ชลประทาน เผย อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 5 แห่งโคราชเริ่มวิกฤต เหลือน้ำไม่ถึงครึ่ง

        อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 5 แห่งโคราชเริ่มวิกฤต ลำตะคอง เหลือน้ำไม่ถึงครึ่ง สำนักชลประทานงดส่งน้ำให้ทำนาปรัง

        วันที่ 4 มกราคม 2563 สำนักข่าว INN รายงานว่า นายเกียรติศักดิ์ หนูแก้ว ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 8 นครราชสีมา เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 5 แห่ง ของ จ.นครราชสีมา ขณะนี้ภาพรวมมีปริมาณน้ำกักเก็บเหลืออยู่เพียง 332.56 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 33 ของความจุกักเก็บรวมทั้งหมด 1,006.90 ล้านลูกบาศก์เมตร เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วมีปริมาณน้ำเหลืออยู่ 582.44 ล้านลูกบาศก์เมตร ดังนั้นปีนี้ถือว่ามีปริมาณน้ำเหลือน้อยมาก


        โดยจากการรายงานปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้ง 5 แห่ง วันนี้ ได้แก่

        1. อ่างเก็บน้ำลำตะคอง อ.สีคิ้ว มีปริมาณน้ำกักเก็บเหลืออยู่ 153.82 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 44.91 ของความจุกักเก็บทั้งหมด 314.49 ล้านลูกบาศก์เมตร

        2. อ่างเก็บน้ำมูลบน อ.ครบุรี มีปริมาณน้ำเหลืออยู่ 48.90 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 34.68 ของความจุกักเก็บทั้งหมด 141 ล้านลูกบาศก์เมตร

        3. อ่างเก็บน้ำลำแชะ อ.ครบุรี มีปริมาณน้ำเหลืออยู่ 84.79 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 30.83 ของความจุกักเก็บทั้งหมด 275 ล้านลูกบาศก์เมตร

        4. อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย มีปริมาณน้ำเหลืออยู่ 22.21 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 14.33 ของความจุกักเก็บทั้งหมด 155 ล้านลูกบาศก์เมตร

        5. อ่างเก็บน้ำลำนางรอง อ.เสิงสาง มีปริมาณน้ำเหลืออยู่ 22.84 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 18.81 ของความจุกักเก็บทั้งหมด 121.41 ล้านลูกบาศก์เมตร

        ซึ่งปีนี้ถือว่ามีปริมาณน้ำในเขื่อนหลักของ จ.นครราชสีมา น้อยกว่าหลายปีที่ผ่านมา ส่งผลให้การบริการจัดการน้ำต้องมีมาตรการควบคุมการใช้น้ำอย่างประหยัดที่สุด โดยเฉพาะน้ำเพื่อการเกษตร ทำนาปรัง ปีนี้จะไม่มีการส่งน้ำให้ทำนาปรังเด็ดขาด ซึ่งจะเน้นเก็บน้ำเพื่อใช้อุปโภคบริโภคช่วงหน้าแล้งเป็นหลัก จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนงดทำนาปรัง เพราะจะมีความเสี่ยงที่ข้าวจะแห้งตายได้รับความเสียหายในอนาคตได้

 

สำนักข่าว INN, https://hilight.kapook.com/view/198260

กรมอนามัยเตือน โรตีดิบ กินไม่ได้ อันตรายหนัก เสี่ยงท้องร่วง อย่าทำตามโซเชียล

       กรมอนามัยออกโรงเตือน กินโรตีดิบ อันตราย หลังเด็ก ๆ แห่ตามกระแสในโซเชียล กินโรตีสด ชี้มีเชื้อแบคทีเรีย ทำให้ท้องร่วง อาหารเป็นพิษ

       เกิดกระแสเทรนด์ฮิตที่เป็นอันตรายและน่าเป็นกังวล เมื่อเด็ก ๆ รุ่นใหม่จำนวนหลายคน พากันแห่เลียนแบบทำตามคลิปในแอปพลิเคชันดัง กินโรดีสด หรือแป้งโรตีดิบ ที่ยังไม่ผ่านความร้อน


       ด้านแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพต่างพากันออกมาเตือน ถึงอันตรายของการกินโรตีดิบ ล่าสุด (3 มกราคม 2562) ทางกรมอนามัย ได้ประกาศคำเตือน ห้ามกินโรตีดิบ เนื่องจาก แป้งโรตีดิบนั้น ทำจากแป้งอเนกประสงค์ ผสมเนย ไข่ไก่ดิบ ย่อยยาก ทำให้ท้องอืด ท้องเฟ้อ อีกทั้งการกินอาหารดิบโดยไม่ผ่านความร้อน อาจมีเชื้อแบคทีเรียที่เป็นอันตราย ทำให้อุจจาระร่วง และอาหารเป็นพิษ

       ด้วยเหตุนี้ ผู้ที่ขายโรตีไม่ควรขายโรตีดิบให้แก่เด็ก ๆ นอกจากนี้ ทางผู้ปกครองควรจะเฝ้าระวังและเตือนไม่ให้บุตรหลานกินโรตีดิบ เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพ

 

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

multimedia.anamai.moph.go.th

กรมควบคุมโรค พร้อมรับทุกสนามบิน เฝ้าระวังปอดอักเสบ หลังเกิดโรคระบาดปริศนาในจีน

          กรมควบคุมโรค เฝ้าระวังอย่างเข้มข้น หลังเกิดโรคระบาดปริศนาในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน แนะหลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด หรือมลภาวะที่เป็นพิษ

          จากกรณีพบโรคปริศนาแพร่ระบาดในเมืองอู่ฮั่นของจีน มีผู้ป่วยกว่า 27 ราย ส่วนใหญ่เป็นพ่อค้าแม่ค้าจากตลาดปลาในเมือง ซึ่งขายสัตว์ปีกและสัตว์ป่าหลายชนิด โดยองค์การอนามัยโลกได้ติดต่อจีน เร่งตรวจหาสาเหตุ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเชื้อดังกล่าวอาจจะมีสัตว์เป็นพาหะแพร่เชื้อนั้น


อ่านข่าว : โรคปริศนาแพร่ระบาดในจีน ติดเชื้อแล้ว 27 ราย หวั่นโรคซาร์ส กลับมาอีกครั้ง

          ล่าสุด (4 มกราคม 2562) เว็บไซต์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานว่า กรมควบคุมโรค ได้ติดตามสถานการณ์ของโรคปอดอักเสบทั้งในประเทศ และต่างประเทศ อย่างใกล้ชิด พร้อมมอบหมายให้หน่วยงานในสังกัด ดำเนินมาตรการเฝ้าระวังป้องกันโรคปอดอักเสบอย่างเข้มข้นทุกช่องทางเข้า-ออกประเทศ โดยแนะนำให้หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด หรือมลภาวะที่เป็นพิษ หากมีไข้สูง, ไอมีเสมหะ หรือเหนื่อยหอบง่าย ควรรีบพบแพทย์ทันที

          ด้าน นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานข่าวในประเทศจีนว่า พบผู้ป่วยโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสจำนวน 44 ราย จากเมืองอู่ฮั่น และยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตนั้น จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นพบว่า ทางการจีนได้ดำเนินการตรวจสอบที่มาของโรค ซึ่งขณะนี้ ยังไม่ทราบสาเหตุก่อโรค แต่เบื้องต้นพบว่า ไม่ใช่เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่, ไข้หวัดนก, อะดิโนไวรัส หรือโรคทางเดินหายใจที่พบได้ทั่วไป

          ทั้งนี้ กรมควบคุมโรค ได้มอบหมายให้ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ทำการเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น โดยการคัดกรองอาการไข้ และอาการที่เกี่ยวข้องกับทางเดินหายใจในผู้ที่เดินทางจากเมืองอู่ฮั่น เข้ามาในประเทศไทย ซึ่งมีหลายสายการบิน และสนามบินที่เตรียมรับ ได้แก่ สุวรรณภูมิ, ดอนเมือง, เชียงใหม่ และภูเก็ต

          สำหรับประเทศไทย ได้มีการประกาศให้โรคซาร์ส (SARS) เป็นโรคติดต่ออันตราย ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ซึ่งต้องมีการรายงานผู้ป่วยที่สงสัย ทำการแยกกัก โดยมีการเตรียมความพร้อมทางห้องปฏิบัติการ และทีมสอบสวนโรคติดต่ออันตราย ซึ่งมีในทุกจังหวัด และในส่วนกลางอีก 8 ทีม

          อย่างไรก็ตาม โรคซาร์ส (Severe Acute Respiratory Syndrome: SARS) หรือโรคทางระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันร้ายแรง มีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัสในตระกูลโคโรนาไวรัส (Coronavirus) เดิมพบการติดเชื้อนี้ได้เฉพาะในสัตว์ที่มีขนาดเล็ก แต่ต่อมามีการกลายพันธุ์ เกิดการติดเชื้อในมนุษย์ขึ้น และแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว

          โดยในช่วงแรกผู้ที่ติดเชื้อจะมีอาการคล้ายกับไข้หวัดใหญ่ เช่น มีไข้สูงกว่า 38 องศาเซลเซียส หรือมีอาการติดเชื้อที่ปอดและทางเดินหายใจ เช่น ไอแห้ง หรือหายใจลำบาก เป็นต้น โดยสถานการณ์ของโรคซาร์ส (SARS) ในประเทศไทย พบว่า ไม่เคยมีรายงานผู้ป่วยยืนยันโรคซาร์สภายในประเทศ ยกเว้นเจ้าหน้าที่องค์การอนามัยโลกที่ป่วยด้วยโรคซาร์ส และเดินทางเข้ามารับการรักษาที่ประเทศไทย โดยไม่มีการติดเชื้อรายใหม่เพิ่มเติม สำหรับประเทศจีน เคยมีโรคซาร์สระบาดเมื่อปี 2546 ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 349 ราย


          นอกจากนี้ นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อว่า คำแนะนำสำหรับผู้ที่จะเดินทางจากประเทศไทยไปยังประเทศที่มีรายงานผู้ติดเชื้อปอดอักเสบ เนื่องจากองค์การอนามัยโลกยังไม่มีประกาศห้ามการเดินทางไปยังพื้นที่ดังกล่าว ดังนั้น ผู้ที่จะเดินทางสามารถเดินทางไปได้ แต่ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำ ดังนี้

          - หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด หรือสถานที่ที่มีมลภาวะที่เป็นพิษ
          - ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น ผ้าเช็ดหน้า แก้วน้ำ ผ้าเช็ดตัว
          - รักษาร่างกายให้อบอุ่น อยู่เสมอ
          - สำหรับคนที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะเด็กเล็กและผู้สูงอายุ หากมีอาการเริ่มป่วย เช่น มีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก ขอให้รีบไปพบแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันที เนื่องจากมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนปอดบวมได้

          ทั้งนี้ ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

 

ขอขอบคุณ

ข้อมูล : https://hilight.kapook.com/view/198250

วิธีขายหวยง่ายๆด้วยโปรแกรมหวย

วิธีขายหวยง่ายๆด้วยโปรแกรมหวย

         ในยุคที่มีเทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการใช้ชีวิตประจำวันนั้น เราจำเป็นที่จะต้องรู้จักประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเข้ามาอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันของเรา โดยเฉพาะคนที่ไม่ค่อยมีเวลาเหลือสำหรับการใช้ชีวิตประจำวันอยู่แล้ว

         หากท่านได้นำโปรแกรมหวยมาช่วยประยุกต์ในการขายหวย ขอบอกเลยว่า ท่านจะมีเวลาเหลือเฟือมากมายเลยทีเดียว เพราะนอกจากจะช่วยให้ท่านสามารถบันทึกข้อมูลการซื้อหวยได้ถูกต้องรวดเร็วทันใจแล้ว ยังช่วยให้ท่านสามารถคัดหวย และจ่ายเงินให้กับคนที่ถูกรางวัลได้รวดเร็วมากๆอีกด้วย

         ท่านจึงแทบไม่ต้องใช้เวลาในการคัดหวยหรือตรวจสอบความถูกต้องในการจดบันทึกหวยเลย การใช้โปรแกรมเจ้ามือหวยจึงเป็นเครื่องทุ่นแรงที่มีประสิทธิภาพสูงมากๆที่จะช่วยให้ท่านประหยัดเวลาและมีเวลาเหลือไปทำธุรกิจอย่างอื่นที่ท่านอยากทำ ไม่ต้องเอาเวลามาหมกมุ่นกับการตรวจสอบความถูกต้องหรือหมกมุ่นกับการคัดหวยจนไม่เหลือเวลาทำมาหากินอื่นเลย

         เห็นหรือยังว่าการที่เรารู้จักเอาโปรแกรมหวยมาประยุกต์ใช้นั้นได้เปรียบกว่าการที่เราจดลงกระดาษมากขนาดไหน

         แล้วท่านยังอยากจะจดลงในกระดาษให้เสียเวลาและอาจก่อให้เกิดความผิดพลาดต่อไปหรือไม่

         ถ้าท่านไม่อยากให้ความผิดพลาดตรงนี้เกิดขึ้นได้อีกในอนาคต เพียงใช้วิธีการง่ายๆโดยการคีย์ลงในโปรแกรมคัดหวยแทนที่จะจดลงกระดาษ

         เราขอรับรองเลยว่าท่านจะไม่มีการทำงานผิดพลาดอีกแล้ว เพราะโปรแกรมนั้นจะช่วยคัดหวยได้รวดเร็ว แถมยังช่วยให้เรากรอกข้อมูลและแก้ไขข้อมูลได้อย่างง่ายดาย ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจึงแทบไม่มีหรือไม่มีเลยก็ได้ ไม่เหมือนกับการเขียนลงกระดาษที่อาจผิดได้ทุกงวด

 

สอบถามเพื่อเติมได้ที่

   - 0819967118

   - 0818917118

หรืออ่านรายละเอียดได้ที  https://www.richmantool.com

เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้าน ภายในกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ บางเขน

        เกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ เขตบางเขน พบเป็นบ้านเรือนประชาชน เจ้าหน้าที่ระดมฉีดน้ำ ขณะนี้ควบคุมเพลิงได้แล้ว

       วันที่ 2 มกราคม 2563 สวพ.FM91 รายงานว่า เวลา 18.54 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ เขตบางเขน เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางเขน ถึงที่เกิดเหตุ ระหว่างระดมฉีดน้ำควบคุม

       ต่อมาในเวลา 19.20 น. มีรายงานความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ภายในกรมทหารราบที่ 11 ว่า ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงจนสงบได้แล้ว ส่วนสาเหตุที่เกิดเพลิงไหม้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ

 

ขอขอบคุณ

ข้อมูล : https://hilight.kapook.com/view/198185

เด็กชายวัย 13 ติดยาบ้างอมแงม ลาออกจากโรงเรียนมาทำงานงกๆ หาเงินซื้อยาเสพ


         (9 ม.ค.63) เมื่อเวลา 08.00 น. นายสมพูล มีสุวรรณ ผู้ใหญ่บ้าน ม.1 บ้านทรายขาว ต.สองพี่สอง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร พร้อมด้วย ร.ท.พิชาญ ฤทธิสุนทร หัวหน้าชุดกิจการพลเรือน กองกำลังเทพสตรี ที่ 401 นำตัว นายเต้ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ด.ช.ตุ๊ก (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี และ ด.ช.เอฟ (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี มาสอบปากคำ ที่ตั้งฐานปฏิบัติการบ้านห้วยทรายขาว หลังตรวจปัสสาวะทั้งสาม พบเป็นสีม่วง

         นายสมพูล มีสุวรรณ ผู้ใหญ่บ้าน ม.1 เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ ตนพร้อมกำลังทหาร ได้ออกตั้งด่านตรวจตามหมู่บ้านเพื่อสกัดจับยาเสพติด เนื่องจากพื้นที่บ้านทรายขาว เป็นพื้นที่รอยต่อของ จ.ประจวบคีรีขันธ์ และมีกลุ่มค้ายาเสพติดใช้ถนนสายหมู่บ้านเพื่อหลบด่านตรวจของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้พื้นที่บ้านทรายขาว เป็นหน้าด่านที่กลุ่มยาเสพติดจะใช้ผ่านไปยังพื้นที่อื่นๆและยังเป็นพื้นที่พักยาเสพติดอีกด้วย จึงจำเป็นนำกำลังผู้นำท้องถิ่นและทหารออกตั้งด่านเพื่อกวาดล้างให้ยาเสพติดได้ลดและหมดไปจากหมู่บ้าน

         นายสมพูล มีสุวรรณ ผู้ใหญ่บ้าน ม.1 กล่าวว่า ซึ่งจากการตั้งด่าน เจ้าหน้าที่สามารถจับกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดรายย่อยได้จำนวนมาก และสามารถจับกุมผู้เสพได้หลายรายจำนวนมากเช่นกัน และล่าสุดเมื่อวานที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้นำกำลังไปตรวจค้นยาเสพติดเป้าหมายที่บ้านหลังหนึ่งใน เขตพื้นที่ ม. 1 บ้านทรายขาว ต.สองพี่น้อง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร สามารถจับผู้ค้าพร้อมยาเสพติด เป็นยาบ้า จำนวนกว่า 200 เม็ด และน่าตกใจขณะที่เข้าตรวจค้น เจ้าหน้าที่ได้พบ ด.ช.ตุ๊ก และ ด.ช.เอฟ อยู่ในบ้านหลังด้งกล่าวด้วย จึงได้นำตัวมาตรวจปัสสาวะ ซึ่งก็พบว่า ทั้งสองฉี่เป็นสีม่วง

         นายสมพูล มีสุวรรณ ผู้ใหญ่บ้าน ม.1  กล่าวต่อว่า จากการสอบปากคำ ทั้งคู่ให้การรับสารภาพว่า เสพยาบ้าจริง โดยเฉพาะ ด.ช.ตุ๊ก สารภาพว่า เสพยาบ้า มาตั้งแต่ อายุ 9 ปี ขณะที่กำลังเรียนอยู่ชั้น ป.4 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในหมู่บ้าน โดย ด.ช.ตุ๊ก เล่าว่า ยาบ้าที่เสพครั้งแรกได้มาจากน้องชายพ่อ ที่ให้ ด.ช.ตุ๊ก ได้ลองเสพ และหลังจากนั้น ด.ช.ตุ๊ก ก็เริ่มติดยา จนต้องออกจากโรงเรียนกลางคัน ขณะเรียน ป.5 และได้ออกมารับจ้างเก็บขี้ยางตามสวนยางของชาวบ้าน เงินที่ได้จากค่าแรงวันละ 300-500 บาท ก็นำมาซื้อยาบ้าจากน้องชายพ่อ จนกระทั่งขณะนี้ ด.ช.ตุ๊ก มีอายุ 13 ปี ซึ่งก็เสพยาเสพติดมานานกว่า 4 ปี และมาถูกจับพร้อม ด.ช.เอฟ ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมก๊วนยาที่เสพมากว่า 2 ปีในที่สุด

         นายสมพูล มีสุวรรณ ผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ยังกล่าวอีกว่า ส่วน นายเต้ อายุ 16 ปี ติดยาเสพติดอย่างหนัก เพราะเสพยาเสพติดหลายชนิด ไม่ว่า ยาบ้า ไอซ์ และกัญชา มาตั้งแต่ อายุ 13 ปี เรียนอยู่ในโรงเรียนในหมู่บ้านเช่นกัน เป็นลูกชายคนของครอบครัว จึงถูกตามใจมาก จนมีพฤติกรรมก้าวร้าว และยังเคยใช้ขวดปากฉลาม ข่มขู่ขอเงินจากผู้ปกครอง จนทางผู้ปกครองทนไม่ไหว จึงแจ้งให้ทางตน ไปรับตัวมาควบคุมเพื่อบำบัดพร้อมผู้เสพรายอื่นที่ฐานแห่งนี้ต่อไป

 

ขอขอบคุณ

ข้อมูล : https://www.sanook.com/news/8005022/

เจ้าหน้าที่สนามบินฝรั่งเศสผงะ! เจอศพเด็ก 10 ขวบ แข็งตายใต้ท้องเครื่อง

         เจ้าหน้าที่สนามบินชาร์ลส เดอ โกล นอกกรุงปารีสของฝรั่งเศส เผยว่า พบร่างไร้ชีวิตของเด็กอายุ 10 ขวบ ที่แอบขึ้นเครื่องบิน อยู่ที่ใต้ท้องเครื่องของเครื่องบินรุ่นโบอิง 777 ของสายการบินแอร์ฟรานซ์ ที่บินมาจากนครอาบิจาน เมืองหลวงเก่าของประเทศโกตดิวัวร์ ทางตะวันตกของทวีปแอฟริกา
         เครื่องบินลำดังกล่าวออกเดินทางมาในตอนเย็นวันอังคาร (7 ม.ค.) และมาถึงสนามบินชาร์ลส เดอ โกล เมื่อเช้าวันพุธ (8 ม.ค.)
         แหล่งข่าวรายหนึ่งที่ใกล้ชิดกับการสอบสวนเรื่องนี้ เผยกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า เด็กชายคนนี้น่าจะหนาวจนแข็งตาย ไม่ก็ขาดอากาศหายใจ เพราะระหว่างที่เครื่องบินลอยอยู่บนฟ้าที่ความสูง 9,000-10,000 เมตรเหนือพื้นดิน อุณหภูมิติดลบถึง -50 องศาเซลเซียส และอากาศก็เบาบางมากด้วย ซึ่งใต้ท้องเครื่องไม่มีการติดเครื่องทำความร้อนหรือเครื่องปรับความดันอากาศ
         ตลอดหลายปีที่ผ่านมา พบว่ามีเยาวชนหลายคนเสียชีวิตขณะลักลอบขึ้นเครื่องบินจากแอฟริกามายังทวีปยุโรป อย่างเช่นเมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา มีชายคนหนึ่งเสียชีวิตบนเครื่องบินสายการบินเคนยันแอร์เวย์ส ที่เดินทางมายังกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร
         ย้อนกลับไปเมื่อเดือน เม.ย. 2556 ก็เคยพบร่างของเด็กชายคนหนึ่งใต้ท้องเครื่องบินที่บินมาจากประเทศแคเมอรูน
 

แนะนำโปรแกรมคัดหวย คำนวณหวย ตรวจผลรางวัล สรุปรายรับรายจ่ายได้ทันที

แนะนำโปรแกรมคัดหวย ช่วยให้ซื้อขายไม่ยาก

         เจ้ามือหวยหลายคนวุ่นวายกับการขายหวย ทำให้เสียเวลากับการใช้ชีวิตประจำวันไปเยอะมาก เพราะการขายหวยนั้นต้องบอกตามตรงว่าไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ใช่ว่าทุกคนสามารถทำได้ จะต้องมีการวางแผนเอาไว้ให้ดีว่าจะรองรับคนที่เข้ามาซื้อหวยอย่างไร แต่ละคนก็อาจจะซื้อหวยเป็นสิบๆตัว จนสร้างความวุ่นวายสับสนให้กับเจ้ามือหวยได้ไม่น้อยเลย ยิ่งเจ้ามือหวยที่ไม่ได้มีการวางแผนจัดระบบเอาไว้ให้ดี แน่นอนว่าอาจจะคิดเงินผิดพลาดขาดทุนได้ง่ายมากๆ

         การเป็นเจ้ามือหวยนั้นจึงไม่ได้ง่ายๆ ไม่ใช่ว่าใครๆก็สามารถมาเป็นเจ้ามือหวยได้หมด คนที่อยากจะเป็นเจ้ามือหวยจะต้องมีการวางแผนการขายหวยดีๆ มีการจัดแบบแผนและการจดบันทึกที่จะช่วยให้สามารถที่จะตรวจสอบได้ง่ายว่าใครถูกหวยหรือใครไม่ถูกหวย เพื่อไม่มาสร้างความสับสนในภายหลังเมื่อมีการประกาศผลหวยออกมา ยิ่งเจ้ามือคนใดที่มีลูกค้าเข้ามาซื้อหวยเยอะมากๆ

        แน่นอนว่าจะประสบปัญหาเยอะกว่าเจ้ามือคนอื่นๆ ดังนั้น RICHMANTOOL จึงมีไอเดียมาแนะนำให้เจ้ามือหวยในยุคใหม่สามารถที่จะจัดระบบการขายหวยได้ง่ายยิ่งขึ้น

        เพราะว่าเราสามารถเลือกใช้โปรแกรมคัดหวย ที่จะเป็นตัวช่วยชั้นดีให้เจ้ามือหวยในยุคใหม่ สามารถที่จะรับมือกับการที่มีคนมาซื้อหวยได้ง่ายยิ่งขึ้น

        โดยโปรแกรมใช้งานได้ง่ายดาย สามารถบันทึกได้รวดเร็ว ไม่ต้องจดลงกระดาษให้เปลืองเวลา เมื่อมีการบันทึกลงเรียบร้อยแล้ว โปรแกรมก็จะเก็บข้อมูลเอาไว้อย่างปลอดภัย

        เมื่อมีการประกาศผลออกมา เราสามารถใช้เลขหวยที่ออกมาใช้ในการตรวจสอบได้เร็วมากๆ สามารถเห็นได้เลยว่าใครบ้างที่ถูกหวย ช่วยให้เจ้ามือหวยใช้โปรแกรมคัดหวยทดแทนการที่จะต้องมานั่งคัดหวยด้วยการเปิดดูในกระดาษที่บันทึกเอาไว้ทีละใบ เรียกได้ว่าช่วยอำนวยความสะดวกในการขายหวยให้กับเจ้ามือยุคใหม่ได้ไม่น้อยเลย

       ดังนั้นหากท่านเป็นเจ้ามือหวยที่ไม่อยากประสบกับปัญหาสับสนวุ่นวายในการขายหวยนั้น อย่าลืมเลือกใช้โปรแกรมเจ้ามือหวยมาช่วยให้ท่านสามารถบันทึกและตรวจสอบหวยได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น รับรองว่าชีวิตเจ้ามือหวยจะง่ายดายสบายยิ่งกว่าเดิมแน่นอน

 

สอบถามเพื่อเติมได้ที่

   - 0819967118

   - 0818917118

หรืออ่านรายละเอียดได้ที  https://www.richmantool.com

เกาหลีใต้ผวา! หิมะเดือน ธ.ค. 62 ตกน้อยสุดเป็นประวัติการณ์ ผลพวงโลกร้อน

         กรมอุตุนิยมวิทยาเกาหลีใต้ เผยว่า เดือน ธ.ค. ปีที่แล้ว เป็นเดือน ธ.ค. ที่มีหิมะตกน้อยที่สุดตั้งแต่มีการบันทึกสถิติมา โดยตกหนาเพียงแค่ 3 มิลลิเมตรเท่านั้น ซึ่งเป็นผลจากอากาศที่อุ่น
         หิมะที่ตกน้อยถึงเพียงนี้ ยังน้อยกว่าหิมะที่ตกในเดือนเดียวกันของปี 2541 แชมป์เก่า ที่ตกหนาเพียง 6 มิลลิเมตร 
         ส่วนเดือน ธ.ค. ที่มีหิมะตกน้อยรองลงมาคือ ปี 2521 ตามมาด้วยปี 2559 และ 2547
อันดับปีความหนาของหิมะ (มิลลิเมตร)
125620.3
225410.6
325210.8
425590.9
525471.0
 
         นอกจากประเทศเกาหลีใต้แล้ว กรุงมอสโกของรัสเซียก็เผชิญกับเดือน ธ.ค. ที่อากาศร้อนที่สุดในรอบ 133 ปี จนทำให้รีสอร์ทหลายแห่งต้องสร้างหิมะเทียมเพื่อสร้างบรรยากาศให้เข้ากับฤดูหนาว
>> โลกร้อนพ่นพิษรัสเซีย! รีสอร์ตแห่ทำหิมะเทียม สัตว์อดจำศีล เผย ธ.ค. นี้ร้อนสุดรอบ 133 ปี

เตือนช่วงนี้ “น้ำประปาเค็ม” มี “โซเดียม” สูง ผู้ป่วยโรคไตควรเลี่ยง

        “กรมอนามัย” แจงยังดื่มน้ำประปาได้ แม้มีรสกร่อย ไม่ก่อปัญหาโซเดียมเกิน ส่วนผู้ป่วยโรคไตไม่ควรรับโซเดียมเพิ่มเลย แนะอาจซื้อน้ำขวดดื่มแทนก่อน

 

        น้ำเค็ม เพราะภัยแล้ง

        พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวถึงกรณีภาวะแล้งน้ำทะเลหนุนสูง ทำให้เกิดปัญหาน้ำประปาเค็ม จนมีข้อแนะนำให้ดื่มน้ำขวดแทนไปก่อน โดยเฉพาะผู้สูงอายุหรือผู้เป็นโรคไต เพราะอาจรับโซเดียมมากเกินไป ว่า ผู้ที่บริโภคน้ำประปาเป็นประจำอาจจะรับรู้ถึงรสชาติที่เปลี่ยนไปจากปกติในบางครั้ง โดยความเค็มดังกล่าวมาจากเกลือโซเดียมคลอไรด์หรือเกลือแกงที่ใช้ปรุงอาหาร ซึ่งองค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดค่าแนะนำเพื่อความน่าดื่มและการยอมรับของผู้บริโภคไว้

>> กปน.เร่งแก้ไข "น้ำประปา" รสชาติผิดปกติ แนะผู้ป่วยโรคไต-โรคหัวใจ ควรหลีกเลี่ยง


       โซเดียมสูง ทำให้น้ำประปากร่อย

       ในน้ำประปา ควรมีโซเดียมไม่เกิน 200 มิลลิกรัมต่อลิตร และคลอไรด์ไม่เกิน 250 มิลลิกรัมต่อลิตร แต่ถ้าเจือปนในน้ำมากเกินไปจะทำให้น้ำมีรสกร่อยถึงเค็มได้ ซึ่งทางโภชนาการและการแพทย์แนะนำว่า มนุษย์ควรรับโซเดียมเข้าสู่ร่างกายไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน โดยปัจจุบันน้ำประปามีโซเดียมประมาณ 100-150 มิลลิกรัมต่อลิตร จึงเป็นไปไม่ได้ที่คนปกติจะดื่มน้ำประปาจนได้รับโซเดียมเกินกว่าที่กำหนด


       น้ำประปาโซเดียมสูง อันตรายต่อสุขภาพผู้ป่วยโรคไต

       ความเค็มจากน้ำประปาอาจเพิ่มโซเดียมเข้าสู่ร่างกายต่อวันในปริมาณเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ แต่อาจจะส่งผลต่อกลุ่มเสี่ยงที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษคือกลุ่มผู้ป่วยโรคไต เพราะหากดื่มน้ำประปาที่มีความเค็มจะทำให้ได้รับโซเดียมเพิ่มขึ้นจากปกติได้ ดังนั้น ในช่วงน้ำประปาเค็ม กลุ่มผู้ป่วยโรคไตที่รับบริการฟอกไตที่โรงพยาบาลไม่ต้องกังวล เนื่องจากโรงพยาบาลทุกแห่งมีระบบการกรองแบบ Reverse Osmosis (RO) ที่ได้มาตรฐานและมีประสิทธิภาพ มั่นใจได้ในเรื่องความปลอดภัย

      สำหรับคนปกติทั่วไป การดื่มน้ำกร่อยอาจได้รับโซเดียมเพิ่มเติมจากปกติ จึงควรลดปริมาณสารปรุงแต่งอาหารที่มีความเค็มลง เช่น เกลือ น้ำปลา ซีอิ้ว ซอสปรุงรส ผงปรุงรส งดการบริโภคอาหารที่มีโซเดียมสูง เช่น ขนมกรุบกรอบ มันฝรั่งทอด หรือเปลี่ยนเป็นใช้น้ำดื่มบรรจุขวด ปิดสนิทแทนจะดีกว่า และยังส่งผลดีต่อสุขภาพด้วย

     “คนปกติทั่วไปไม่มีอะไรน่ากังวล เพราะไตทำงานปกติ สามารถขับของเสียออกมาได้ แต่ที่ต้องกังวลคือ ผู้ป่วยโรคไต เนื่องจากไตทำงานได้น้อยลง การกำจัดเกลือก็จะน้อยตามไปด้วย และมีความเสี่ยงภาวะไตวายได้ ดังนั้น ผู้ป่วยโรคไตไม่ควรรับเกลือเข้าสู่ร่างกายอยู่แล้ว อย่างคนทั่วไปรับได้วันละไม่เกิน 1 ช้อนชา ผู้ป่วยไตต้องน้อยกว่านั้นมาก ๆ อย่างแพทย์จะแนะนำเลยว่า ไม่ควรกินของเค็ม แต่ก็ขึ้นอยู่กับสภาพไตของแต่ละบุคคล” พญ.พรรณพิมล กล่าว

     ผู้ป่วยโรคไตควรต้องเลี่ยงดื่มน้ำประปา หรืออาจใช้เครื่องกรอง แต่ก็จะมีราคาแพง เพราะเครื่องกรองน้ำปกติส่วนใหญ่กรองตะกอน สิ่งปนเปื้อนอื่นๆ ไม่สามารถกรองความเค็มได้ เพราะละลายในน้ำเหมือนเกลือแกง ต้องใช้เครื่องกรองน้ำ Reverse Osmosis (RO) แต่มีราคาแพง ทางที่ดีที่สุดสำหรับผู้ป่วยโรคไต ควรซื้อน้ำขวดดื่มก่อน

ไม่รอด! แว้นห้าวเขาค้อ ขี่มอเตอร์ไซค์ลากเท้าโชว์สเต็ปแดนซ์ สุดท้ายโดนตำรวจจับ

       จากกรณี มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ข้อความ พร้อมคลิปวีดีโอ ภาพวัยรุ่นที่ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ คึกคะนองโชว์สเต็ปลีลาการลากเท้าสลับไปมาบนพื้นถนน ในขณะที่รถกำลังขับขี่อยู่ ราวกับโชว์ลีลาการเต้น จนถูกชาวเน็ต วิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม เป็นการขี่รถด้วยความประมาท ที่อาจจะเกิดอันตรายทั้งต่อตัวเอง และผู้ร่วมใช้ถนนได้ โดยคลิปดังกล่าว เกิดขึ้นในพื้นที่ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ และถูกถ่ายไว้โดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยว อ.เขาค้อ เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2563 เวลาประมาณ 15.00 น.

       ล่าสุดวันนี้ (6 ม.ค.63) พ.ต.อ.ศรายุทธ แผลงปัญญา ผกก.สภ.เขาค้อ ได้สั่งการให้ชุดสืบสวน สภ.เขาค้อ ทำการสืบสวนติดตาม จนทราบว่า ผู้ที่ขับขี่รถจักรยานยนต์และซ้อนท้ายรถคันดังกล่าว คือ ด.ช.ธีรภัทร (สงวนนามสกุล) อายุ 12 ปี เป็นผู้ขับขี่ และ ด.ช.โชคชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 15 ปี เป็นผู้ซ้อนท้าย ส่วนรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า สีดำ-แดง ในคลิป เป็นรถของนายคำพา อายุ 70 ปี มีศักดิ์เป็นตา และเป็นผู้ปกครองของ ด.ช.ธีรภัทร และ ด.ช.โชคชัย จึงได้นำตัวเด็กชายทั้งสองพร้อมรถจักรยานยนต์คันเกิดเหตุ และนายคำพา เจ้าของรถ มาพบพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย

       จากการสอบสวน  ด.ช.ธีรภัทร ผู้ขับขี่ ด.ช.โชคชัย ผู้ซ้อนท้าย และนายคำพา เจ้าของรถ ยอมรับสารภาพว่า ภาพที่ปรากฏในคลิปวีดีโอดังกล่าว เป็นเด็กชายทั้งสองจริง โดยการลากเท้าสลับไปมาบนพื้นถนน ในขณะที่รถกำลังวิ่งอยู่ ได้ลอกเลียนแบบมาจากในหนังฝรั่ง และยอมรับว่าขับขี่รถประมาทหวาดเสียวตามที่ปรากฏในคลิปจริง ซึ่งเกิดจากความคึกคะนอง จึงตั้งข้อหา ขับขี่รถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา43(4) แต่เนื่องจากผู้กระทำความผิดทั้งสองยังเป็นเยาวชน จึงได้ว่ากล่าวตักเตือน ไม่ให้ขับขี่รถในลักษณะดังกล่าวนี้อีก ซึ่ง ด.ช.ธีรภัทร และ ด.ช.โชคชัย รับสารภาพและรับปากว่า จะไม่ขับขี่รถในลักษณะดังกล่าวนี้อีก

 

ขอขอบคุณ

ข้อมูล : https://www.sanook.com/news/8002374/

แล้งหนัก กระทบคนริมโขง ตะไคร่น้ำโผล่ เปลี่ยนน้ำเป็นสีเขียว ออกหาปลาไม่ได้

           ชาวบ้าน จ.หนองคาย เผยต้องเปลี่ยนไปทำงานรับจ้างอย่างอื่น หลังเจอวิกฤตหน้าแล้ง น้ำในแม่น้ำโขงน้อย จนตะไคร่น้ำ และสาหร่ายโผล่ ออกหาปลาก็ไม่ได้ พบล่าสุดน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 10.74 เมตร

           เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2563 อมรินทร์ ทีวี รายงานว่า ส่วนอุทกวิทยาหนองคาย กรมทรัพยากรน้ำ เปิดเผยผลการตรวจสอบระดับน้ำในแม่น้ำโขงที่ จ.หนองคาย พบว่าอยู่ที่ 1.46 เมตร ต่ำกว่าตลิ่ง 10.74 เมตร ทำให้เกิดปรากฏการณ์น้ำโขงเปลี่ยนสีติดต่อกันเป็นระยะเวลาหลายวัน เนื่องจากน้ำต่ำ นิ่ง และมีสีใส ทำให้เกิดตะไคร่น้ำ สาหร่ายใต้น้ำเป็นจำนวนมาก

           สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อชาวบ้านหาดทรายทอง ต.หาดคำ อ.เมืองหนองคาย กว่า 20 ครอบครัว ที่ประกอบอาชีพหาปลา ไม่สามารถหาปลาได้ ต้องเปลี่ยนไปทำงานรับจ้างอย่างอื่นแทน เนื่องจากน้ำน้อย ทำให้ปลาหลบซ่อนตามโขดหิน หรือไปอยู่ที่ฝั่งของ สปป.ลาว ที่มีน้ำลึกกว่า และตะไคร่น้ำและสาหร่ายที่สร้างความลำบากเพราะจะติดตาข่าย ทำให้ไม่คุ้มในการออกเรือหาปลา

 

           ทั้งนี้ นายบุญ แสงสุวรรณ อายุ 53 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ เปิดเผยว่า ตะไคร่น้ำและสาหร่ายในปีนี้มีมากกว่าทุกปี คาดว่าเกิดจากที่น้ำโขงมีระดับต่ำ น้ำนิ่ง น้ำใส ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเห็นน้ำโขงใสแบบนี้และมีตะไคร่น้ำ และสาหร่ายใต้น้ำเป็นจำนวนมากแบบนี้มาก่อน

 

ขอขอบคุณ

ข้อมูล : https://hilight.kapook.com/view/198317

ฤกษ์ดี วันดี ฤกษ์มงคล เดือนมกราคม 2563

          เดือนมกราคม 2563 นี้ วันไหนดี วันไหนเสีย วันไหนที่ควรทำการมงคล มาเช็กกันได้เลย

วันที่ 3 มกราคม  2563 : สามารถทำบุญบ้านได้

วันที่ 7 มกราคม  2563 : สามารถขึ้นบ้านใหม่ ทำบุญบ้าน แต่งงานได้

วันที่ 8 มกราคม  2563 : สามารถทำการมงคล เปิดร้านค้า เปิดกิจการได้

วันที่ 9 มกราคม  2563 : สามารถเปิดร้าน กิจการเกี่ยวกับของสวยงามได้

วันที่ 10 มกราคม  2563 : สามารถลาบวช หรือนำพระเข้าบ้านได้

วันที่ 14 มกราคม  2563  : สามารถออกรถได้

วันที่ 15 มกราคม  2563 : สามารถออกรถ ทำการมงคลได้

วันที่ 16 มกราคม  2563 : สามารถแต่งงาน ทำบุญบ้าน ทำการมงคลได้

วันที่ 17 มกราคม  2563 : สามารถเปิดร้าน ทำการมงคลได้

วันที่ 22 มกราคม  2563 : สามารถเปิดร้าน กิจการเกี่ยวกับอาหาร ของสวยงามได้

วันที่ 23 มกราคม  2563 : สามารถขึ้นบ้านใหม่ ทำบุญบ้านได้

วันที่ 29 มกราคม  2563 : สามารถขึ้นบ้านใหม่ ลาบวชได้

 

ขอขอบคุณ

ข้อมูล : https://www.sanook.com/horoscope/174869/

เตือนวิกฤตภัยแล้ง น้ำประปาเค็ม กระทบคนกรุง คาดยาวนานถึง พฤษภาคม 63

          นักวิชาการ เผยผลตรวจสอบค่าความเค็มน้ำประปา พบสูงกว่าปกติ 5-10 เท่าตัว สืบเนื่องจากวิกฤตภัยแล้ง เตือนคนกรุงและปริมณฑลรับมือ คาดน้ำเค็มยาวนานถึงเดือนพฤษภาคม 2563

          สืบเนื่องจากกรณี รศ.ดร. เสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิต เตือนภัยถึงสถานการณ์น้ำประปาในพื้นที่กรุงเทพ และปริมณฑล ว่ามีค่าความเค็มเกินมาตรฐานที่เป็นอันตรายต่อเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคไต โรคหัวใจ เบาหวาน และความดัน ตั้งแต่ช่วงปีใหม่ 2563 สืบเนื่องจากภัยแล้ง ให้ใช้น้ำด้วยความระมัดระวัง ตามที่มีรายงานไปแล้วนั้น

          อ่านข่าว : นักวิชาการดังเตือนคนกรุง ค่าความเค็มน้ำประปาเกินมาตรฐาน อันตรายกำลังคืบเข้ามา

          ล่าสุด (4 มกราคม 2563) จากการตรวจสอบไปยังเฟซบุ๊ก Chaiwat Vorapeboonpong ของ นายชัยวัฒน์ วรพิบูลพงศ์ ผู้เชี่ยวชาญ การประปานครหลวง ระดับ 10 พบว่า ได้มีการโพสต์ข้อความเตือนตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ที่ผ่านมา ระบุว่า วิกฤติน้ำประปาเค็ม จะอยู่ยาวนานถึงเดือนพฤษภาคม 2563 พร้อมเปิดเผยว่า มีผลการตรวจสอบค่าความเค็มที่สูงกว่าปกติ 5-10 เท่าตัว มีคุณหมอฝากเตือนมาให้ระมัดระวัง และปรับตัว การใช้น้ำ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้ป่วยประเภท โรคไต หัวใจ สมอง และความดันโลหิตสูง

          ทั้งนี้ ผลการตรวจวัดค่าความเค็ม ตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2562 - 4 มกราคม 2563 ได้แก่..

          วันที่ 28 ธันวาคม 2562
          - เวลา 18.30 น. วัดค่าความเค็มได้ 1,780 มิลลิกรัม / ลิตร
          - เวลา 20.40 น. วัดค่าความเค็มได้ 2,030 มิลลิกรัม / ลิตร (นิวไฮ)

          วันที่ 29 ธันวาคม 2562
          - เวลา 18.00 น. วัดค่าความเค็มได้ 1,030 มิลลิกรัม / ลิตร

          วันที่ 30 ธันวาคม 2562
          - เวลา 18.30 น. วัดค่าความเค็มได้ 740 มิลลิกรัม / ลิตร

          วันที่ 31 ธันวาคม 2562
          - เวลา 11.20 น. วัดค่าความเค็มได้ 280 มิลลิกรัม / ลิตร
          - เวลา 19.40 น. วัดค่าความเค็มได้ 660 มิลลิกรัม / ลิตร

        
  วันที่ 1 มกราคม 2563

          - เวลา 20.30 น. วัดค่าความเค็มได้ 720 มิลลิกรัม / ลิตร

          วันที่ 2 มกราคม 2563
          - เวลา 18.20 น. วัดค่าความเค็มได้ 580 มิลลิกรัม / ลิตร

          วันที่ 3 มกราคม 2563
          - เวลา 18.00 น. วัดค่าความเค็มได้ 700 มิลลิกรัม / ลิตร

          วันที่ 4 มกราคม 2563
          - เวลา 07.00 น. วัดค่าความเค็มได้ 200 มิลลิกรัม / ลิตร

 

ขอขอบคุณ

ข้อมูล : https://hilight.kapook.com/view/198237