
นางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า ในวาระก้าวสู่ปีที่ 17 ไปรษณีย์ไทยได้คืนกำไรให้ผู้ใช้บริการกับแคมเปญ “ไปรษณีย์ EMS ท้าส่ง” ให้คนไทย การมอบส่วนลดให้กับผู้ใช้บริการ EMS ในประเทศ กว่า 70% สำหรับผู้ใช้บริการที่ส่งของพิกัดน้ำหนักเกิน 500 กรัม สูงสุดถึง น้ำหนัก 10 กิโลกรัม ระหว่างวันที่ 14 ส.ค. – 15 ก.ย. 2562 นี้
โดยการปรับลดอัตราค่าบริการไปรษณีย์ด่วนพิเศษ (EMS) ในประเทศ พิกัดน้ำหนักตั้งแต่ เกิน 500 กรัม – 2,000 กรัม ค่าบริการอยู่ที่ 55 บาท ส่วนน้ำหนักพิกัด เกิน 2,000 – 7,000 กรัม ค่าบริการอยู่ที่ 80 บาท
และน้ำหนักพิกัด เกิน 7,000 – 10,000 กรัม ค่าบริการอยู่ที่ 100 บาท โดยส่วนลดดังกล่าวจะใช้บริการได้เฉพาะที่ทำการไปรษณีย์ เคาน์เตอร์บริการไปรษณีย์ และลูกค้าที่ใช้บริการเตรียมการฝากส่งผ่าน Application prompt post เท่านั้น สำหรับร้านแฟรนไชส์และร้านรวบรวมต่างๆ ไม่ได้อยู่ในเงื่อนไขดังกล่าว
นอกจากนี้ ไปรษณีย์ไทย ยังยกระดับคุณภาพบริการต่าง ๆ ซึ่งคนไทยจะสามารถใช้บริการไปรษณีย์ด่วนพิเศษ (EMS) ที่รวดเร็วขึ้น หากฝากส่งระหว่างพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลก่อน 10.30 น. จะถึงผู้รับในวันเดียวกัน (Same day) หรือฝากส่งช่วงบ่ายก็จะได้รับวันรุ่งขึ้น (Next day) และในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศเมื่อฝากส่งในพื้นที่อำเภอเมือง ถึงปลายทางในพื้นที่เดียวกัน จะถึงมือผู้รับในวันเดียวกัน (Same Day)
ขณะที่ฝากส่งระหว่างพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล กับภูมิภาคจะถึงมือผู้รับในวันรุ่งขึ้น (Next day) และฝากส่งระหว่างภูมิภาคได้ขยายพื้นที่ให้สามารถนำจ่ายผู้รับได้ในวันรุ่งขึ้น (Next day) เช่น ระหว่างภาคเหนือกับ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก หรือ ระหว่างภาคใต้กับภาคตะวันออก เป็นต้น
“ความพยายามในการยกระดับคุณภาพบริการในครั้งนี้ ได้ผลแล้วในหลายพื้นที่ ซึ่งไปรษณีย์ไทยอยู่ระหว่างขยายการยกระดับคุณภาพบริการให้ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ ซึ่งคนไทยจะได้รับประโยชน์สูงสุด
เพื่อตอกย้ำการเป็นผู้นำในธุรกิจขนส่งโลจิสติกส์อันดับหนึ่งของไทยด้วยการคงมาตรฐานการส่งด่วน “ส่งเช้าได้บ่าย ส่งบ่ายได้วันรุ่งขึ้น” นางสมร กล่าว สอบถามรายละเอียดอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ www.thailand
ขอขอบคุณ

พบไม้ตะเคียนถูกโค่นทิ้งไว้ไม่มีใครกล้าเอาไปบ้าน มีเหตุต้องนำมาคืน ชาวบ้านที่ทราบข่าว เริ่มไปขอโชคลาภ วันใกล้หวยออกนี้
ที่บริเวณท่าน้ำคลองชลประทานบ้านโฉลง ม.5 ต.คลองใหม่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ซึ่งอยู่เขตรอยต่อระหว่างปัตตานี – ยะลา มีชาวบ้านจำนวนหนึ่ง เดินทางไปขอโชคลาภและไปไหว้เจ้าแม่ตะเคียนตามความเชื่อ หลังจากทราบข่าวจากคนในพื้นที่ว่า มีไม้ตะเคียนถูกโค่นทิ้งไว้กว่าปีแล้ว แต่ก็ยังคงถูกทิ้งไว้บริเวณใกล้ท่าน้ำคลองชลประทาน ไม่มีใครกล้ามาเอาไปใช้สอย ส่วนผู้ที่มาขโมยตัดเอาไป ก็ต้องมีอันเป็นไป ต้องนำมาคืนทุกคน
ด้าน นายสมทบ อายุ 51 ปี ชาวบ้านที่อยู่ใกล้บริเวณดังกล่าวได้เล่าให้ฟังว่า เมื่อก่อนบริเวณแห่งนี้เป็นร่องน้ำและมีต้นตะเคียนอยู่จำนวน 5 ต้น ต่อมาท่านเจ้าอาวาสวัดโคกหญ้าคา ซึ่งวัดอยู่ไม่ไกลจากที่นี่มากนัก ได้มาทำพิธีขอเพื่อตัดเอาไม้จากต้นตะเคียน เพื่อนำไม้ไปบูรณะวัดโดยได้ทำพิธีทางไสยศาสตร์ ตามความเชื่อ แต่ปรากฏว่า ไม่สำเร็จเจ้าแม่ตะเคียนไม่อนุญาต จึงได้เลิกที่จะตัดต้นตะเคียนทั้ง 5 ต้น ดังกล่าว
นายสมทบ ได้เล่าให้ฟังเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับโชคลาภเจ้าแม่ตะเคียนก็ยังให้โชคอยู่ โดยที่ผ่านมาได้มีท่าน ผบ.ร้อย ซึ่งมาตั้งฐานปฏิบัติการอยู่ในหมู่บ้าน ได้แวะเวียนมาขอโชคลาภ ก็ได้เลขสองตัวไปทุกครั้งและก็ถูกทุกครั้ง และยังมีชาวบ้านไทยพุทธที่อยู่บริเวณใกล้บ้านกับตนเอง มาขอเลขจากต้นตะเคียน ก็ได้ถูกหวยไปแล้ว และก็ไปทำธุรกิจอยู่ จ.ภูเก็ต
สำหรับชาวบ้านที่มากราบไหว้เจ้าแม่ตะเคียน ที่มานี่เป็นชุดแรกที่มาจากยะลา เนื่องจากก่อนหน้านี้ ไม่มีใครกล้ามาก็เพราะสถานการณ์ความรุนแรง นอกจากชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงเท่านั้นที่มาขอโชคลาภ ซึ่งการมาขอเลขส่วนใหญ่ก็จะนำแป้งฝุ่นมาโรยและใช้มือลูบไปมา บางคนก็เห็นตัวเลขได้ชัดเจน บางคนเห็นสามตัว สองตัว จากการสอบถามชาวบ้านที่มาขอ ก็บอกว่าเห็นเป็นเลข 785 , 640 หรือ 764 เป็นต้น
ขอขอบคุณ

พบต้นสำโรง ลำต้นและใบสีเหลืองนวล ตั้งตรงสูงเด่นเป็นสง่าอยู่บริเวณริมถนนสายพหลโยธิน ชาวบ้านแห่นำเครื่องเซ่นไปกราบไหว้เพื่อขอเลขเด็ดกันอย่างไม่ขาดสาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (13 ส.ค.) ที่ จ.นครสวรรค์ ได้รับรายงานว่ามีกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 2 บ้านหนองเสลา ต.เขาชายธง อ.ตากฟ้า พบต้นสำโรง ซึ่งมีลำต้นและใบสีเหลืองนวลแตกต่างจากต้นสำโรงทั่วไป อีกทั้งลำต้นยังตั้งตรงสูงยาวสง่าอยู่บริเวณริมถนนสายพหลโยธิน
ซึ่งขณะนี้เริ่มมีชาวบ้านรายอื่นที่ทราบข่าว ต่างมีการนำเครื่องเซ่นไปกราบไหว้เพื่อขอเลขเด็ดกันอย่างไม่ขาดสาย จึงเดินทางไปตรวจสอบที่บริเวณดังกล่าว
เมื่อไปถึงพบกลุ่มชาวบ้านเป็นจำนวนมาก ต่างกำลังห้อมล้อมและจับต้อง ต้นสำโรงทองนวล ที่งอกเงยขึ้นมาจากต้นสำโรงต้นแม่ที่ถูกตัดต้นทิ้งไปจนเหลือแต่ตอ ซึ่งดูมีความสง่างดงามเป็นอย่างมาก
จากการการสอบถามชาวบ้านแถวนั้น ให้ข้อมูลว่า ต้นสำโรงดังกล่าวอยู่ในผืนที่ดินของ นายประสาน อายุ 65 ปี เกษตรกรไร่ข้าวโพด และพบเห็นมาได้ประมาณ 1 เดือนแล้ว แต่ทางเจ้าของพื้นที่ ก็ไม่ได้ให้ความสำคัญมากนัก
ผิดกับชาวบ้านคนอื่นๆ ที่ผ่านมาพบเห็น ต่างพากันประหลาดใจ พร้อมกับพากันเรียกชื่อต้นไม้ต้นนี้ว่าเป็น “ต้นสำโรงทอง” และเมื่อข่าวเริ่มสะพัดแพร่กระจายออกไป ก็เริ่มมีชาวบ้านเป็นจำนวนมาก ต่างซื้อพวงมาลัย เครื่องเซ่นไหว้ และน้ำอัดลม มาสักการะเพื่อขอเลขเด็ดกันอย่างคึกคัก โดยจะเห็นได้ว่าลำต้นของต้นสำโรงทองขณะนี้ ถูกโปะเต็มไปด้วยแป้งที่ชาวบ้านนำมาถูเพื่อส่องหาเลขเด็ด
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า นอกจากจะพบเห็น ชาวบ้านต่างพากันมาห้อมล้อมเพื่อหาเลขเด็ดจากต้นสำโรงทองจนทำให้โดยรอบบริเวณดูคึกคักแล้ว ยังส่งผลดีทำให้บรรดาพ่อค้าแม่ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลต่างพากันนำแผงหวยมาตั้งขายอยู่ในพื้นที่ด้วย จึงทำให้ชาวบ้านไม่ต้องไปไหนไกล
เมื่อส่องหาเลขเด็ดจนหนำใจแล้ว ก็พากันเดินมาซื้อหวยต่อก่อนจะกลับบ้านกันได้เลย ส่วนเลขที่ชาวบ้านต่างหากันได้จากต้นสำโรงทอง มีทั้ง 15-51-87-78-325-680 ซึ่งหลายรายต่างบอกกันเป็นเสียงเดียวว่า หากถูกรางวัลจะมีการทำศาลไว้ให้ต้นสำโรงทองเลยทีเดียว
ขอขอบคุณ
จุดเด่นของหลักสูตร
- เป็นหลักสูตรกัญชาระดับปริญญาตรี หลักสูตรแรกของประเทศไทย
- รวบรวมองค์ความรู้วิชากัญชาที่สอนใน 20 มลรัฐของสหรัฐอเมริกา
- ฝึกงานจากสถานที่จริง
- มีโครงการศึกษาดูงานในต่างประเทศกับผู้ผลิตกัญชาโดยตรง
เริ่มเปิดรับนักศึกษา ตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2562 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่วิทยาลัยสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา โทรศัพท์ 034-773905
มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา เปิดรับสมัครนักศึกษาใหม่ หลักสูตรกัญชา เวชศาสตร์ หลักสูตรแรกของประเทศไทย มีพาศึกษาดูงานต่างประเทศกับผู้ผลิตกัญชาโดยตรง

วันที่ 13 สิงหาคม 2562 เฟซบุ๊ก มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ได้ออกประกาศ เปิดรับสมัครนักศึกษาใหม่ หลักสูตรกัญชา เวชศาสตร์ ระดับปริญญาตรี หลักสูตรแรกของประเทศไทย

ขอขอบคุณ

สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฮ่องกง ได้รับแจ้งจากการท่าอากาศยานฮ่องกงว่า ท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกงได้กลับมาให้บริการเที่ยวบินของทุกสายการบินตามปกติแล้วในวันนี้ (13 ส.ค. 62) อย่างไรก็ดี ขอให้ผู้โดยสารทุกท่านติดตามข่าวสารและประกาศของการท่าอากาศยานฮ่องกงอย่างใกล้ชิดที่ https://www.hongkongairport.com/en/
ในการนี้ สถานกงสุลใหญ่ฯ ขอแจ้งว่า คนไทยบางส่วนที่ตกค้างจากการยกเลิกเที่ยวบินเมื่อวันที่ 12 ส.ค. 62 ได้ทยอยเดินทางกลับไทยแล้ว ซึ่งเที่ยวบินแรกที่ให้บริการบินกลับไทยคือ Hong Kong Airlines เมื่อเวลา 06.55 น. และ Cathay Pacific เวลา 08.55 น. โดยในส่วนของการบินไทย ได้กลับมาให้บริการเที่ยวบินตามปกติ เริ่มตั้งแต่เที่ยวบินที่ TG601 เวลา 12.45 น.
สถานกงสุลใหญ่ฯ ขอแนะนำให้คนไทยทุกคนประสานทางสายการบินอย่างใกล้ชิดเพื่อตรวจสอบสถานะของเที่ยวบิน และโปรดเผื่อเวลาในการเดินทางไปที่ท่าอากาศยานและการ check-in เนื่องจากมีผู้โดยสารตกค้างเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ หากต้องการความช่วยเหลืออื่นๆ สามารถติดต่อสถานกงสุลใหญ่ฯ ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉิน (+852) 6821 1545 หรือ (+852) 6821 1546
ขอขอบคุณ
รวบแก๊งปาหินใส่รถบรรทุกกระจกแตก อึ้ง หัวหน้าแก๊งอายุเพียง 12 ปี หลังลงมือก็กลับบ้านราวไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2562 ข่าวช่องวัน รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางพลีน้อย จ.สมุทรปราการ ได้ควบคุมตัวเด็ก 5 คน มาสอบปากคำหลังก่อเหตุปาหินใส่รถบรรทุกที่ขับอยู่บนถนนมอเตอร์เวย์ ส่งผลให้คนขับได้รับบาดเจ็บที่ข้อมือ สำหรับของกลางที่ยึดได้นั้นมีรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ก้อนหินน้ำหนัก 2 กิโลกรัม
ด้านเด็กชายวัย 12 ปี รายหนึ่ง ให้การสารภาพว่า ตัวเองเป็นหัวหน้าแก๊งนี้ ก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง ลงมือโดยหวังเพียงให้ถูกหลังคารถเพื่อให้เกิดเสียงดัง ไม่คิดว่าครั้งนี้จะถูกกระจกหน้ารถแตก อีกทั้งทำไปเพื่อความสนุกสนาน หลังก่อเหตุเสร็จก็หนีกลับบ้าน ทำตัวปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม ตำรวจต้องรอสอบปากคำพร้อมกับทีมสหวิชาชีพอีกครัง เนื่องจากผู้ก่อเหตุทั้งหมดเป็นเยาวชน
ขอขอบคุณ