คลังยืนยัน ไม่เลื่อนเก็บภาษีที่ดิน 1 ม.ค. 63 มั่นใจเก็บไม่แพง ไม่สร้างภาระให้คนไทย

โฆษกกระทรวงการคลัง ยืนยัน ไม่เลื่อนบังคับใช้กฎหมายจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เริ่ม 1 มกราคม 2563 เผยเก็บไม่แพง มั่นใจไม่สร้างภาระให้ประชาชน วันที่ 30 ธันวาคม 2562 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 รายงานความคืบหน้ากรณีการออกกฎหมายจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งก่อนหน้านี้ มีรายงานว่า นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร เสนอออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาระงับการบังคับใช้กฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างไปก่อน ซึ่งจะมีการบังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 นั้น ล่าสุด นายลวรณ แสงสนิท โฆษกกระทรวงการคลัง และผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจ (สศค.) เปิดเผยยืนยันว่า จะไม่มีการเลื่อนการจัดเก็บภาษีที่ดิน ซึ่งจะบังคับใช้กฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตามเดิม คือ 1 มกราคม 2563 เนื่องจากกฎหมายฉบับนี้ประกาศใช้ไปแล้ว และก็มีการให้เวลาในการปรับตัวมาระยะหนึ่งแล้ว ดังนั้นผู้ใดขายหรือโอนไม่ทันในปีนี้ ซึ่งมีชื่ออยู่ในโฉนดจะต้องเสียภาษี ทั้งนี้ ยอมรับว่าช่วงแรกอาจมีปัญหาและอุปสรรคอยู่บ้าง เป็นเรื่องปกติของการบังคับใช้กฎหมายใหม่ แต่ยืนยันว่ากฎหมายฉบับนี้ จะช่วยลดความซับซ้อนในการเสียภาษี เชื่อว่าไม่สร้างภาระให้ประชาชนมากเกินไป ไม่ได้เก็บแพง เพราะคำนึงถึงประชาชนเป็นหลัก อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

เทคนิคขายหวยง่ายขึ้นด้วยโปรแกรมเจ้ามือหวย

เทคนิคขายหวยง่ายขึ้นด้วยโปรแกรมเจ้ามือหวย หากท่านประสบกับปัญหาในการขายหวย การจดบันทึกหวยที่เป็นเรื่องยาก แน่นอนว่าท่านควรจะมีตัวช่วยดีๆมาช่วยในการขายหวย เพื่อช่วยให้ท่านสามารถที่จะขายหวยได้ง่ายยิ่งขึ้น ปัจจุบันเราสามารถใช้โปรแกรมเจ้ามือหวยเพื่อช่วยให้ท่านที่มีปัญหาเรื่องการจดบันทึกลงในกระดาษและผิดพลาดเป็นประจำ สามารถเปลี่ยนมาใช้โปรแกรมเจ้ามือหวยแทน ท่านจะได้ไม่ต้องเสียเวลากับการจดบันทึกลงกระดาษ เพราะโปรแกรมเจ้ามือหวยนั้น เราสามารถคีย์ข้อมูลลงไปในคอมพิวเตอร์ได้ง่ายดายมาก แถมไม่ต้องกลัวความผิดพลาดด้วย เพราะเมื่อคีย์ข้อมูลผิดพลาดนั้น หากเราดูแล้ว มีการกรอกตัวเลขผิด แน่นอนว่าเราสามารถที่จะแก้ไขความผิดพลาดดังกล่าวได้ทันที ไม่เหมือนกับการใช้กระดาษที่จะนำไปสู่ความผิดพลาดได้ง่าย และตัวเลขที่เขียนนั้น บางครั้งก็สร้างความสับสนให้เจ้ามือไม่น้อยว่าตกลงแล้วคนซื้อจะซื้อเลขอะไรกันแน่ เห็นไหมว่าการที่เราเลือกใช้โปรแกรมหวยมาช่วยในการขายหวยนั้น ช่วยป้องกันความผิดพลาดได้ดีขนาดไหน เรียกได้ว่าป้องกันไม่ให้เราเขียนเลขผิดแบบ 100% เลยก็ว่าได้ เพราะหากเราเผลอคีย์ข้อมูลลงไปผิดจริงๆ เราสามารถที่จะแก้ไขข้อมูลดังกล่าวได้เสมอ จึงช่วยป้องกันปัญหาดังกล่าวได้อย่างยอดเยี่ยมเลยทีเดียว คนยุคนี้หลายคนก็ใช้เทคนิคขายหวยด้วยการใช้โปรแกรมเจ้ามือหวยเข้ามาแทนการจดบันทึก เพราะนอกจากจะมีประโยชน์อย่างมากในเรื่องของการป้องกันความผิดพลาดในการจดบันทึกได้เป็นอย่างดีแล้ว โปรแกรมเจ้ามือหวยยังมีความพิเศษในเรื่องของการใช้งานอีกด้วย เพราะมันจะเป็นโปรแกรมคัดหวยที่จะช่วยประหยัดเวลาให้เราอีกด้วย มันสามารถช่วยให้เราหาคนที่ถูกหวยได้รวดเร็ว เพียงคีย์ตัวเลขของผลหวยงวดนี้ลงไป เพียงเท่านี้เราก็สามารถสแกนหาคนที่ถูกหวยได้ในเวลาเพียงวินาทีเดียวเท่านั้นเอง ในเมื่อตอนนี้มีเทคโนโลยีเครื่องไม้เครื่องมือที่จะช่วยให้เราประหยัดเวลาได้มากมายขนาดนี้ ทำไมท่านจะไม่เลือกที่จะติดตั้งโปรแกรมเจ้ามือหวยให้ชีวิตของท่านง่ายสบายมากยิ่งขึ้น จะได้มีเวลาเหลือสำหรับทำธุรกิจอย่างอื่นด้วย แน่นอนว่าคนที่ขายหวยนั้น ชีวิตวุ่นวายอยู่แล้ว หากมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นหรือเกิดการจดตัวเลขสับสน จะยิ่งส่งผลให้ท่านวุ่นวายเข้าไปอีก ดังนั้นอย่าปล่อยให้ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นได้ในอนาคต ป้องกันมันได้ไม่ยากเลย เพียงท่านติดตั้งโปรแกรมหวยเอาไว้ ก็จะไม่ต้องกลัวแล้วว่าปัญหานี้จะเกิดขึ้น สอบถามเพื่อเติมได้ที่ - 0819967118 - 0818917118 หรืออ่านรายละเอียดได้ที่ www.richmantool.com

ผ่าน 4 วันช่วง 7 วันอันตรายปีใหม่ ยอดตายพุ่ง 208 ศพ กรุงเทพฯ เสียชีวิตแล้ว 11 ราย

ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2563 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย แถลงสรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 30 ธันวาคม 2562 โดย นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ ในฐานะประธานแถลงข่าวสรุปผลดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ในการรณรงค์ “ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร” ว่า มีการเกิดอุบัติเหตุ 485 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 48 ราย ผู้บาดเจ็บ 484 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เมาแล้วขับ ร้อยละ 33.20 รองลงมาคือ ขับรถด้วยความเร็ว ร้อยละ 28.66 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุดคือ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 81.76 ซึ่งจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดคือ จังหวัดเชียงใหม่ 18 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุดคือ จังหวัดนครปฐม 4 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุดคือ จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดเลย จังหวัดละ 19 คน โดยสรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 4 วันของการรณรงค์ (27-30 ธ.ค. 2562) เกิดอุบัติเหตุรวม 1,988 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 208 ราย ผู้บาดเจ็บรวม 2,031 คน ส่วนจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุดคือ จังหวัดเชียงใหม่ 61 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุดคือ จังหวัดกรุงเทพมหานคร 11 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุดคือ จังหวัดนครปฐม 66 คน และจังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตเลยมีทั้งหมด 16 จังหวัด โดยนายวิตถวัลย์ กล่าวว่า ในวันนี้ประชาชนส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่และมีการเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ รวมถึงหลายพื้นที่มีการจัดงานรื่นเริง จึงมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนมากกว่าปกติ ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจึงได้สั่งการจังหวัดดำเนินมาตรการลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง โดยให้ปรับแผนการตั้งด่านชุมชนบนเส้นทางเข้าออกหมู่บ้าน ชุมชน เพื่อเข้าสู่ถนนสายหลัก เน้นการจัดตั้งจุดตรวจ ด่านตรวจ กวดขันตาม 10 มาตรการหลัก คุมเข้มบริเวณสถานบันเทิง พื้นที่จัดงาน และบริเวณเส้นทางโดยรอบที่มีการจัดงานรื่นเริง (Countdown) และจุดที่มีประชาชนมารวมกันเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ได้กำชับให้ดำเนินมาตรการควบคุมการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการจำหน่ายแก่กลุ่มเด็กและเยาวชนที่อายุไม่ถึง 20 ปี รวมถึงการจำหน่ายสุราในลักษณะเร่ขาย โดยได้เน้นย้ำให้ทุกพื้นที่ใช้มาตรการเชิงรุกทั้งด่านครอบครัว ด่านชุมชน เพื่อป้องปรามและเตือนให้ผู้ขับขี่ “ดื่มไม่ขับ ไม่ขับรถเร็ว คาดเข็มขัดนิรภัยและสวมหมวกนิรภัยทุกครั้ง” โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชนที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ด้วยความประมาท เพื่อลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุ และร่วมกันมอบความปลอดภัยเป็นของขวัญปีใหม่แก่ประชาชน ทั้งนี้ นายวิตถวัลย์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่าในปีนี้ กรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม ร่วมกับ ปภ. จัดกำลังเจ้าหน้าที่ประจำด่านกว่า 117 ด่านทั่วประเทศ พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ประจำศาลในคดีที่มีผู้ต้องถูกคุมประพฤติขึ้นศาลอยู่ อย่างไรก็ตาม ในปีนี้พบว่าตั้งแต่แต่วันที่ 27-30 ธันวาคม 2562 มีผู้ต้องคดีขับรถขณะเมาสุรา จำนวน 4,856 คดี หรือร้อยละ 96.96 และพบว่ามีการกระทำผิดซ้ำ 63 ราย ซึ่งในจำนวนดังกล่าวจะต้องมีการประเมินพฤติกรรมว่าหากเข้าข่ายติดสุรารุนแรงจะต้องเข้ารับการบำบัดหรือเข้าข่ายเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่อไป เช่น อาจมีการนำเข้าไปชมห้องดับจิต และกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลืออุบัติเหตุทางรถยนต์ ขอขอบคุณ ข้อมูล : https://www.sanook.com/news/7997015/

Huawei Mobile Services มีแอปรองรับทั้งหมด 45,000 แอปพลิเคชันแล้ว

หลังจาก Huawei เป็นบริษัทที่อยู่ใน Entity list หรือบริษัทที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของสหรัฐ บริษัทก็ไม่สามารถใช้งาน Google Services รวมถึง Play Store นั่นเป็นเหตุให้ Huawei ต้องผลักดัน Huawei Mobile Services ของตัวเองเพื่อใช้แทน Google Services ให้ได้ ถ้าเปรียบเทียบกันจริง ๆ Huawei Mobile Services ก็คล้าย ๆ กับ Google Services คือเป็นบริการต่าง ๆ ของที่ Huawei พัฒนาขึ้นมาเอง โดยมี AppGallery หรือร้านค้าแอปพลิเคชันของ Huawei เอง เมื่อวันที่ 23 ธันวาคมที่ผ่านมา Huawei ได้เปิดทดสอบ Huawei Mobile Services รุ่น beta รุ่นใหม่ในประเทศจีน โดยสื่อต่างประเทศระบุว่าการทดสอบดังกล่าวเป็นการทดสอบสองระบบหลัก ได้แก่ Huawei Mobile Services (เพื่อปรับปรุงระบบในอนาคต) และ HMSCoreTest ปัจจุบัน Huawei Mobile Services มีแอปให้บริการทั้งหมด 45,000 แอป ซึ่งถือว่ายังห่างจาก Google Services ที่มีแอปให้ใช้งานทั้งหมด 3 ล้านเครื่อง โดย Huawei มีนักพัฒนาที่คอยพัฒนาแอปให้กว่า 1 ล้านคนทั่วโลกอีกด้วย ก่อนหน้านี้ Huawei กล่าวกับสื่อว่าบริษัทจะร่วมมือกับนักพัฒนาในการพัฒนาแอปให้ใช้งานได้จริงภายในสิ้นปีนี้ ขอขอบคุณ ข้อมูล : พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส, https://www.sanook.com/hitech/1492105/

หนาวส่งท้ายปี! เหนือ-อีสาน อุณหภูมิต่ำสุดบนยอดดอย-ยอดภู มีหวังเจอเลขตัวเดียว

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศประจำวันที่ 31 ธันวาคม 2562 โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ ลักษณะอากาศทั่วไป พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ในภาคเหนือและภาคกลาง บริเวณพื้นราบของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนืออากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-20 องศาเซลเซียส ยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-12 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่เปลี่ยนแปลง สำหรับภาคใต้มีฝนน้อย สำหรับบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 4 ม.ค. 63 ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา เมื่อเวลา 04.00 น. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ในขณะที่คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกได้เคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ บริเวณพื้นราบ อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 14-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-35 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอย มีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณพื้นราบ อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภู มีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 7-11 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 19-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ภาคตะวันออก อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) เมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 20-40 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) เมฆบางส่วน กับมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม/ชม ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เมฆบางส่วน อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ขอขอบคุณ ภาพ : iStock ข้อมูล : https://www.sanook.com/news/7996871/

ฝุ่น PM 2.5 กลืนเมืองกรุงวันสิ้นปี! ดัชนีอากาศสะพรึง เข้าขั้นสีแดง

เว็บไซต์ดัชนีคุณภาพอากาศ aqicn.org เผยว่า ระดับฝุ่นละอองในอากาศขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) เมื่อเวลา 06.00 น. วันนี้ (31 ธ.ค.) อยู่ที่ระดับ 155 หรือสีแดง ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ด้านข้อมูลที่ได้จากเครื่องวัดคุณภาพอากาศที่การเคหะชุมชนดินแดงนั้น ดัชนีคุณภาพอากาศมีตัวเลขสูงถึง 158 ส่วนที่กรมประชาสัมพันธ์วัดได้ที่ระดับ 152 ซึ่งก็เป็นระดับสีแดงเช่นกัน ไม่ต่างจากที่โรงไฟฟ้าย่อย ธนบุรี ก็วัดได้ที่ 155 ในระดับสีแดง ขณะเดียวกัน ในโลกออนไลน์ ผู้ใช้โซเชียลมีเดียหลายคน ที่อยู่ในกรุงเทพมหานคร โพสต์ว่า วันนี้ตื่นขึ้นมา พบว่าทัศนวิสัยต่ำคล้ายหมอก แต่อากาศไม่เย็น จึงเป็นไปได้ว่า น่าจะเกิดจากฝุ่นควันในอากาศ มลพิษในอากาศเช่นนี้ สิ่งที่ประชาชนทั่วไปทำได้เพื่อป้องกันการสูดดมฝุ่นควัน คือ การสวมหน้ากากอนามัย ที่สามารถป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กดังกล่าว ทั้งยังควรงดการทำกิจกรรมกลางแจ้ง อย่างเช่น การวิ่งออกกำลังกายที่สวนสาธารณะ จนกว่าระดับคุณภาพอากาศจะอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย ขอขอบคุณ ข้อมูล : https://www.sanook.com/news/7996826/

หนุ่มโหดกระทืบสาวจนสลบ ตอนจบซ้อนท้ายกันกลับบ้านเฉย

(27 ธ.ค.62) เฟซบุ๊กเพจ มีสุขคลินิก by หมอปู ระบุว่านี่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นข้างคลินิก ชายหญิงคู่หนึ่งได้ซ้อนมอเตอร์ไซค์กันมาจอดในซอยแล้วทะเลาะกันรุนแรง จากนั้นฝ่ายชายทำร้ายจนฝ่ายหญิง ทั้งบีบคอ ต่อย เตะไม่ยั้งจนอีกฝ่ายล้มลงไปกองกับพื้น บาดเจ็บจนไม่สามารถลุกขึ้นมาได้ ไม่พอฝ่ายยังทำร้ายต่อ บางช่วงใช้เท้าเหยียบเข้าไปที่ใบหน้า แต่สิ่งที่ทำให้คนที่ได้ดูคลิปดังกล่าวถึงกับงง เพราะเหตุการณ์ตอนท้ายฝ่ายหญิงก็ได้ซ้อนมอเตอร์ไซค์ฝ่ายชายขี่ออกไปตามปกติ ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น โดยทางเพจนำมาแชร์เป็นอุทาหรณ์สอนหญิง ระบุว่า "เตือนภัยผู้หญิง #รักเขาต้องรักตัวเองด้วยนะ เหตุการณ์ในคลิปเป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น เหตุเกิดเมื่อ 20 ธ.ค. 2562 เวลา 20.54 น. ที่ ซ.ข้างมีสุขคลินิก มุกดาหาร แอดมินไม่รู้ว่า ผู้หญิงคนนี้ไปทำอะไรผิดมา หรือต้องทำผิดมากขนาดไหนจึงต้องบันดาลโทสะทำร้ายร่างกาย เอาเป็นเอาตายขนาดนี้ ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ในสถานการณ์แบบนี้ ไม่มีใครเข้ามาช่วยเหลือได้เลยจริงๆ กว่าจะรอคนอื่นมาช่วย นาทีนั้นอาจสายไปแล้ว ฉะนั้นอย่าไปไหนมาไหนคนเดียว อยู่ในที่มืดๆ เปลี่ยวๆ ต้องระวัง เพราะไม่มีใครช่วยเราได้จริงๆ ขอให้คลิปนี้เป็นอุทาหรณ์ สำหรับผู้หญิง ที่จะเลือกใครสักคนมาเป็นคู่ชีวิต ควรศึกษาดูใจกันให้ดีเสียก่อน ก่อนตัดสินใจ" หลังภาพเหตุการณ์ถูกแชร์ออกไป มีผู้เข้ามาชมกว่า 2 ล้านครั้ง หลายคนเข้ามาแสดงความเห็นหลากหลายมุม บ้างก็ไม่เข้าใจว่าทำไมฝ่ายหญิงต้องอดทนยอมถูกกระทำ แต่ขณะเดียวกันอีกส่วนหนึ่งก็มองว่า ผู้หญิงอาจไม่มีทางเลือก หรือกลัวถูกทำร้ายอีก จึงต้องกลับไปกับฝ่ายชาย ขอขอบคุณ ข้อมูล : https://www.sanook.com/news/7993630/

นับครบแล้วเงิน "ตาต้อย" คนจนผู้ยิ่งใหญ่ ญาติบริจาคให้วัดหลังสิ้นลม 74,909 บาท

จากกรณีที่โลกออนไลน์มีการแชร์เรื่องราวของ “ตาต้อย” ชายชราเก็บขยะขายประทังชีวิต ได้เสียชีวิตลงด้วยโรคชราที่บ้านพัก แต่สร้างความดีครั้งสุดท้ายด้วยการบริจาคเงินที่เก็บมาทั้งชีวิตให้กับวัด โดยญาติได้นำเศษเหรียญที่ตาต้อยเก็บออมไว้ในกระป๋องขนาดใหญ่ มอบให้วัดบ้านหมี่ใหญ่ จ.ลพบุรี โดยเงินของตาต้อยนั้น มาจากการเก็บขวด กระป๋อง ของเก่าไปขายแลกเงิน ในทุกๆ วันตาต้อยจะมานั่งหน้าร้านสะดวกซื้อสาขา บ้านหมี่ จ.ลพบุรี เป็นประจำ จนเป็นที่คุ้นตาของชาวบ้าน ซึ่งคนใจบุญที่มาใช้บริการร้านสะดวกซื้อก็จะหยิบยื่นเศษเงินให้ตาต้อย จนได้ฉายา ตาต้อย 5 บาท ล่าสุด เจ้าอาวาสวัดบ้านหมี่ใหญ่ เปิดเผยว่า พระลูกวัดได้ช่วยกันนับเงินของตาต้อยครบแล้ว พบว่ามีจำนวนมากถึง 74,909 บาท ทางวัดจะได้นำเงินส่วนนี้บูรณะหลังคาศาลาและทำร่องน้ำรองรับน้ำฝนต่อไป ขอขอบคุณ ข้อมูล : https://www.sanook.com/news/7993734/

ชายพิการนั่งผูกคอตายริมระเบียงหอพัก คนข้างล่างสุดหลอน เงยหน้ามาเจอศพ

(27 ธ.ค.2) เมื่อเวลา 07.30 น. ร.ต.ท ธนชาติ เจริญแล้ว รอง สว.สอบสวน สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุคนผูกคอเสียชีวิต เหตุเกิดภายในห้องพักพนักงาน โรงเก็บพัสดุส่วนการโยธากองช่างเมืองพัทยา ถนนชัยพรวิถี ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยารีบไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุริมระเบียงห้องพักชั้นที่ 4 พบร่าง นายพรชัย อายุ 45 ปี ใช้เชือกไนลอนมัดกับราวตากผ้าแล้ว ด้านปลายมัดเป็นบ่วงคล้องติดอยู่ที่คอ ในสภาพนั่งเสียชีวิตอยู่บนเก้าอี้สีน้ำเงิน ทำให้ผู้ที่มาพบเห็นทางด้านล่างรู้สึกขนหัวลุกไปตามๆ กัน ก่อนเจ้าหน้าที่กู้ภัย จะเคลื่อนย้ายร่างผู้ตายลงมาได้ สอบถาม น.ส.จันทร์ภา อายุ 50 ปี พี่สาวผู้ตายทราบว่า น้องชายของตนเองตาบอดหนึ่งข้าง และเป็นอัมพาต ไม่สามารถเดินได้ ทั้งยังมีอาการของโรคซึมเศร้าด้วย ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงดึกผู้ตายออกมานั่งเล่นริมระเบียง พอตื่นเช้ามาก็เห็นผู้ตายนั่งอยู่ระเบียงหลังห้องก็เปิดประตูไปดูก็พบว่าใช้เชือกผูกคอเสียชีวิตเสียแล้ว เมื่อตั้งสติได้จึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบดังกล่าว เบื้องต้นร.ต.ท ธนชาติ เจริญแล้ว รอง สว.สอบสวน เจ้าของคดีได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียด คาดว่าผู้ตายคงเกิดความเครียด จากอาการป่วยจึงตัดสินใจคิดสั้น ซึ่งทางญาติไม่ติดใจในการเสียชีวิตในครั้งนี้ จึงมอบหมายให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯเก็บรักษาร่างผู้เสียชีวิตไว้ที่โรงพยาบาลบางละมุง เพื่อรอญาติมาติดต่อรับศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีทางศาสนาต่อไป ขอขอบคุณ ข้อมูล : https://www.sanook.com/news/7993898/

วิวาท ก๋วยเตี๋ยวลุงกี้ เอาสากกะเบือตีหัวลูกน้อง ไม่ให้ลาออก-หยามจนหมดความเป็นคน

ก๋วยเตี๋ยวลุงกี้ ใช้สากกะเบือตีลูกน้องเลือกอาบ รับไม่ได้มาขอลาออก ด้านลุงกี้ยัน ให้ลาออกได้ แต่ไม่ให้คืนเงินประกัน เพราะต้องทำงานให้ครบ สรุปใครผิด วันที่ 26 ธันวาคม 2562 รายการทุบโต๊ะข่าว รายงานว่า นายรังสรรค์ พันธุ์ไพโรจน์ หรือเพชร อายุ 41 ปี อดีตลูกจ้างของร้านก๋วยเตี๋ยวลุงกี้ ร้านก๋วยเตี๋ยวชื่อดังย่านนทบุรี ถูกลุงกี้ เจ้าของร้าน เอาสากตีหัว อันเนื่องมาจากนายรังสรรค์ไปขอลาออก และขอเงินประกันคืน แต่ลุงกี้ไม่ให้ออก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ทั้งนี้ นายรังสรรค์ เผยว่า เหตุที่ตนขอลาออกนั้น เพราะพี่สาวของตนที่ทำงานร้านลุงกี้เหมือนกัน พี่สาวถูกลุงกี้ยกเท้าใส่หน้า พี่สาวไม่พอใจจึงจะขอลาออก ตนก็จะขอลาออกด้วย และขอเงินค่าประกัน 600 บาทคืน ตนจึงโทร. ไปบอกลูกสะใภ้ของลุงกี้ แต่ลูกสะใภ้ลุงกี้บอกว่า ถ้าอยากลาออกต้องไปลาออกกับลุงกี้เอง ตนจึงไปลาออกเอง และเอากุญแจร้านไปคืน เมื่อทวงเงินประกัน 600 บาท ลุงกี้บอกว่าไม่ให้ ตนจึงบอกว่าจะไปฟ้องกรมแรงงาน จากนั้นจึงทะเลาะกัน ลุงกี้เอาสากมาตีหัวตน ตนเอาไม้มาบังแต่ไม่ทัน ลุงกี้พยายามบีบคอตน จนตนหนีได้ ตนคุยดี ๆ และไม่ได้ด่าลุงกี้เลย "ยกเท้าใส่หน้าพี่สาวผมครับ แต่พี่สาวผมหลบทัน พูดจาเหยียดหยามอย่างนู้นอย่างนี้ พี่สาวผมก็เดินร้องไห้ออกมา" ด้าน นางหนิง (นามสมมติ) พี่สาวของนายรังสรรค์ เผยว่า ลุงกี้มักจะบอกว่า องค์ลง และยกเท้าคล้ายจะถีบตน ตนก็ไม่รู้ว่า คำว่า องค์ลง หมายความว่าอย่างไร ลุงกี้ชอบด่าแรง ๆ หักเงินตนครั้งละ 20 บาท 2 ครั้ง เพราะทำกระเทียมเจียวหก ตนรับพฤติกรรมไม่ได้ มีการแจกของลับ และยิ่งน้องมาโดนสากตีหัว ตนยิ่งรับไม่ได้เข้าไปใหญ่ "มันทำให้เราเสียใจ หมดสภาพความเป็นคน คนอยู่เยอะแยะเลยนะ คนกินอยู่เยอะแยะเลยนะ เขาไม่อายแต่พี่อาย พี่เป็นผู้หญิง ร้องไห้หันหน้าไปหาน้องเลย (เสียงสั่น) เขาทำกับพี่อย่างนี้ พี่จะออกแล้วนะ ไม่รู้เราไปทำอะไรผิด (ร้องไห้)" ด้านลุงกี้ เผยว่า นายรังสรรค์จะมาลาออก และขอเงินประกันคืน แต่ตนไม่ให้เงินประกันคืนเพราะต้องทำงานให้ครบก่อน จนมีปากเสียงกัน นายรังสรรค์ก็ชี้หน้าด่าตน นายรังสรรค์เอาไม้จะตีตนก่อน ตนจึงเอาสากกะเบือตีนายรังสรรค์คืน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

10 ของขวัญที่ผู้ชายอยากได้ เซอร์ไพรส์แน่ รับรองไม่มีเฟล

ของขวัญที่ผู้ชายอยากได้ 10 ของขวัญยอดฮิตที่หนุ่ม ๆ ทุกคนอยากได้ในวันสำคัญ เซอร์ไพรส์ให้รับรองว่าตะลึงจนต้องร้องว้าว ของขวัญ เมื่อถึงเทศกาลวันสำคัญทีไร เชื่อว่าสาว ๆ หลายคนคงกำลังคิดหนักกันอยู่ใช่ไหมล่ะ ว่าจะซื้อของขวัญอะไรไปให้แฟนหนุ่ม คุณพ่อ พี่ชาย น้องชาย หรือเพื่อนคนสนิทดี ครั้นจะสุ่มสี่สุ่มห้าเลือกก็เกรงว่าจะไม่ชอบ จะให้ไปถามก่อนก็กลัวจะไม่เซอร์ไพรส์และดูไม่พิเศษอีก ทำเอาคิดไม่ตกเลยว่าจริง ๆ แล้วผู้ชายเขาอยากได้ของขวัญอะไรกันบ้าง ถ้าจนถึงวันนี้แล้วยังคิดไม่ออก ก็แวะมาดู 10 ของขวัญที่ผู้ชายอยากได้ที่กระปุกดอทคอมรวบรวมมาให้ได้เลย ไม่ว่าเทศกาลหรือวันสำคัญไหน ๆ ก็ให้ได้ รับรองว่าปลื้มปริ่มจนต้องวิ่งมาสวมกอดคุณแน่นอน มีอะไรที่หนุ่ม ๆ อยากได้บ้างมาดูกันเลย... 1. เสื้อผ้าที่ตรงกับสไตล์ ผู้ชายทุกคนจะไว้ใจและคิดว่าเสื้อผ้าที่ผู้หญิงเลือกให้คือสิ่งที่เหมาะกับเขามากที่สุด ลองสังเกตดูว่าคุณผู้ชายชอบแต่งตัวแนวไหน จากนั้นก็เลือกซื้อเสื้อ กางเกง หรือรองเท้าที่ตรงกับสไตล์ให้เขาไปได้เลย เชื่อเหอะว่าเซ้นส์ของผู้หญิงในด้านแฟชั่นไม่มีพลาดอยู่แล้ว ยังไงเขาก็ต้องชอบแน่นอน แถมจะหยิบมาใส่ให้เห็นบ่อย ๆ อีกด้วย ของขวัญ 2. กล้องถ่ายรูปหรืออุปกรณ์ถ่ายภาพ ผู้ชายส่วนใหญ่เวลาเห็นกล้องถ่ายรูปมักจะรู้สึกคันไม้คันมืออยากจะจับ อยากจะหยิบมาลองเล่นตลอดเวลา ถ้าเขายังไม่มีกล้องเป็นของตัวเอง การซื้อกล้องถ่ายรูปให้ก็ถือเป็นไอเดียที่ดีเหมือนกัน แต่ถ้าเขาเป็นช่างถ่ายภาพหรือมีกล้องส่วนตัวอยู่แล้ว ก็ดูเป็นอุปกรณ์เสริมให้เขาแทนก็ได้ หลังจากนี้เขาจะหยิบมาใช้ทุกวันแน่นอน ไม่เชื่อคอยดูได้เลย 3. อุปกรณ์กีฬา สำหรับผู้ชายที่ชอบออกกำลังกายแล้ว การได้ของขวัญเป็นอุปกรณ์กีฬาสุดเจ๋งหรือชุดกีฬาเท่ ๆ จากฝ่ายหญิง เป็นอะไรที่ดีต่อใจมาก ๆ เพราะมันบ่งบอกว่าคุณเห็นด้วยที่เขาเป็นคนรักสุขภาพและสนับสนุนให้เขาออกกำลังกาย แบบนี้ใครไม่ปลื้มก็ให้มันรู้ไป ของขวัญ 4. ของสะสม ผู้ชายส่วนใหญ่มักจะมีของสะสมอย่างพวก ของเล่น หนังสือ ซีดีเพลง ภาพวาด หรือของเก่า ซึ่งของเหล่านี้อาจดูไม่มีราคาแต่มีคุณค่าทางจิตใจกับพวกเขามาก ๆ ลองแอบส่องดูว่าคุณผู้ชายชอบและสะสมอะไรอยู่ แล้วซื้อให้เป็นของขวัญซะเลย ยิ่งเป็นของแรร์หรือของลิมิเต็ดยิ่งทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นมากขึ้น งานนี้เก็บใส่ตู้โชว์ไว้เป็นอย่างดีแน่นอน 5. อุปกรณ์แต่งรถ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ารถยนต์หรือรถมอเตอร์ไซค์คู่ใจ เป็นอะไรที่ผู้ชายทุกคนหวงและทะนุถนอมมาก ๆ ดังนั้นการได้อุปกรณ์ตกแต่งหรือของประดับเท่ ๆ เป็นของขวัญ คงเป็นอะไรที่น่าประทับใจสุด ๆ เผลอ ๆ อาจหยิบมาเปลี่ยนใส่ทันทีเลยก็ได้ ของขวัญ 6. นาฬิกาข้อมือ เป็นไอเทมที่ผู้ชายทุกคนต้องมีติดตัวไว้เลย แถมบางคนหลงใหลมากถึงขั้นเก็บเป็นของสะสมกันเลยทีเดียว ซึ่งนาฬิกาข้อมือสามารถบ่งบอกทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับตัวผู้ใส่ได้ ลองสังเกตคาแรคเตอร์ของคุณผู้ชายดู แล้วเลือกนาฬิกาที่สมาร์ทเข้ากับลุคของเขาให้เป็นของขวัญ รับรองว่าเซอร์ไพรส์จนต้องหยิบมาใส่เดินอวดทุกวันแน่นอน 7. อุปกรณ์เทคโนโลยีใหม่ ๆ การได้ครอบครอง Gadget หรืออุปกรณ์เทคโนโลยีสุดเจ๋ง ก็ถือเป็นความสุขของผู้ชายอย่างหนึ่งเหมือนกัน เพราะการได้สัมผัส ได้ลอง ได้ค้นหาอะไรใหม่ ๆ คือนิสัยที่ฝังลึกอยู่ในตัวผู้ชายทุกคน สละเวลาเปิดหาข้อมูลดูว่ามีเทคโนโลยีอะไรมาใหม่บ้าง แล้วก็จับมาเป็นของขวัญให้เขาซะเลย แกะกล่องออกมาจะต้องตะลึงจนตาโตพร้อมร้องว้าวออกมาสุดเสียงแน่ ๆ ของขวัญ 8. กระเป๋าสะพายหรือกระเป๋าสตางค์ ผู้ชายบางคนจะมีความผูกพันกับกระเป๋าที่ใช้ เพราะเป็นไอเทมที่อยู่ติดตัวทุกวันและตลอดเวลา หากเห็นว่ากระเป๋าสะพายหรือกระเป๋าสตางค์ของเขาดูเก่า ๆ เริ่มมีรอยชำรุด แนะนำให้ซื้อใบใหม่ให้เป็นของขวัญไปเลย โดยเลือกแบบที่ใกล้เคียงกับแบบเก่าที่ฝ่ายชายใช้มากที่สุด เขาจะได้รับรู้ว่าคุณเป็นคนที่ใส่ใจเขามากแค่ไหน 9. น้ำหอม เห็นอย่างนี้ผู้ชายก็ใส่ใจเรื่องน้ำหอมไม่แพ้กัน ความรู้สึกที่ได้รับน้ำหอมเป็นของขวัญก็จะคล้าย ๆ กับเสื้อผ้า เพราะผู้ชายจะเชื่อในเซ้นส์ของผู้หญิงมากกว่า ยิ่งถ้าคุณเป็นคนเอ่ยปากบอกเขาว่า ชอบผู้ชายฉีดน้ำหอมกลิ่นนี้ด้วยแล้ว รับรองว่าเขาต้องฉีดทุกครั้งที่มาหาคุณแน่นอน ฟินกันทั้งสองฝ่ายเลย ของขวัญ 10. ของขวัญที่ทำด้วยตัวเอง ถ้าสุดท้ายแล้วคิดไม่ออกจริง ๆ ว่าจะซื้ออะไรให้หนุ่มในใจดี ก็ตัดทุกช้อยส์ออกให้หมด แล้วหันมาของแฮนด์เมดเป็นของขวัญชิ้นสำคัญแทน จะถักไหมพรม ทำการ์ด โฟโต้บุ๊ก หรืออะไรก็ตามแต่ที่เราทำขึ้นเองกับมือ เชื่อเหอะว่ายังไงฝ่ายชายก็ชอบแน่นอน แม้มูลค่าของมันจะไม่สูงแต่มันมีคุณค่าทางจิตใจที่หาซื้อที่ไหนไม่ได้อีกแล้วในโลกนี้ ลองนำไอเดีย 10 ของขวัญสำหรับผู้ชายเหล่านี้ไปประกอบการตัดสินใจกันดูนะคะ ว่าสิ่งไหนเหมาะและเขาน่าจะประทับใจมากที่สุด แต่ถ้าคิดไม่ออกแนะนำเป็นข้อที่ 10 เลยค่ะ ไม่มีเฟลแน่นอน ยังไงก็อย่าลืมมอบความรักและความรู้สึกที่ดีให้แก่กันด้วยล่ะ จะได้มีความสุขด้วยกันทั้งสองฝ่าย ขอขอบคุณ ข้อมูล : https://women.kapook.com/view184341.html

ปอท. รวบแอดมินเพจ หลวงพี่จัสติน วัดดูยูมีน v.2 พบเป็นกระเป๋ารถเมล์หน้าหล่อ

ตำรวจ บก.ปอท. รวบแอดมินเพจ หลวงพี่จัสติน วัดดูยูมีน v.2 เผยแพร่เนื้อหาไม่เหมาะสม พบเป็นกระเป๋ารถเมล์หน้าหล่อ หลอกขายเสื้อได้เงินหลายแสน แต่ไม่ส่งสินค้า วันที่ 26 ธันวาคม 2562 ข่าวช่องวัน รายงานว่า กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) แถลงจับกุม แอดมินเพจ หลวงพี่จัสติน วัดดูยูมีน v.2 ผู้ต้องหาตามหมายจับ หลังพบพฤติกรรมเผยแพร่เนื้อหาไม่เหมาะสม และหลอกลวงขายสินค้าทางออนไลน์ จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ เบื้องต้นพบว่า ผู้ต้องหาเป็นคนหน้าตาดี ประกอบอาชีพเป็นกระเป๋ารถเมล์ และเคยดังในโลกสังคมออนไลน์ จากนั้นได้ไปลงทุนธุรกิจจนหมดตัว จึงคิดจะทำเพจหลวงพี่จัสตินฯ ขึ้นมา และมีการนำข้อมูลบิดเบือนและข้อมูลที่เป็นภัยมั่นคง ข้อมูลเท็จนำมาใส่ในเพจ จนมีผู้ติดตามถึงสามแสนคน เมื่อมีลูกเพจเพิ่มขึ้น ทางเพจก็จะนำเสื้อมาขาย จนมีผู้หลงซื้อไปจำนวนมาก ได้เงินไปหลายแสนบาท แต่ผู้ซื้อไม่ได้รับของ และได้แจ้งเรื่องมาที่ บก.ปอท. กว่า 10 ราย พร้อมทั้งแจ้งเตือนว่าเพจหลวงพี่จัสตินฯ ดังกล่าวเป็นเพจโกง จนนำมาสู่การจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ เบื้องต้นแจ้งข้อหาตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 14 (3) "นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรฯ" ซึ่งมีอัตราโทษสูงสุด จำคุก 5 ปี ปรับ 100,000 บาท สำหรับผู้ใดเผยแพร่หรือส่งต่อภาพ หรือข้อความดังกล่าว จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (5) อัตราโทษสูงสุด จำคุก 5 ปี ปรับ 100,000 บาท อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก ข่าวช่องวัน

ระทึก ฝาท่อระเบิดบึ้ม ขณะสาวขี่รถจักรยานยนต์ผ่าน ร่างลอยละลิ่ว คางฉีก-จมูกหัก

เกิดเหตุฝาท่อระเบิดอย่างรุนแรง บริเวณหน้าโรงหนังฟ้าลานนาเก่า จ.ลำปาง ขณะสาวขี่รถจักรยานยนต์ผ่าน ร่างลอยละลิ่วได้รับบาดเจ็บหนัก คางฉีก จมูกหัก โหนกแก้มร้าว วันที่ 26 ธันวาคม 2562 สมาคมสว่างนครลำปางธรรมสถาน รายงานว่า เมื่อเวลา 13.35 น. หน่วยกู้ภัยสว่างนครลำปาง ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 1669 ตรวจสอบเหตุท่อใต้ดินระเบิดโดนรถจักรยานยนต์ บริเวณหน้าโรงหนังฟ้าลานนาเก่า ถ.ท่าคราวน้อย ต.สบตุ๋ย เทศบาลนครลำปาง พื้นที่ สภ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง ที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ทะเบียน 1กฒ-9376 ลำปาง ล้มคว่ำอยู่ โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ทราบชื่อคือ น.ส.รตีอโณทัย หลอมวันดี อายุ 21 ปี มีบาดแผลถลอกฟกช้ำตามร่างกาย มีแผลฉีกขาดทะลุบริเวณคาง 5 เซนติเมตร จมูกหัก โหนกแก้มร้าว ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ณ จุดเกิดเหตุ และรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลลำปาง เพื่อทำการรักษาต่อไป ขอขอบคุณ ข้อมูล : https://hilight.kapook.com/view/197936

บรรยากาศทั่วไทยตื่นตัว แห่ชมสุริยุปราคาบางส่วน งดงามตระการตา ต้อนรับปี 2020

แห่ชม สุริยุปราคาบางส่วน หรือ พระอาทิตย์เสี้ยว เหนือท้องฟ้าไทย ส่งท้ายปี 2019 ด้านประเทศ สิงคโปร์ เกิดสุริยุปราคาวงแหวน ครั้งแรกในรอบ 20 ปี จากกรณีสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ชวนดู "สุริยุปราคาบางส่วน" ที่จะเกิดขึ้นในวันนี้ (26 ธันวาคม 2562) โดยมีคาบการเกิดตั้งแต่เวลา 10:00 - 14:00 น. และสามารถเห็นชัดสุดช่วง 12.00 น. อ่านเพิ่มเติม : ชวนชม สุริยุปราคา 26 ธันวาคม นี้ สดร. แนะวิธีชมอย่างปลอดภัย-ชี้เป้าจุดสังเกตฟรี ตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมามีผู้คนให้ความสนใจกับปรากฏการณ์ สุริยุปราคา ที่จะเกิดขึ้นส่งท้ายทศวรรษนี้เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในทวิตเตอร์ที่มีชาวเน็ตต่างพากันถ่ายภาพพระอาทิตย์เสี้ยวพร้อมติดแฮชเท็ก #สุริยุปราคา จนพุ่งขึ้นติดเทรนด์อันดับ 1 อย่างรวดเร็ว สำหรับปรากฏการณ์สุริยุปราคา ในครั้งนี้ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จะสังเกตเห็นการบดบังอยู่ที่ประมาณ 56% ส่วนในจังหวัดเชียงรายที่อยู่เหนือสุดของประเทศจะสังเกตเห็นการบดบัง 40% ขณะที่จังหวัดยะลาซึ่งอยู่ใต้สุดจะสามารถเห็นการบดบังอยู่ที่ 75% ส่วนในประเทศที่สามารถเห็นปรากฏการณ์สุริยุปราคาแบบเต็มดวงได้แก่ สิงคโปร์ โดยสามารถเห็นได้ชัดเจนที่สุดเป็นลักษณะวงแหวน มีการบดบังอยู่ที่ 95% และยังเป็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปีในประเทศสิงคโปร์ นอกจากนี้ในประเทศอินเดีย และประเทศโซนตะวันออกกลาง ก็สามารถมองเห็นสุริยุปราคาแบบเต็มดวงได้เช่นเดียวกัน ขอขอบคุณ ข้อมูล : https://hilight.kapook.com/view/197929

แม่ขายตัวลูกออทิสติก เล่นกับราคะผู้ชาย พบเหยื่อทุกรายยอมจ่าย ไม่อยากติดคุก

วันที่ 26 ธันวาคม 2562 จากกรณีที่ตำรวจ จับกุมตัวนางกัญญ์ณณัฎฐ์ เพชรฤาชารัตน์ วัย 39 ปี ข้อหากรรโชกทรัพย์ และการสวมเครื่องแบบของเจ้าพนักงาน หลังจากที่นางกัญญ์ณณัฎฐ์ ได้นำนางสาวบี (นามสมมุติ) ซึ่งพิการทางสมอง มาเร่ขายตัว แล้วไปตบทรัพย์ได้เงินหลายแสน (อ่านเพิ่มเติม รวบแม่แท้ ๆ พาลูกออทิสติกวัย 19 บำเรอกามชายหนุ่ม ก่อนตบทรัพย์ครึ่งล้าน) ทั้งนี้ รายการทุบโต๊ะข่าว รายงานว่า ขบวนการของนางกัญญ์ณณัฎฐ์ เริ่มเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม จากการเล่นแอฟพลิเคชั่นหาคู่ แต่ใส่รูป น.ส.บี ลูกของตัวเองเล่น ทั้งที่ น.ส.บี อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ จากนั้น 3 มิถุนายน นางกัญญ์ณณัฎฐ์ ก็จะพา น.ส.บี ไปเจอนายตั้ม (นามสมมุติ) ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง เพื่อให้นายตั้มหลับนอนกับ น.ส.บี จากนั้นนางกัญญ์ณณัฎฐ์ ที่แต่งตัวด้วยชุดข้าราชการ และอ้างตัวเป็นครู จะบุกเข้ามาในห้องพร้อมนางยิ่งลักษณ์ ผู้ร่วมขบวนการ เข้ามาโวยวายว่าสามีของตนเป็นนายตำรวจยศพันตำรวจโท เป็นรอง ผกก.สังกัด สภ.น้ำโสม สามีของตนไม่พอใจที่นายตั้มแอบมาหลับนอนกับ น.ส.บี และข่มขู่เรียกเงิน 300,000 บาท เป็นค่าเสียหาย ถ้าจ่ายแล้วจะไม่เอาความ ด้วยความกลัว นายตั้มจึงยอมเจรจา และลดเงินลงมาเหลือ 250,000 บาท นายตั้มยอมจ่ายเงินก้อนแรก 50,000 บาท และจะกลับมาหมั้นกับ น.ส.บี พร้อมสินสอดและเงินอีก 200,000 บาท ทั้งนี้ พบว่า นางกัญญ์ณณัฎฐ์ ก่อเหตุในลักษณะนี้ ตั้งแต่ที่ น.ส.บี อายุเพียง 15 ปี จนตอนนี้อายุ 19 ปี หลังเกิดเหตุ นายตั้มทราบว่า ตนไม่ใช่คนแรกที่โดนแบบนี้ หากแต่มีคนโดนมาแล้ว 6 คน ในพื้นที่ จ.อุดรธานี จ.ขอนแก่น จ.สกลนคร จ.หนองบัวลำภู และถูกกรรโชกทรัพย์ตั้งแต่ 50,000-500,000 บาท นางกัญญ์ณณัฎฐ์ ก็มีคดีติดตัว ทำผิดมา 11 ครั้ง เปลี่ยนชื่ออีก 10 ครั้ง และทำเรื่องนี้เป็นขบวนการ นอกจากนี้ ทีมข่าวอมรินทร์ ยังได้พบกับพ่อของเหยื่อรายหนึ่ง ซึ่งเผยว่า เมื่อ 2 ปีก่อน ลูกชายของตนเองเล่นแอปฯ หาคู่ และเจอกับ น.ส.บี เมื่อคุยกันได้สักพัก ก็ไปหลับนอนกัน และ นางกัญญ์ณณัฎฐ์ พร้อม นางยิ่งลักษณ์ ก็จะบุกเข้ามาในห้อง โดยนางกัญญ์ณณัฎฐ์ จะแต่งตัวด้วยชุดข้าราชการ อ้างตัวเป็นครู และพร้อมเอาเรื่องลูกของตนให้ติดคุก พร้อมขู่เอาเงินกว่า 1 แสนบาท ตนจึงเอาทองไปขาย และหยิบยืมเงินมาได้อีก 80,000 บาท และเอาไปให้ ตนไม่อยากให้ลูกเสียประวัติจึงยอมจ่ายไป อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

ปิดตำนาน เพลินวาน หัวหิน เจ้าของที่ประกาศเลิกกิจการ ม.ค. 63 ไปต่อไม่ไหวแล้ว

ตลาดเพลินวาน หัวหิน ร่อนจดหมายประกาศเลิกกิจการ สิ้นเดือนมกราคม 2563 ยอมรับประสบปัญหาเศรษฐกิจและขาดทุน ยินดียกเว้นค่าเช่าให้ร้านค้าตลอดเดือนมกราคม เป็นการขอบคุณ วันที่ 24 ธันวาคม 2562 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 รายงานว่า โลกออนไลน์มีการแชร์ภาพหนังสือประกาศปิดกิจการ เพลินวาน หัวหิน สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยระบุสาเหตุของการปิดกิจการสืบเนื่องจากประสบปัญหาทางด้านเศรษฐกิจและภาวะขาดทุน จึงจำเป็นต้องปิดกิจการสิ้นเดือนมกราคม 2563 โดยในจดหมายที่แจ้งกับผู้เช่า ทางเจ้าของที่เพลินวาน บอกว่า เหตุที่ต้องปิดตลาด เนื่องมาจากประสบภาวะขาดทุน โดยทางตลาดจะเว้นค่าเช่าให้ในเดือนมกราคม 2563 แต่เจ้าของร้านยังต้องจ่ายเงินค่าน้ำ-ค่าไฟเอง จากนั้น จะต้องย้ายออกภายในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2563 หากไม่ย้ายออกจะถือว่าท่านยินยอมให้กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินตกเป็นของบริษัท สำหรับ เพลินวาน หัวหิน เป็นสถานที่จุดเช็กอินชื่อดังของนักท่องเที่ยว ที่มีการจำลองเอาร้านค้าต่าง ๆ ตกแต่งในสไตล์ย้อนยุค โดยเปิดกิจการมาตั้งแต่ปี 2552 รวมระยะเวลา 10 ปี อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

กองสลาก เตรียมทดลองออกหวยออนไลน์ต้นปี 63 พร้อมศึกษาผลดีผลเสีย

กองสลาก เตรียมเสนอบอร์ด ขอเปิดให้ประชาชนทดลองเล่น หวยออนไลน์ ผ่านเว็บ-แอปฯ เพื่อศึกษาผลดีผลเสีย ก่อนสรุปผลการศึกษานำไปสู่การออกสลากออนไลน์ในอนาคต นายพชร อนันตศิลป์ ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า คณะกรรมการศึกษาการออกผลิตภัณฑ์ใหม่จะพิจารณาแนวทาง เปิดให้ประชาชนทดลองซื้อ เล่นเกมสลากออนไลน์รูปแบบใหม่ผ่านเว็บไซต์ ภายในไตรมาส 1 ปี 2563 โดยการออกสลากทดลองจะมีทั้ง สลาก 6 ตัว สลาก 4 ตัว เลขท้าย 3 ตัว เลข 2 ตัว รวมถึงผลิตภัณฑ์ สลาก 12 นักษัตร โดยจะมีการสรุปอีกครั้งภายใน 1-2 เดือนนี้ "หากคณะกรรมการเห็นชอบ จะเปิดให้ทดลองเล่นเกมสลากออนไลน์บนเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชั่นไประยะหนึ่ง เพื่อเป็นการทดลองระบบ และดูข้อดีข้อเสีย ผลกระทบกับสังคม และผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้คณะทำงานไปรวบรวมข้อสรุปทั้งหมดก่อนตัดสินใจว่าจะเดินหน้าขายจริงสลากออนไลน์ต่อไปหรือไม่ รวมทั้งศึกษารูปแบบเกมการเล่น การจ่ายเงินรางวัล การจูงใจ เงื่อนไขสลากต่างๆ เพื่อไม่ให้มีผลกระทบ หรือให้ภาคสังคมเข้าใจคลาดเคลื่อนด้วย"นายพชร กล่าว ขอขอบคุณ ข้อมูล : https://www.sanook.com/news/7989086/

ผวาอีก! คนไทย 56% มีเงินใช้ไม่ถึง 6 เดือน ถ้าตกงาน ซ้ำร้ายโยกเงินออมใช้เกลี้ยงไม่รู้ตัว

โกแบร์ บริษัทด้านประกันภัยและการลงทุน ที่มีฐานดำเนินงานในสิงคโปร์ เผยดัชนีสุขภาพการเงินของคนไทยในปี 2562 ว่า คนไทยถึง 56% มีเงินใช้ไม่ถึง 6 เดือน ถ้าหากต้องตกงาน โดยระบุรายละเอียดดังนี้ ระยะเวลาที่มีเงินใช้ขณะตกงาน สัดส่วน (%) ไม่แน่ใจ 6 น้อยกว่า 1 สัปดาห์ 6 1 สัปดาห์-1 เดือน 9 1-3 เดือน 18 3-6 เดือน 17 รวม 56 ส่วนกลุ่มที่มีเงินใช้ตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป ถ้าต้องตกงาน มีอยู่ถึง 44% หรือเรียกได้ว่ากลุ่มคนที่สถานะทางการเงินในช่วงตกงานไม่น่ากังวลเมื่อเทียบกับกลุ่มคนที่น่ากังวล มีอยู่เกือบครึ่งต่อครึ่งเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม โกแบร์ ยังระบุอีกว่า คนไทยจำนวนมาก ที่รายจ่ายมากกว่ารายได้ ยังไม่รู้สึกกังวลต่อสถานะทางการเงินของตัวเองในแต่ละเดือน เพราะคนจำนวนนี้มักดึงเงินเก็บของตัวเองมาใช้ และปลอบใจตัวเองว่าเดี๋ยวค่อยหาใหม่ จนกระทั่งมารู้ตัวเมื่อต้องใช้เงินก้อนเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน อย่างเช่น การรักษาพยาบาล หรือเมื่อตกงาน แต่ก็สายไปเสียแล้ว เพราะพบว่าไม่มีเงินเหลืออยู่อีกเลย ข้อมูลดังกล่าวของ โกแบร์ ยังสอดคล้องกับข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย ที่เผยแพร่เมื่อไม่นานมานี้ว่า บัญชีธนาคารของผู้ฝากเงินในประเทศไทยถึง 4.7 ล้านบัญชี มีเงินฝากในแต่ละบัญชีไม่ถึง 50 บาท สะท้อนว่า คนไทยจำนวนไม่น้อย มีรายจ่ายจนแทบไม่เหลือเงินสำหรับเก็บออมเลย >> คนไทยเกือบ 5 ล้านคนมีเงินในบัญชีเงินออมเพียง 50 บาท แนะ 5 วิธีรักษาวินัยการเงิน บริษัทด้านการเงินรายนี้ แนะนำว่า การเก็บเงินให้อยู่นั้น สามารถทำได้ด้วยวิธีการ 5 ข้อดังต่อไปนี้ เก็บเงิน 5-10% ไปเก็บในบัญชีธนาคารบัญชีหนึ่ง แยกไว้ต่างหาก เคลียร์รายจ่ายที่จำเป็น อย่างเช่น ค่าไฟ ค่าน้ำ ค่าโทรศัพท์-อินเทอร์เน็ต ค่าเช่าที่พักอาศัย นำเงินที่เหลือ มาแบ่งใช้เป็นสัปดาห์ ศึกษาโปรโมชั่นและข้อเสนอ (ดีล) ของสินค้าและบริการต่างๆ ที่ใช้จ่ายบ่อยครั้ง เพื่อจ่ายเงินให้น้อยลง คิดก่อนซื้อ ด้วยการเปรียบเทียบราคาและความคุ้มค่าของสินค้าและบริการ ขอขอบคุณ ภาพ : Getty Images/ Paula Bronstein

สาววอนช่วยซื้อนมข้น 3หมื่นกระป๋อง ต้องรับผิดชอบหลังรถบรรทุกพลิกคว่ำ

สังคมออนไลน์ แชร์ภาพกระป๋องนมข้นหวานจำนวนมาก หลังมีผู้ประกาศขายในราคาทุน พร้อมวิงวอนให้คนสนใจช่วยซื้อ ทีมข่าว Sanook! News ติดต่อสอบถามไปยังสมาชิกเฟซบุ๊ก "ขวัญชนก วิโย" ซึ่งเป็นผู้โพสต์เรื่องราวดังกล่าวเปิดเผยว่า ครอบครัวของตนรับจ้างขนส่งสินค้า และได้รับการว่าจ้างให้บรรทุกนมข้นหวานจำนวน 700 ลัง (33,600กระป๋อง) เพื่อนำไปส่ง สปป.ลาว แต่โชคร้ายที่ขณะเดินทาง ลูกน้องของพ่อซึ่งเป็นคนขับ เกิดอาการหลับใน ทำให้รถบรรทุกคว่ำในพื้นที่อำเภอหนองสองห้อง จังหวัดขอนแก่น ส่วนนมข้นหวานถูกแรงกระแทกลังกระดาษขาด บรรจุภัณฑ์ไม่สวยงาม และไม่สามารถนำไปส่งต่อได้ ประกอบกับไม่ได้ทำประกันสินค้าเอาไว้ ครอบครัวตนจึงต้องรับผิดชอบนมข้นหวานที่เหลือประมาณ 384 ลัง หรือคิดเป็น 29,952 กระป๋อง ก่อนขนกลับมาไว้ที่บ้านพัก ในพื้นที่ อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ สินค้าทั้งหมดเพิ่งผลิต และจะหมดอายุในช่วงสิ้นปี 2563 ส่วนใหญ่ตัวกระป๋องนมข้น แทบไม่มีตำหนิ หรือร่อยรอยบุบแต่อย่างใด จึงประกาศให้ผู้ที่สนใจช่วยซื้อนมข้นหวานจำนวนดังกล่าว เพราะครอบครัวตนนำมาขายในราคาทุน เบื้องต้นพบว่ามีประชาชนในพื้นที่เข้าไปช่วยซื้อแล้วจำนวนหนึ่ง แต่ยังคงเหลือสินค้าอีกจำนวนมาก ขอขอบคุณ ข้อมูล : https://www.sanook.com/news/7989278/

อุทาหรณ์คนใจอ่อน เพื่อนอยากได้รถขับ ยอมเซ็นค้ำประกันให้ ใช้หนี้แทนจนโดนยึดทรัพย์

หนุ่มโพสต์อุทาหรณ์ อย่าไว้ใจใครง่าย ๆ หลังเซ็นค้ำประกันให้เพื่อนซื้อรถ เพราะความสงสาร สุดท้ายโดนเพื่อนหักหลังชิ่งหนีจนตัวเองต้องโดนยึดทรัพย์ เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2562 มีรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊ก นายสะอาด เนาวะราช ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความเตือนเป็นอุทาหรณ์เกี่ยวกับการค้ำประกัน ว่าอย่าไว้ใจใครง่าย ๆ เพียงเพราะรู้จักกัน เพราะอาจจะเดือดร้อนถึงขั้นโดนยึดทรัพย์เหมือนอย่างที่เจ้าตัวเจอมา โดยผู้โพสต์เล่าว่า ประกาศไปยังเพื่อน ๆ ในสังคมออนไลน์ ใครทราบชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ของคุณถนอม บุญจิตร หรือเขียด บ้านโคกสำราญ อ.เลิงนกทา ขณะนี้หายตัวไปหลายปีแล้วติดต่อไม่ได้ เนื่องจากซื้อรถแล้วให้ตนค้ำประกันให้แล้วพารถหนี ไม่จ่ายงวดมาตั้งแต่ปี 2555 ซึ่งกรมบังคับคดีสั่งยึดทรัพย์ของผู้ค้ำคือตนเอง ทั้งนี้ เจ้าของโพสต์ยืนยันว่าตนเดือดร้อนกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างมาก และได้โพสต์ภาพหมายจากกรมบังคับคดี ที่จะมายึดทรัพย์ในที่ดินที่ใช้ปลูกยางพารา จึงอยากจะเตือนเรื่องนี้ให้เป็นอุทาหรณ์ และวอนให้เจ้าของรถกลับมาใช้คืนรถต่อไป ขอขอบคุณ ข้อมูล : https://hilight.kapook.com/view/197685

รวบชายโพสต์ขายนกกวัก สัตว์ป่าคุ้มครอง 2,500 บาทผ่านเฟซบุ๊ก อ้างไม่รู้ผิดกฎหมาย

รวบชายโพสต์ขายนกกวัก สัตว์ป่าคุ้มครอง 2,500 บาทผ่านเฟซบุ๊ก เจ้าตัวอ้างไม่รู้ว่าผิดกฎหมาย ทำให้โดนตั้งข้อหา 3 กระทง วันที่ 21 ธันวาคม 2562 อมรินทร์ ทีวี รายงานว่า เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษที่ 5 และ 6 พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมจับกุมนายขาวผ่อง เนาวนิต วัย 34 ปี พร้อมของกลางคือ นกกวัก หรือนกไก่นา ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองลำดับที่ 29 จำนวน 2 ตัว, กรงนก 1 กรง และเพนียดดักนก 1 หลัง สำหรับสาเหตุการจับกุมตัวนั้น มาจากเจ้าหน้าที่สนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 2 (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ตรวจพบการขายเพนียดดักนกและขายต่อต่อ รวมถึงมีการโพสต์คลิปวิดีโอด้วย จึงได้สืบค้นหาจนรู้ตัวว่าเป็นใคร แล้วเข้าจับกุม ด้านนายขาวผ่อง ให้การว่า นกดังกล่าวเป็นนกตัวผู้ ขายตัวละ 1,500 บาท ตัวเมียขาย 2,500 บาท แต่ไม่คิดว่าการโพสต์ขายดังกล่าวจะเป็นความผิด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครอง และค้าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่งไฮ จ.บึงกาฬ ต่อไป อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก , https://hilight.kapook.com/view/197736

แก้ปัญหาประชาชนถูกหลอก ทุกศาลทั่วประเทศ เผยแพร่อัตราหลักทรัพย์ประกันตัว

เลขาฯศาลยุติธรรม เผย ต้นปี ทุกศาลทั่วประเทศ พร้อมเผยแพร่อัตราหลักทรัพย์ประกันตัว ตามนโยบาย ปธ.ศาลฎีกา ขณะที่ช่วยป้องกัน ปชช. ถูกมิจฉาชีพหลอก นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม เปิดเผยถึงการดำเนินการติดประกาศข้อมูลหลักเกณฑ์ของมูลค่าหลักทรัพย์การประกันตัวผู้ต้องหา/จำเลยคดีต่างๆ บริเวณป้ายบอร์ดศาลทั่วประเทศ และเว็บไซต์ศาล รวมทั้งช่องทางอื่นประชาสัมพันธ์อื่น เพื่อให้ผู้ที่ต้องมีคดีขึ้นศาลได้เห็นชัดเจน ตามที่นายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ ประธานศาลฎีกา มีดำริไว้ในการแถลงนโยบายบริหารศาลยุติธรรมเมื่อเข้ารับตำแหน่งเดือน ต.ค.ที่ผ่านมาว่า เรื่องการติดประกาศอัตราการวางหลักทรัพย์ประกันตัว “สำนักงานศาลยุติธรรม” ได้ติดตามผลปฏิบัติตามนโยบายของประธานศาลฎีกาไปยังทุกศาลทั่วไปประเทศแล้วพบว่าขณะที่มีศาลที่ดำเนินการเผยแพร่บัญชีเกณฑ์มาตรฐานกลางหลักประกัน พร้อมจัดทำบอร์ดประชาสัมพันธ์เสร็จสิ้นแล้ว 226 ศาล จากศาลทั่วประเทศ 241 ศาล คิดเป็น 93.77% ระหว่างนี้จึงเหลือศาลที่อยู่ระหว่างดำเนินการจำนวนไม่มากซึ่งได้กำชับไปว่าดำเนินการให้เป็นไปตามนโยบายให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 20 ธ.ค.นี้ ซึ่งหากศาลใดมีปัญหาข้อขัดข้องเกี่ยวกับเรื่องงบประมาณ สามารถแจ้งมายังสำนักงานศาลยุติธรรมได้ เราในฐานะหน่วยสนับสนุนการดำเนินการทั้งหมด ทั้งงานวิชาการและงานส่งเสริมตุลาการเป็นหน้าที่ของ “เรื่องนี้เป็นการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ และการอำนวยความสะดวกกับประชาชนที่มาติดต่อราชการกับศาล เพราะการที่จะเดินทางมาศาลจะได้มีการเตรียมหลักฐานเอกสารรวมถึงหลักทรัพย์ต่างๆให้เพียงพอเพื่อได้รับความสะดวกในการยื่นประกันตัว ในช่วงเดือน ม.ค.63 ทุกศาลทั่วประเทศจะต้องมีข้อมูลประกันตัวติดทุกศาลเพื่อประชาชนมาศาลต้องรู้ข้อมูล” ศาลมีการตรวจราชการเกี่ยวกับเรื่องการปฏิบัติตามนโยบายของประธานศาลฎีกา ซึ่งตนก็เดินทางไปโดยไม่ได้มีการแจ้งล่วงหน้าเป็นการตรวจโดยสภาพความจริง เราจะไปดูว่ามีการดำเนินการแล้วหรือไม่ หรือมีข้อขัดข้องที่จะแนะนำ หรือขอความช่วยเหลือจากสำนักงานศาลยุติธรรม อย่างไรหรือไม่ โดยที่ผ่านมาจากการลงพื้นที่ ก็พบว่าทุกศาลให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ทุกศาลมีความประสงค์ที่จะให้ประชาชนได้รับความสะดวกในการมาใช้บริการที่ศาล โดยที่ผ่านมา ศาลได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนผ่านจากเพจ “ V love COJ” ซึ่งเป็นระบบที่ข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับศาลยุติธรรม หรือเรื่องร้องเรียน ข้อเสนอแนะต่างๆจากประชาชน โดยประชาชนชื่นชมว่าการให้ข้อมูลข่าวสารของศาล ทำให้ประชาชนได้รับความสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น “ตรงนี้จะทำให้ประชาชนไม่ถูกหลอก เพราะเมื่อการเข้าถึงข้อมูลได้ ก็จะไม่ตกเป็นเหยื่อของผู้ประสงค์ไม่ดีนำข้อมูลที่ไม่จริงมาหลอกให้ประชาชนต้องสูญเสียเงินและทรัพย์สิน” ขอขอบคุณ ภาพ : AFP

ตร.ทำอินโฟกราฟิกแนะนำเส้นทางหลีกเลี่ยงช่วงรถติดปีใหม่63

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำ อินโฟกราฟิกแนะนำเส้นทางเลี่ยง-ทางเลือก การเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ 63 สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จัดทำ อินโฟกราฟิกแนะนำเส้นทางเลี่ยง – ทางเลือก รวบรวมแผนที่การเดินทางใน ภาคเหนือ, ภาคใต้, ภาคตะวันออก, ภาคอีสาน รวมทั้งเบอร์โทรฉุกเฉิน และข้อควรปฏิบัติในการเดินทาง พร้อมทั้งมาตรการ การเตือนภัยต่างๆให้กับประชาชน เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจรในการเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 โดยแนบรูปภาพ อินโฟกราฟิกที่เข้าใจง่าย ประชาชนสามารถดาวโหลดไฟล์ภาพที่มีความละเอียดสูงได้ที่ กองสารนิเทศ ขอขอบคุณ ข้อมูล : https://www.sanook.com/news/7988690/

โทรศัพท์รุ่นเก่าจะใช้งานไม่ได้ แบงก์ชาติยกมาตรฐานใหม่ "โมบายแบงก์กิ้ง"

แบงก์ชาติออกมาตรการป้องกันความปลอดภัยการใช้งานโมบายแบงก์กิ้ง ขอความร่วมมือธนาคารพาณิชย์เริ่มใช้จริง 1 พ.ค. 63 โดยผู้ใช้งานโมบายแบงก์กิ้ง ต้องใช้ระบบปฏิบัติการ Android 4 ขึ้นไป ขณะที่ IOS ต้องสูงกว่า IOS 8 ส่วนโทรศัพท์มือถือเจลเบรกไม่สามารถใช้งานได้ เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการถูกขโมยข้อมูล นางสิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า แนวนโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของการให้บริการทางการเงินและการชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ (mobile banking security) เพื่อหวังป้องกันความเสี่ยงจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ และเพื่อสร้างความมั่งคงและปลอดภัยให้กับระบบสถาบันการเงินและประชาชนผู้ใช้บริการ ซึ่งปัจจุบันมีผู้ใช้งาน 44 ล้านบัญชี ตามข้อมูล ณ เดือนธ.ค. และที่มียอดธุรกรรม mobile banking มากกว่า 2 พันล้านรายการในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา แนวทางในการรักษาความปลอดภัยครั้งนี้ ธปท. จะร่วมมือกับธนาครพาณิชย์ยกมาตรฐานขั้นต่ำ สำหรับฝั่งธนาคารที่จะไม่อนุญาตให้ใช้งานอุปกรณ์ที่ไม่ปลอดภัยเข้าใช้งานการเข้ารหัสไฟล์ข้อมูล รวมถึงการจำกัดการเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ (server) และยังต้องสร้างความเข้าใจให้กับลูกค้าในเชิงลึก เนื่องจากจะมีผู้บริโภคบางรายได้รับผลกระทบจากมาตรการนี้ โดยมาตรฐานดังกล่าวสำหรับประชาชนที่มีเครื่องมือสื่อสารที่มีการเจลเบรก (jailbreak) หรือการปรับเปลี่ยนหรือดัดแปลงโปรแกรม และผู้ใช้โทรศัพท์ในระบบปฏิบัติการรุ่นเก่า ได้แก่ ผู้ที่ใช้ระบบปฏิบัติการไอโอเอสตั้งแต่รุ่น 8.0 ลงไป และผู้ที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์รุ่น 4 ลงไป อย่างไรก็ตาม ธปท. ย้ำว่า จำนวนผู้ใช้งานที่เข้าเงื่อนไขดังกล่าวไม่ได้มีจำนวนมากและยังอยู่ในหลักหมื่นต้นๆ เท่านั้น ขณะที่ แนวทางในการช่วยเหลือประชาชนที่จะได้รับผลกระทบในครั้งนี้ คือ ธปท. จะเร่งให้ธนาคารพาณิชย์ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้กับประชาชน และจะจำกัดการเข้าถึงการใช้งานเป็นขั้นบันได ไม่ได้ยกเลิกการเข้าถึงทั้งหมด แต่จะเข้าถึงหรือใช้งานได้บางประเภทเท่านั้น สำหรับเกณฑ์ดังกล่าว ธปท. จะเริ่มมีการทดลองใช้เป็นระยะเวลา 4 เดือน ตั้งแต่เดือน ม.ค. 2563 ไปจนถึงเดือน เม.ย. 2563 ก่อนจะเริ่มปรับใช้จริงในวันที่ 1 พ.ค. 2563 นอกจากนี้ ธปท. ยังกล่าวถึง กรณีการผลักดันให้ประชาชนปรับเปลี่ยนบัตรเดบิตและบัตรเอทีเอ็มจากรูปแบบบัตรแถบแม่เหล็ก (magnetic card) ให้เป็นบัตรชิปการ์ด (chip card) ตามมาตรฐานสากล เพื่อยกระดับความปลอดภัยในการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งปัจจุบันยังมีประชาชนที่ถือบัตรแบบเก่าอยู่อีก 12 ล้านใบ และกระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพฯ มากที่สุด โดย ธปท. ย้ำให้ประชาชนมาเปลี่ยนบัตรที่ธนาคารพาณิชย์ผู้ออกบัตรภายใน 15 ม.ค. 2563 นี้ เพื่อประชาชนจะได้ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการเปลี่ยนบัตร ขอขอบคุณ ข้อมูล : https://www.sanook.com/news/7988466/

แม่เคืองหนัก ลูกสาวกลับบ้าน สภาพไร้ผมบนหัว เหตุครูไถออกเพราะมีเหา ไม่ถามกันซักคำ

แม่สุดช้ำ ลูกสาวกลับจากโรงเรียนสภาพถูกครูตัดผมจนหมดหัว บอกลูกมีเหา สุดเคืองวิธีแก้มีตั้งเยอะ ซ้ำตัดผมทิ้งไม่ถามความยินยอมซักคำ เป็นเรื่องที่คนมีลูกสาว ต่างยากที่จะรับได้ หลังวันที่ 20 ธันวาคม 2662 ผู้ใช้เฟซบุ๊กคนหนึ่ง เผยภาพลูกสาวของเธอ ถูกครูที่โรงเรียนแห่งหนึ่งทางภาคเหนือ ตัดผมลูกจนเกลี้ยงจากที่ไว้ยาว เหตุเพราะเด็กนั้นมีเหา แต่ก็ไม่ได้มีการแจ้งผู้ปกครองให้ยินยอม หรือหาวิธีแก้ไขที่ดีกว่านี้มาแต่อย่างใด ทั้งนี้ภายหลังภาพดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ได้มีผู้เข้ามาแสดงความไม่พอใจพฤติกรรมของครูจำนวนมาก มองว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ และทำให้เด็กอับอายที่ต้องไร้ผม พร้อมแนะนำให้เอาเรื่องถึงที่สุด ขณะที่ผู้ปกครองเผยว่า เตรียมจะเข้าไปคุยกับที่โรงเรียนในวันจันทร์นี้ (23 ธันวาคม) ขอขอบคุณ ข้อมูล : https://hilight.kapook.com/view/197727

สะเทือนใจ ด.ญ. 10 ขวบ ขอความช่วยเหลือ หลังโดนแม่ตียับ เหตุขโมยเงินซื้อขนม

เด็กหญิงวัย 10 ขวบ วิ่งมาขอความช่วยเหลือชาวบ้าน ย่านคลองหลวง หลังถูกแม่ตียับจนเป็นผื่นแดงเต็มตัว เหตุเพราะขโมยเงินแม่ 100 บาท ไปซื้อขนมกิน ล่าสุด ตำรวจเรียกแม่มาสอบปากคำแล้ว เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2562 เฟซบุ๊ก Ake Srisuwan นำเสนอข่าว เกี่ยวกับเด็กหญิงวัย 10 ขวบ คนหนึ่ง ถูกแม่แท้ ๆ ทำร้ายร่างกายเหตุเพราะขโมยเงินไปซื้อขนม โดยข้อมูลระบุว่า เจ้าหน้าที่ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งเหตุมีเด็กถูกตีเดินมาขอความช่วยเหลือจากประชาชนบริเวณร้านอาหารแห่งหนึ่ง ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จึงรุดตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบเด็กหญิงคนดังกล่าว สภาพตามตัวมีร่องรอยถูกตี เป็นผื่นแดง ๆ บริเวณแผ่นหลัง แขน และขาเต็มไปหมด เจ้าหน้าที่มูลนิธิจึงรีบนำส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลคลองหลวงแล้ว จากการสอบถาม น.ส.จันทรรัตน์ นวนแตง เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู เล่าว่า ตนได้รับแจ้งทางโทรศัพท์ ว่ามีเด็กถูกทำร้ายมาขอความช่วยเหลืออยู่ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง เมื่อไปถึงก็พบว่าเด็กถูกตีมา พอเปิดเสื้อดูด้านหลัง ก็รู้สึกตกใจมาก เหตุใดถึงถูกตีเยอะขนาดนี้ จึงสอบถามเด็กก็ทราบว่า ถูกแม่ตีเพราะตนเองขโมยเงินแม่ไป เป็นเหรียญ 10 จำนวน 8 เหรียญ และเหรียญ 5 จำนวน 4 เหรียญ เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังได้รับแจ้งจึงไปที่เกิดเหตุและพาเด็กไปที่บ้าน ก็พบกับแม่ของเด็กที่ตีลูกจึงได้เชิญตัวมาสอบปากคำที่ สภ.คลองหลวง ก่อน พร้อมประสานเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ปทุมธานี เข้ามาดูแลเด็กแล้ว และจะสอบปากคำเด็กอีกครั้งต่อหน้าสหวิชาชีพ ขอขอบคุณ ข้อมูล : https://hilight.kapook.com/view/197679

กรมสุขภาพจิต ชี้คนชอบบูลลี่ รังแกคนอื่นใน รร. โตขึ้นอาจเป็นอาชญากร-ใช้ความรุนแรง

กรมสุขภาพจิต เผยการกลั่นแกล้ง บูลลี่ รังแกในโรงเรียนไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ผลกระทบอาจโตขึ้นเป็นอาชญากร เรียนไม่จบ ใช้ความรุนแรง พร้อมแนะนำวิธีรับมือ วันที่ 19 ธันวาคม 2562 กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ได้มีการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการกลั่นแกล้ง รังแกในโรงเรียน (Bullying) ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น โดยมีการระบุรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นภาพประกอบว่ามีการกลั่นแกล้งกันในหลายรูปแบบ ทั้งการทำร้ายร่างกาย (ชกต่อย, ตบตี) ทางสังคมหรืออารมณ์ (แบ่งแยก, กดดัน) ทางวาจา (ดูถูก, เสียดสี) Cyberbullying (กลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์, โพสต์โจมตี, คุกคามทางเพศ) ผลกระทบผู้ที่กลั่นแกล้งผู้อื่น อาจจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ติดแอลกอฮอล์หรือสารเสพติด มีพฤติกรรมลักขโมย เรียนไม่จบ มีพฤติกรรมทางเพศก่อนวัยอันควร อาจจะเป็นอาชญากรในอนาคต มีพฤติกรรมใช้ความรุนแรงกับคนใกล้ตัว ขณะที่ผู้ที่ถูกกลั่นแกล้งจะมีภาวะซึมเศร้าที่อาจส่งผลไปถึงวัยผู้ใหญ่ รู้สึกโดดเดี่ยว และความวิตกกังวล มีปัญหาสุขภาพ ประสิทธิภาพทางการเรียนลดลง นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มที่จะออกจากโรงเรียนกลางคัน ทั้งนี้ สำหรับวิธีรับมือเมื่อถูกกลั่นแกล้ง รังแก ให้ตั้งสติก่อน เดินจากไปอย่างสงบไม่ใส่ใจ อย่าให้ผู้แกล้งรู้สึกสนุกจากการตอบสนอง พยายามอยู่ในที่ปลอดภัยมีเพื่อนที่เข้าใจ มั่นใจในตัวเอง ไม่ใช้กำลัง และให้พูดคุยปรึกษาผู้ใหญ่ ขอขอบคุณ ข้อมูล : https://health.kapook.com/view218567.html