"สลัดผัก" กับสิ่งที่ควรเลี่ยงหากอยากกินเพื่อสุขภาพดี
โปรตีนเป็นสารอาหารที่คุณไม่ควรมองข้ามเมื่อกินสลัด เพราะนอกจากจะช่วยให้อิ่มท้องนานขึ้น ยังมีประโยชน์อีกมากมาย เช่น ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ กระตุ้นการเผาผลาญ บำรุงผิวและผม แต่หากกินโปรตีนมากหรือน้อยเกินไปก็อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพได้ กินน้อยเกินไปอาจทำให้ร่างกายสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ ปวดข้อ มีภาวะความดันต่ำ กินมากไปอาจทำให้มีภาวะขาดน้ำ คลื่นไส้ ปวดศีรษะ ท้องเสีย เพิ่มความเสี่ยงโรคมะเร็ง เป็นต้น
ผักสลัดยอดนิยมอย่างผักกาดแก้ว (iceberg lettuce) มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก แต่มีสารอาหารอื่นน้อยมาก เมื่อเทียบกับผักใบเขียวเข้ม เช่น ปวยเล้ง เคล หรือผักกาดชนิดอื่นๆ อย่าง ผักกาดโรเมน ผักกาดหอม ผักกาดหอมใบแดง ผักกาดหอมบัตเตอร์เฮด ที่อุดมไปด้วย โฟเลต วิตามินเอ วิตามิน เค และไฟโตนิวเทรียนท์ สลัดที่ดีจึงควรใส่ผักให้หลากหลายชนิด เพราะการกินผักชนิดเดียว หรือสีเดียว อาจทำให้คุณได้สารอาหารไม่ครบถ้วน หรือได้รับสารอาหารอย่างใดอย่างหนึ่งมากเกินไป ทั้งยังมีผลการศึกษาที่ระบุว่าผู้ที่กินผักหลากหลายกว่ามีความเสี่ยงเกิดโรคมะเร็งปอดน้อยกว่าด้วย
ชีสอุดมไปด้วยแคลเซียมและโปรตีน แต่ก็มีโซเดียม ไขมันอิ่มตัว และแคลอรีสูง การกินแต่ละครั้งจึงไม่ควรเกิน 1-1.5 ออนซ์ (ประมาณ 28-43 กรัม) หรือประมาณลูกเต๋า 2 ลูก และควรเลือกเป็นชีสแบบแข็ง เช่น พาร์มีซานชีส ชีสไขมันต่ำ หรือชีสมังสวิรัติที่ทำด้วยข้าว หรือถั่วเหลืองแทนก็ได้
น้ำสลัดส่วนใหญ่ที่ขายอยู่ในท้องตลาด มักมีไขมันและแคลอรีสูง น้ำสลัดแบบครีมเพียง 2 ช้อนโต๊ะให้พลังงานถึง 100-200 กิโลแคลอรี หากใครราดน้ำสลัดจนชุ่มก็ยิ่งทำให้ปริมาณมาณพุ่งสูงขึ้นไปอีก เวลากินสลัดคุณควรเลือกน้ำสลัดสูตรไขมันต่ำ น้ำตาลน้อย หรือเพิ่มรสชาติด้วยการเหยาะน้ำส้มสายชูจากน้ำองุ่น (balsamic vinegar) หรือบีบน้ำมะนาวแทน หากใครกินสลัดที่ร้านอาหารก็อย่าลืมบอกพนักงานให้แยกน้ำสลัดมาต่างหาก
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น