7 ผัก-ผลไม้แนะนำช่วงหน้าร้อน ป้องกันภาวะขาดน้ำ

7 ผัก-ผลไม้แนะนำช่วงหน้าร้อน ป้องกันภาวะขาดน้ำ
 
S! Health (Rewrite)
สนับสนุนเนื้อหา

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะนำประชาชนคลายร้อนเพิ่มน้ำให้กับร่างกายด้วยการดื่มน้ำเปล่า อย่างน้อย 8-10 แก้วต่อวัน และกินผักผลไม้ใกล้ตัวซึ่งมีส่วนประกอบของน้ำสูง เช่น แตงกวา คะน้า มะเขือเทศ แตงโม มะละกอ ฝรั่ง และสะระแหน่ ช่วยป้องกันภาวะขาดน้ำ

แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ช่วงหน้าร้อนอาจทำให้ร่างกายรู้สึกอ่อนเพลีย เกิดภาวะขาดน้ำได้ การป้องกันจึงควรดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อย 8-10 แก้วต่อวัน และกินผัก ผลไม้ ที่มีส่วนประกอบของน้ำเต็มไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ ใยอาหาร และสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งผักและผลไม้หลายชนิดเป็นที่คุ้นเคยหรือกินกันเป็นประจำอยู่แล้ว อุดมไปด้วยน้ำสูงถึงร้อยละ 90 ช่วยลดความร้อนและทำให้ร่างกายสดชื่น ช่วยทดแทนน้ำในร่างกายที่สูญเสียไปเนื่องจากอากาศร้อนได้เป็นอย่างดี  มีสารต้านอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ช่วยลดการอักเสบจากการเผาไหม้ของแสงแดดในหน้าร้อน ช่วยปกป้องผิวและสายตาจากการถูกทำลายจากแสงแดด ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น ได้แก่

  • แตงกวา

  • คะน้า

  • มะเขือเทศ

  • แตงโม

  • มะละกอ

  • ฝรั่ง

  • สะระแหน่ เป็นสมุนไพรเย็น ช่วยบรรเทาอาการหวัด ขับเหงื่อ ระบายความร้อน มีสารเมนทอลที่มีคุณสมบัติเย็น ใช้ในการรักษาอาการอ่อนเพลียและบรรเทาอาการปวดหัวไมเกรน

    ทั้งนี้ ในฤดูร้อนโรคท้องร่วงจะมีโอกาสเกิดสูงกว่าฤดูกาลอื่น ๆ หากมีอาการท้องร่วงจะทำให้เกิดภาวะขาดน้ำหรือเกลือแร่ สามารถดื่มผงเกลือแร่หรือที่เรียกว่า โออาร์เอส (ORS: Oral Rehydration Salts) โดยละลายผงเกลือแร่ในน้ำต้มสุกที่เย็นแล้วตามปริมาตรและวิธีที่ระบุบนฉลาก ดื่มเพื่อชดเชยน้ำและเกลือแร่ที่สูญเสียได้

    ทางด้าน ดร. แพทย์หญิงสายพิณ โชติวิเชียร ผู้อำนวยการสำนักโภชนาการ กล่าวว่า ประชาชนควรเลือกกินผักและผลไม้มากกว่าดื่มน้ำผลไม้เพื่อให้ได้รับใยอาหาร ซึ่งจะช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาล ลดการสะสมของคอเลสเตอรอล และช่วยในการขับถ่าย แต่การกินผลไม้ต้องระวังเรื่องน้ำตาลที่แฝงในผลไม้

    ควรเลือกกินผลไม้ รสไม่หวานจัด ควรกินวันละ 3-5 ส่วน ผลไม้ 1 ส่วน เช่น แตงโม 6 ชิ้นคำ หรือมะละกอ 6 ชิ้นคำ หรือ ฝรั่งครึ่งลูก และกินผักอย่างน้อยมื้อละ 2 ทัพพี หน้าร้อนผู้คนมักต้องการดื่มเครื่องดื่มรสหวาน หากรู้สึกอยากดื่มน้ำหวาน ควรเลือกดื่มน้ำผักผลไม้สดจากธรรมชาติ น้ำผลไม้สำเร็จรูป 100 เปอร์เซ็นต์ แต่การกินน้ำผลไม้ก็จะได้รับน้ำตาลสูงกว่าผลไม้สด เพราะจะมีโอกาสกินในปริมาณมากกว่า

    ควรเลี่ยงเครื่องดื่มรสหวาน เช่น ชาเขียวสำเร็จรูป น้ำอัดลม น้ำหวาน น้ำสมุนไพร ชา กาแฟ หากเลี่ยงเครื่องดื่มรสหวานไม่ได้ขอให้เลือกสูตรหวานน้อยหรือสั่งหวานน้อย งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพราะจะทำให้หลอดเลือดขยายตัว เกิดการขับน้ำออกจากร่างกายเร็วขึ้น เหงื่อออก ปัสสาวะบ่อย ส่งผลให้ร่างกายขาดน้ำโดยไม่รู้ตัว


ขอบคุณที่มา  https://www.sanook.com/health/15321/

ไม่มีความคิดเห็น: