ กักตัวหญิงจีน ต้องสงสัยติดเชื้อ "ไวรัสโคโรนา" รายที่ 7 รอผลตรวจเชื้อ 2 วัน

        รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่าวานนี้ (25ม.ค.63) มีการตรวจพบ ผู้ป่วยต้องสงสัยโรคปอดอักเสบด้วยเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน รายที่ 7 ในจังหวัดเชียงใหม่ เป็นหญิงชาวจีนอายุ 38 ปี ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยว ที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น แล้วมาล้มป่วยระหว่างท่องเที่ยวในเชียงใหม่ และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแมคคอร์มิค ดูอาการไอและมีไข้สูง ซึ่งแพทย์จะซักประวัติแล้วจึงทำการแยกตัวคนไข้ส่งโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เพื่อรักษาและเก็บตัวอย่างเชื้อไปทำการตรวจ คาดว่าจะทราบผลภายใน 2 วันนี้

        สำหรับผู้ป่วยต้องสงสัย 6 รายก่อนหน้านี้ จากการเก็บตัวอย่างเชื้อไปตรวจพบว่า ไม่ใช่เชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ โดยรายที่ 6 เป็นเด็กชายอายุ 9 ปีตรวจพบเป็นผู้ป่วยต้องสงสัย เมื่อวัน 23 ม.ค.63 จากการที่ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาที่คลินิก ซึ่งซักประวัติแล้วเป็นนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น จึงทำการแยกตัวเพื่อรักษาและเก็บตัวอย่างเชื้อไปตรวจกระทั่งพบว่าไม่ใช่เชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่แต่อย่างใด

        ขณะเดียวกัน สำนักงานสาธารณะสุขจังหวัดเชียงใหม่ แนะนำประชาชนชาวเชียงใหม่และนักท่องเที่ยว สำหรับ วิธีป้องกัน โรคปอดอักเสบจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (nCOV-2019) จากเมืองอู่ฮั่น โดย นายแพทย์จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ แนะนำประชาชนและนักท่องเที่ยว ให้ติดตามข่าวสถานการณ์ โรคปอดอักเสบจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ จากเพจเฟซบุ๊ก "ประชาสัมพันธ์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่" หรือประกาศจังหวัดเชียงใหม่

        ส่วนที่หัวหินพบหญิงจีนวัย 73 ปีสงสัยติดเชื้อ เผยเดินทางจากเมืองอู่ฮั่นพร้อมเพื่อนอีก 2 คนมาลงสุวรรณภูมิ ก่อนนั่งแท็กซี่มาเที่ยวหัวหิน มีอาการป่วย ไข้สูง รอผลตรวจยืนยัน ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์สั่งโรงแรม ที่พักทั่วเมืองเฝ้าระวัง

 

ขอขอบคุณ

ข้อมูล : https://www.sanook.com/news/8019406/

ภาคเหนือ-อีสาน เตรียมรับมือพายุฝนฟ้าคะนอง สุดแปรปรวน ก่อนอากาศเย็นลง

     นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เผยว่า อิทธิพลความกดอากาศสูงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ประกอบกับกระแสลมตะวันตกจะเคลื่อนผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งแต่วันที่ 24-25 ม.ค. ที่ผ่านมา ทำให้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง 5 จังหวัด ได้แก่

       - พิจิตร

       - อุดรธานี

       - หนองบัวลำภู

       - นครพนม

       - สกลนคร 

     พื้นที่ทั้งหมดนี้ รวมเป็น 13 อำเภอ 23 ตำบล 109 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 284 หลัง เสาไฟฟ้าโค่น 45 ต้น ศาลาริมทาง 1 หลัง วัด 1 แห่ง โรงเรียน 1 แห่ง มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน

     เจ้าหน้าที่รัฐรายนี้ เผยอีกว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นโดยด่วน รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่สำรวจ ประเมิน และจัดทำบัญชีข้อมูลความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง ต่อไป

ประสานหน่วยงานรัฐเฝ้าระวังสถานการณ์ใกล้ชิด

     อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ในระยะนี้พื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยังคงมีพายุฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรง ปภ. จึงได้ประสานจังหวัด รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัย จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด

     อีกทั้งจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างทันท่วงที ตลอดจนแจ้งเตือนประชาชนให้ติดตามพยากรณ์อากาศและปฏิบัติตามประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัด ระมัดระวังอันตรายจากภาวะพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง โดยอยู่ให้ห่างจากสิ่งปลูกสร้างที่ไม่มั่นคงแข็งแรง ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาในช่วงที่เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง

     ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

อุตุฯ เตือน อีสานอากาศแปรปรวน

     ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนว่า วันนี้ (26 ม.ค.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีสภาพอากาศแปรปรวน หลายพื้นที่มีลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตก ส่วนภาคกลางและภาคตะันออกอาจเกิดฝนฟ้าคะนอง

     หลังจากนั้น ในวันที่ 27-28 ม.ค. นี้ อุณหภูมิในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือลดลงอีก 1-3 องศาเซลเซียส จึงแนะนำให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพจากอากาศที่หนาวเย็นลง