ชลประทาน เผย อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 5 แห่งโคราชเริ่มวิกฤต เหลือน้ำไม่ถึงครึ่ง
อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 5 แห่งโคราชเริ่มวิกฤต ลำตะคอง เหลือน้ำไม่ถึงครึ่ง สำนักชลประทานงดส่งน้ำให้ทำนาปรัง
วันที่ 4 มกราคม 2563 สำนักข่าว INN รายงานว่า นายเกียรติศักดิ์ หนูแก้ว ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 8 นครราชสีมา เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 5 แห่ง ของ จ.นครราชสีมา ขณะนี้ภาพรวมมีปริมาณน้ำกักเก็บเหลืออยู่เพียง 332.56 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 33 ของความจุกักเก็บรวมทั้งหมด 1,006.90 ล้านลูกบาศก์เมตร เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วมีปริมาณน้ำเหลืออยู่ 582.44 ล้านลูกบาศก์เมตร ดังนั้นปีนี้ถือว่ามีปริมาณน้ำเหลือน้อยมาก
โดยจากการรายงานปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้ง 5 แห่ง วันนี้ ได้แก่
1. อ่างเก็บน้ำลำตะคอง อ.สีคิ้ว มีปริมาณน้ำกักเก็บเหลืออยู่ 153.82 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 44.91 ของความจุกักเก็บทั้งหมด 314.49 ล้านลูกบาศก์เมตร
2. อ่างเก็บน้ำมูลบน อ.ครบุรี มีปริมาณน้ำเหลืออยู่ 48.90 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 34.68 ของความจุกักเก็บทั้งหมด 141 ล้านลูกบาศก์เมตร
3. อ่างเก็บน้ำลำแชะ อ.ครบุรี มีปริมาณน้ำเหลืออยู่ 84.79 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 30.83 ของความจุกักเก็บทั้งหมด 275 ล้านลูกบาศก์เมตร
4. อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย มีปริมาณน้ำเหลืออยู่ 22.21 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 14.33 ของความจุกักเก็บทั้งหมด 155 ล้านลูกบาศก์เมตร
5. อ่างเก็บน้ำลำนางรอง อ.เสิงสาง มีปริมาณน้ำเหลืออยู่ 22.84 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 18.81 ของความจุกักเก็บทั้งหมด 121.41 ล้านลูกบาศก์เมตร
ซึ่งปีนี้ถือว่ามีปริมาณน้ำในเขื่อนหลักของ จ.นครราชสีมา น้อยกว่าหลายปีที่ผ่านมา ส่งผลให้การบริการจัดการน้ำต้องมีมาตรการควบคุมการใช้น้ำอย่างประหยัดที่สุด โดยเฉพาะน้ำเพื่อการเกษตร ทำนาปรัง ปีนี้จะไม่มีการส่งน้ำให้ทำนาปรังเด็ดขาด ซึ่งจะเน้นเก็บน้ำเพื่อใช้อุปโภคบริโภคช่วงหน้าแล้งเป็นหลัก จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนงดทำนาปรัง เพราะจะมีความเสี่ยงที่ข้าวจะแห้งตายได้รับความเสียหายในอนาคตได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น