รีวิวเกม Days Gone ช่วงแรกชวนหลับ ช่วงหลังล่ะของจริง

รีวิวเกม Days Gone ช่วงแรกชวนหลับ ช่วงหลังล่ะของจริง

 

แบไต๋
สนับสนุนเนื้อหา

        พูดถึง Days Gone ความประทับใจแรกมันคงเป็นคลิปวิดีโอที่เปิดตัวตั้งแต่งาน E3 เมื่อปี 2016 เราต้องตกใจกับฉากการสู้ (หรือหนี) ฝูงซอมบี้เป็นร้อย ๆ ตัว ราวกับฉากในภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดอย่าง World War Z (ที่ไม่ใช่เกม) ก็ไม่ปาน ความคาดหวังที่สูงลิ่วก็ถูกยั้งลงเรื่อย ๆ ด้วยการเลื่อนวันจำหน่ายครั้งแล้วครั้งเล่า ยอมรับเลยนะว่าผมเป็นคนหนึ่งที่ค่อนข้างคาดหวังกับเกมเอ็กซ์คลูซีฟของฝั่ง Play Station คือถึงจะมีแป้กบ้างแต่การแป้กนั้นก็มักมีสิ่งที่ให้ร้องว้าวอยู่เสมอเช่นกัน ไม่ว่าเกมนั้นจะคือ The Order 1886 ที่บางคนสาปส่ง แต่เอาเข้าจริงมันก็มีภาพที่เว่อวังมาก ๆ นะ ซีเนมาติกของมันก็หนังดี ๆ เรื่องหนึ่งเลย และสำหรับ Days Gone นี่ผมก็อยากบอกว่า เกมเอ็กซ์คลูซีฟนั้นจะถุกใจไม่ถูกใจอย่างไรแต่ก็ไม่มีทางเป็นขยะหรอกครับ     

ระบบการเล่น

       ความรู้สึกตอนเล่นมันผสม ๆ กันหลายอย่าง เหมือนมันได้หยิบยืมเกมในลักษณะเดียวกันเกมอื่น ๆ มาปรับมาผสมรวมอยู่เยอะนะ ทั้ง Dying Light ทั้ง State of Decay บางช่วงก็นึกถึง The Last of Us บางช่วงนึกถึง Uncharted 4 เฉยเลยด้วย ความรู้สึกแรก ๆ มันจึงคือระบบอะไรไม่รู้เยอะยุ่บยั่บไปหมดทีต้องเรียนรู้ ทั้งระบบการเงินที่ใช้เป็นเครดิตความไว้ใจของแต่ละแค้มป์ที่มอบให้เรา เราจะไม่ได้ถือเงินไปมาในเกม แต่จะต้องทำภารกิจให้แค้มป์นั้น ๆ แล้วผู้นำของแค้มป์ก็จะให้เครดิตเราว่ามีเงินใช้ได้เท่าไหร่ในแค้มป์นี้

       แน่นอนว่าเมื่อคุณไปเจอแค้มป์อื่นคุณก็ต้องสร้างเครดิตในแค้มป์นั้นใหม่ใช้โอนเงินจากแค้มป์เดิมไม่ได้ เพราะแต่ละแค้มป์ก็ไม่ได้ถูกกันในแนวคิดการปกครองนัก แถมแต่ละแค้มป์ก็มีสินค้าที่ต่างกันอีก อยากแต่งรถก็ต้องไปแค้มป์นี้ อยากแต่งปืนต้องไปอีกแค้มป์ คือออกแบบระบบมาดึงผู้เล่นให้อยากสำรวจโลกทำนู้นนี่นั่นอยู่ตลอด กับภารกิจต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นแทบตลอดไม่มีให้เคว้งนั้นถือว่าทำดีเลย ไม่ค่อยมีเวลาที่รู้สึกเบื่อหน่ายกับการทำภารกิจ ไม่มีความซ้ำซากจนมีนัยยะ

        ความเป็นโลกเปิดกว้างก็ทำได้โอเค แผนที่ค่อย ๆ เปิดมากขึ้นตามเนื้อเรื่องไม่ได้เล็ก และใหญ่เกินไป (แต่มีฟาสต์ทราเวลนี่ก็ใช้รัว ๆ เพราะรำคาญพวกฟรีกเกอร์รายทางที่วิ่งตามไม่เลิก) ตัวละครหลักที่มีบททำดีเลยทั้งลักษณะนิสัย ภูมิหลัง ส่วนพวกชาวบ้านตัวประกอบทั้งหลายน่าเสียดายที่เราไม่สามารถปฏิสัมพันธ์ได้ก็ขาดสีสันไปหน่อย อีเว้นท์สุ่มที่เกิดขึ้นในแผนที่ก็มีที่น่าสนใจและธรรมดาปนกันไป แต่ไอ้อันที่น่าสนใจนี่ก็ทำเอาจำฝังใจเหมือนกัน ถึงโดยรวมจะไม่ได้โลกเปิดเทพขนาด Red Dead Redemption 2 แต่ก็มีสีสันไม่แห้งแล้งน่าเบื่อเลย มีอะไรทำเยอะเหมือนกันล่ะ แต่ก็ต้องยอมรับว่าเกมมันออกแบบให้มุ่งไปตามภารกิจจะเก็บรางวัลได้เวิร์กกว่าเล่นอิสระแบบไม่สนใจภารกิจเลยล่ะนะ ดังนั้นพวกสายชมนกชมไม้อาจรู้สึกว่าไม่ค่อยเต็มอิ่มนัก

        ระบบการเล่นก็มีครบเครื่อง อาวุธปืนมี 3 แบบ คือปืนพก ต่อมาปืนหลักที่มีทั้งอาวุธสงครามและลูกซอง  และสุดท้ายปืนพิเศษที่มีทั้งลูกดอกและสไนเปอร์ อาวุธประจำกายก็มีมีดที่ไม่มีวันพัง และสามารถเก็บพวกดาบหรือท่อนไม้ในฉากมาปรับแต่งเป็นอาวุธถือได้อีก (แต่อันนี้พังได้) การลอบฆ่า การใช้ระเบิด ใช้กับดัก มีให้เลือกวิธีเล่นมากมายถ้าคุณเก็บมันมาได้นะ การสำรวจเก็บทรัพยากรจึงมีความสำคัญไม่น้อยกว่าตัวเงิน ที่หลัก ๆ เลยก็มีพวกอุปกรณ์ปฐมพยาบาลที่ช่วยเรื่องชีวิต และเก็บวัสดุเครื่องจักรมาใช้ซ่อมหรือพัฒนาเครื่องไม้เครื่องมือของเรา สิ่งหนึ่งที่ขาดหายไปคือการที่ตัวละครเราไม่ต้องรับประทานอะไรเลยก็อยู่ได้ แม้จะมีให้ล่าสัตว์ได้เก็บพืชได้ แต่เป้าหมายก็เน้นที่การนำไปขายตามแค้มป์เสียมากกว่า น่าจะเพื่อลดความยุ่งยากในการเล่น (ละเอียดแบบ Red Dead Redemption 2 มันก็ไม่สนุกสำหรับบางคนล่ะนะ)

       เกมสร้างความท้าทายในการเล่นได้พอดี ไม่ง่ายจนน่าเบื่อ และไม่ยากจนไม่รู้วิธีผ่าน เช่นว่า อย่างการเสริมสกิลพลังกายนั้นเราไม่สามารถเพิ่มจากการเก็บค่าประสบการณ์เหมือนสกิลทั่วไป แต่ต้องบุกฐานวิจัยร้างที่กระจายอยู่ทั่วแผนที่แทน โดยการจะเข้าไปในตัวแล็บได้จำเป็นต้องหาน้ำมันมาปั่นไฟ และถ้าเราสำรวจจัดการไม่ดีพอเมื่อไฟติดปลดล็อกประตูไฟฟ้าได้ ก็จะทำให้ลำโพงขยายเสียงของศูนย์วิจัยทำงานด้วย ถ้าเราไม่จัดการทำลายลำโพงให้หมดก่อนเปิดเครื่องปั่นไฟก็เตรียมเจอฝูงฟรีกเกอร์ได้เลย และบอกเลยโคตรไม่สนุกกับการหนีฝูงเปรตวิ่งเร็วนรกพวกนี้ เพราะเรามีค่าความเหนื่อยที่ทำให้สปริ้นท์ได้ไม่นานขนาดจะรอดตาย หรือถ้าจะสู้แบบในเดโมที่เขาโชว์มาก็บอกเลยว่าอาจไม่คุ้มกับทรัพยากรที่ต้องเสียไปทั้งปืนทั้งยา เมื่อถึงจุดหนึ่งคุณจะพบว่านอกจากความเป็นเกมแอคชั่น เกมอาร์พีจีแล้ว นี่มันเกมบริหารทรัพยากรนี่หว่า

 

      เราจะเห็นชัดสุดเลยคือการเดินทางที่มันต้องคิดเรื่องน้ำมันให้ดีเลย เพราะถ้าไปหมดกลางทางนี่มีร้องเหมือนกัน เพราะคุณไม่มีทางทิ้งมอเตอร์ไซได้เลย ชีวิตคุณอยู่กับมันไม่ใช่เพราะมัยช่วยคุณหนีได้ไวอย่างเดียว แต่คุณจะโดนบังคับเซฟได้หรือใช้ฟาสต์ทราเวลได้ก็ต่อเมื่ออยู่ใกล้มอเตอร์ไซเท่านั้น เล่นไปบางทีจะรู้สึกนี่มันตัวภาระที่ทิ้งไม่ได้นี่หว่า 555 แต่ก็นั่นล่ะครับมันช่วยให้เกมมีความท้าทายเพิ่มขึ้นด้วย ศัตรูก็มีความหลากหลายที่ต้องปรับกลยุทธ์รับมือแตกต่าง ถือว่าทำได้ดี ถึงจะมีบ้างที่รู้สึกเอไอศัตรูบางทีก็โง่เกินไป แต่บางทีก็ฉลาดจนเรารู้สึกหวาดระแวงได้เลยทีเดียว

     โดยรวมถึงจะไม่ได้ประทับใจระบบการเล่นแบบสุด ๆ เพราะรู้สึกขาดความเป็นออริจินัล และการบังคับปุ่มบางช่วงก็รู้สึกใจในการที่ต้องใช้หลายนิ้วคุมช่วงฉุกละหุกด้วย แต่มันก็ดีในแนวทางของการมิกซ์แอนด์แม็ทช์เกมอื่น ๆ ได้ลงตัวระดับหนึ่งเลย

 

ขอบคุณที่มา  https://www.sanook.com/game/1029273/

ไม่มีความคิดเห็น: