ต้นกะบากยักษ์โบราณ โค่นทับคนออกกำลังกาย อนุสาวรีย์พระยารัษฎาฯ เมืองตรัง

           ต้นกะบากยักษ์อายุกว่า 100 ปี ล้มถอนรากถอนโคน บริเวณอนุสาวรีย์พระยารัษฎาฯ ทับร่างคนมาวิ่งออกกำลังกาย บาดเจ็บระนาว

           เมื่อวานนี้ (25 ต.ค.) ศูนย์นเรนทรตรัง ได้รับแจ้งว่า มีต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มทับคนภายในสวนสาธารณะอนุสาวรีย์พระยารัษฎานุประดิษฐ์ (คอ ซิมบี้ ณ ระนอง) เจ้าเมืองตรังในอดีต ถนนพัทลุง เขตเทศบาลนครตรัง มีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก รถพยาบาลฉุกเฉินจึงรุดไปยังที่เกิดเหตุ เข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ออกมาจากใต้ต้นไม้ได้ 6 คน พร้อมทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำส่งโรงพยาบาลศูนย์ตรังอย่างเร่งด่วน

           จากการเข้าตรวจสอบในพื้นที่ พบว่าต้นไม้ใหญ่ดังกล่าว เป็นต้นกะบากยักษ์ อายุประมาณ กว่า 100 ปี และมีเส้นรอบวงประมาณ 2 คนโอบ ความสูงประมาณ 15-20 เมตร ล้มลงในสภาพทับขวางถนนภายในสวนสาธารณะแบบถอนรากถอนโคน

           อีกทั้งยังล้มทับรถบรรทุก 6 ล้อ ทะเบียน 70-9407 นครสวรรค์ ในสภาพบริเวณส่วนหน้าด้านบนพังยับ และกระจกด้านหน้าแตก ส่วนท้ายกระบะหลังก็ได้รับความเสียหาย ส่วนผู้บาดเจ็บล้วนเป็นผู้มาวิ่งออกกำลังกายในช่วงดังกล่าว เบื้องต้นอาการสาหัส 3 คน

           จากการสอบถาม นายสุวิทย์ ชาวบ้านในเขตเทศบาลนครตรัง ที่มาออกกำลังกายภายในสวนสาธารณะอนุสาวรีย์พระยารัษฎานุประดิษฐ์ เป็นประจำ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองได้เตะตะกร้อ และอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 100 เมตร จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงดังสนั่นมาก เมื่อรีบวิ่งมาดูก็พบว่า มีต้นไม้ล้มทับ และมีผู้บาดเจ็บหลายคน

           ส่วนสาเหตุคาดว่าคงเป็นเพราะฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องมาประมาณ 5-7 วันทำให้ดินชุ่มน้ำ ต้นไม้มีขนาดใหญ่สูง จึงล้มลงแบบถอนรากถอนโคน จนมีผู้บาดเจ็บและทรัพย์สินได้รับความเสียหาย คือรถบรรทุก 6 ล้อ ซึ่งขนเครื่องไม้ เครื่องมือ อุปกรณ์ สำหรับมาจัดงานปั่นจักรยานในวันพรุ่งนี้ (26 ต.ค.) แต่มาเกิดเหตุอุบัติเหตุต้นไม้ล้มมาทับรถบรรทุกที่ขนอุปกรณ์จัดงานเสียก่อน นอกจากนั้นปืนใหญ่ได้รับความเสียหาย 1 กระบอกด้วย

           หลังเกิดเหตุ นายอภิชิต วิโนทัย นายกเทศมนตรีนครตรัง ได้เดินทางมายังที่เกิดเหตุ เพื่อดูผู้ได้รับบาดเจ็บและตรวจสถานที่เกิดเหตุ โดยให้เจ้าหน้าที่เทศบาลได้เร่งทำการตัดต้นไม้ขนาดใหญ่ออก เพื่อไม่ให้ทับรถบรรทุก 6 ล้อ อีกทั้งขนไม้ออกไปจากพื้นที่และทำความสะอาด

 

ขอขอบคุณ

ข้อมูล : https://www.sanook.com/news/7933986/

ไม่มีความคิดเห็น: